POLITICS

‘เพื่อไทย’ แถลงซัด ‘ประยุทธ์’ ใช้สภาสืบทอดอำนาจ

‘เพื่อไทย’ แถลงซัด ‘ประยุทธ์’ ใช้สภาสืบทอดอำนาจ ‘ชลน่าน’ ยกเป็น “ความอัปยศที่สุดของรัฐสภาไทย” ‘ประเสริฐ’ คาดนายกฯ ขาดความรักจึงยอมฝ่าฝืนกฎหมาย ‘สุทิน’ หวั่นรัฐบาลวางเกมชั่วร้ายมากกกว่านี้

วันนี้ (7 ก.ค. 65) เวลา 10:08 น. พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ตลอดจนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.แ.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่ …) พ.ศ. … ร่วมกล่าวแถลงการณ์

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานในรัฐสภาไทย ที่มีการเห็นชอบกับญัตติเสนอแก้ไขเพิ่มเติมการเลือกตั้งในร่าง พ.ร.ป. มาตราที่ว่าด้วยเกี่ยวกับการคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อให้กับพรรคการเมือง โดยรัฐสภาเสียงข้างมากได้ลงมติเห็นชอบกับ กมธ. เสียงข้างน้อยและผู้สงวนคำแปรญัตติว่าให้ใช้วิธีคำนวณแบบจัดสรรปันส่วนผสม (MMP) คือหารด้วย 500 ที่เคยใช้ในรัฐธรรมนูญ ปี 2560 กับการเลือกตั้งปี 2562

“ระบบนี้สร้างให้เกิดภาพจริงทางการเมืองในปัจจุบัน คือมี ส.ส. พรรคเล็กพรรคน้อย ส.ส. ปัดเศษ และรัฐบาลผสม 20 กว่าพรรค ทำให้การทำงานของรัฐสภาไม่เป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้อง จนได้รับฉายาว่าเป็นสภาฯ ที่ขับเคลื่อนด้วยการแจกกล้วย” นพ.ชลน่าน กล่าวสาเหตุที่นำไปสู่การแก้ไขระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ

นพ.ชลน่าน กล่าวถึงกระบวนการเสนอร่าง พ.ร.ป. ดังกล่าว ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ จนรัฐสภาให้ความเห็นชอบในวาระที่ 1 แต่จนกระทั่งการพิจารณาในวาระที่ 2 มีกระแสที่สื่อมวลชนนำเสนอว่ามีสั่งการให้หาร 500 จากทำเนียบรัฐบาล และพิสูจน์จากการลงมติเมื่อคืนว่า เป็นไปอย่างนั้นจริง

“การเปลี่ยนระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะถูกแก้ด้วยกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญให้เป็นระบบจัดสรรปันส่วนผสม แน่นอนว่าทุกคนเห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญ แต่ผู้มีอำนาจเขาต้องการแบบนี้ เพราะเกิดจากการแลกเปลี่ยนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นหลักประกันว่า 30 เสียงจากพรรคการเมืองกลุ่มหนึ่งจะช่วยโหวตให้ ถ้ารายงานข่าวนี้เป็นจริง เป็นความอัปยศที่สุดในรัฐสภาไทย ผมขอประณาม ไม่เคยเกิดขึ้นแบบนี้มาก่อน เพราะคนสั่งการสั่งยกเลิกกฎหมายตนเอง” นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวถึงนายกรัฐมนตรีว่า ถ้าทำเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง ในลักษณะที่นายกฯ เหมือนถูกบีบคออยู่ตลอด ที่ต้องยอมพรคการเมืองต่อรองกฎหมายและผลประโยชน์ พฤติกรรมเหล่านี้ส่อว่าผู้สั่งการและสมาชิกสภาฯ ที่ปฏิบัติ จงใจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญและมาตรฐานจริยธรรม เราจะดำเนินการตามตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ใช้กลไกผ่าน ป.ป.ช. ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย แม้ว่ามีโอกาสที่ศาลและองค์กรอิสระที่รับร่างกฎหมายไปจะตีกลับมาให้พิจารณาใหม่ก็ตาม

ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค อ่านแถลงการณ์พรรคเพื่อไทยว่า การเลือกตั้งตามระบบใหม่นี้แยกการเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อออกจากกัน ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แบบละ 1 ใบ การคํานวณจำนวน ส.ส. บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมืองเป็นสัดส่วนที่สัมพันธ์กันโดยตรงกับคะแนนรวมในแบบบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองนั้นได้รับ ไม่มีการนําจำนวน ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่พรรคการเมืองได้รับมาพิจารณาว่าผลสุดท้ายพรรค การเมืองนั้นจะได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อเท่าใด

ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … ทั้ง 4 ร่าง รวมทั้งร่างของคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นร่างหลักในการพิจารณาในการแก้ไขมาตรา 128 แห่ง พรป.เลือกตั้งฯ ต่างก็เสนอวิธีการคํานวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติมเหมือนกัน คือ ให้นําผลคะแนนรวมที่ทุกพรรคการเมืองได้รับจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อหารด้วย 100 แล้วนําผลลัพธ์ไปหารคะแนนที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับ ผลก็คือจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมือง โดยไม่คํานึงว่าพรรคการเมืองจะได้ ส.ส.แบ่งเขตเท่าใด ซึ่งคณะกรรมาธิการที่รัฐสภาตั้งก็เห็นชอบกับร่างที่แก้ไข มาตรา 128 โดยไม่มีการแก้ไข

“สองวันนี้มีข่าวมาตลอดว่ามีผู้มีอำนาจในรัฐบาลต้องการให้เปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้งกลับไปเป็นระบบจัดสรรปันส่วนผสมเพื่อสืบทอดอำนาจของตนต่อไป โดยไม่คำนึงถึงกฎหมายและข้อบังคับของรัฐสภา คำนึงแต่ความอยู่รอดและผลประโยชน์ทางการเมืองของตน วันนี้สมาชิกรัฐสภาจำนวนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในซีกรัฐบาลได้ใช้เสียงข้างมากจงใจกระทำการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 โดยลงมติแก้ไขมาตรา 128 ตามกรรมาธิการเสียงข้างน้อย เพื่อนําระบบจัดสรรปันส่วนผสมที่ถูกยกเลิกโดยรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2564 กลับมาใช้ การแก้ไขเช่นนี้ขัดมาตรา 91 แห่งรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ. 2564 และข้อบังคับการประชุมรัฐสภาอย่างชัดเจน” นายประเสริฐ กล่าว

พรรคเพื่อไทยจึงขอแถลงให้สื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนได้ทราบถึงการใช้เสียงข้างมากกระทำการตามอำเภอใจ ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจ และพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการเพื่อให้ศาล รัฐธรรมนูญวินิจฉัยประเด็นร่างมาตรา 128 ขัดรัฐธรรมนูญต่อไป และจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้งความเลวร้ายเหล่านี้

นายประเสริฐ กล่าวความเห็นว่า พลเอก ประยุทธ์ ต้องการสืบทอดอำนาจต่อโดยใช้เครื่องมือคือระบบการเลือกตั้ง ผมเรียนว่า ท่านคงจะไม่ได้รับความรักจากพี่น้องประชาชน เลยต้องใช้วิธีการที่แม้จะขัดกับหลักการก็ฝืน ในเรื่องนี้ผมเรียนว่าเป็นการที่ฝ่ายบริหารใช้อำนาจก้าวก่ายฝ่ายนิติบัญญัติ พรรคเพื่อไทยจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป

นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พิสูจน์แล้วว่า คนที่ทำความชั่วให้กับระบอบประชาธิปไตย ก็ไม่หยุดยั้ง และไม่กล้าเชื่อว่าจะกล้าทำขนาดนี้ เราคิดว่าคงกล้าทำความชั่วร้ายกว่านี้อีกต่อไป เราเชื่อว่ามีการวางแผนซ่อนกลที่จะทำความชั่วเยอะกว่านี้อีก เราเชื่อและเฝ้ามองว่ารัฐบาลจะวางกลเกมให้ไปเจอทางตันมากกว่านี้อีก ซึ่งท้ายที่สุดรัฐบาลจะกำหนดระบบเลือกตั้งได้เบ็ดเสร็จกว่าเมื่อคืนอีก

“อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย เราต้องรักษาไว้” นพ.ชลน่าน กล่าวทิ้งท้าย

เรื่อง : ณัฐนนท์ เจริญชัย
ภาพ : ธนาภรณ์ วุฒิสนธิ์

Related Posts

Send this to a friend