หมอยงเตือนระวัง “โนโรไวรัส” ระบาดแถบภาคตะวันออก
แพทย์เตือน เฝ้าระวัง “โนโรไวรัส” ระบาดทางภาคตะวันออกของไทย พบได้ในทุกวัย ติดต่อง่าย อาจป่วยพร้อมกันได้ทั้งครอบครัว
วันนี้ (9 ม.ค. 65) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงโรคท้องเสีย โนโรไวรัส ที่กำลังระบาดในภาคตะวันออก โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่ก่อนช่วงปีใหม่ว่า ไวรัสตัวนี้ทำให้ท้องเสีย อาเจียน และปวดท้อง บางรายอาจจะมีไข้ 1 ถึง 3 วัน อาการคล้ายอาหารเป็นพิษ ทำให้อาจเข้าใจได้ว่าอาหารเป็นพิษ พบได้ในทุกวัยและติดต่อกันได้ง่าย บางครั้งป่วยพร้อมกันทั้งครอบครัว หรือระบาดในโรงเรียน ในสถานเลี้ยงเด็ก
ศ.นพ.ยง เพิ่มเติมว่า ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยาฯ ได้ตัวอย่างส่งตรวจมาจากกรมควบคุมโรค เพื่อตรวจหาเชื้อโนโรไวรัส จึงได้ถอดรหัสพันธุกรรม พบว่าเป็นเชื้อโนโรไวรัสสายพันธุ์ GII.3[P25] ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ไม่ค่อยมีการรายงาน แต่ครั้งนี้พบการระบาดเป็นวงกว้าง การวิเคราะห์ทางพันธุกรรมมีความใกล้เคียงกับ GII.3[P25] ที่พบในเมืองหูโจวของจีน เมื่อเดือนมีนาคมในปี 2021 ขณะเดียวกัน ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยาฯ ได้เคยตรวจพบ recombinant strain ดังกล่าว (MK590956) เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2018 จากผู้ป่วยท้องเสียในเขตกรุงเทพมหานคร
สำหรับโรคนี้ ศ.นพ.ยง บอกว่า พบได้บ่อยในฤดูหนาว ในบางปีจะมีการระบาดเป็นวงกว้าง การระบาดครั้งนี้มีผู้ป่วยจำนวนมาก และมักจะเข้าใจผิดว่าอาหารเป็นพิษ ไวรัสนี้ไม่มีเปลือกหุ้ม จึงมีความคงทนในสิ่งแวดล้อมมาก และทนต่อน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์ สารที่จะใช้ทำลายเชื้อได้ดีคือน้ำยาที่มีส่วนประกอบของคลอรีน เช่น คลอรอกซ์ (น้ำยาล้างห้องน้ำ) ดังนั้นการฆ่าเชื้อ เช่น ผ้าอ้อมเด็กที่ใช้แล้วทิ้ง ที่ปนเปื้อนอุจจาระเด็กท้องเสีย ก่อนทิ้งให้หยดน้ำยาล้างห้องน้ำลงไปทำลายเชื้อก่อน แล้วค่อยม้วนทิ้ง เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจายออกไป
