POLITICS

กต.ยืนยันไทยเดินหน้าบทบาททางการทูตกับ มิตรประเทศด้วยข้อเสนอที่สร้างสรรค์

โฆษกบัวแก้วยืนยันไทยเดินหน้าบทบาททางการทูตกับมิตรประเทศด้วยข้อเสนอที่สร้างสรรค์และความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับมหาอำนาจและนานาประเทศในการรักษาเสถียรภาพในภูมิภาค

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกรณีมีรายงานวิเคราะห์ข่าวว่า การดำเนินการทูตของไทยในปัจจุบันมิได้เป็นไปในแนวทางที่ถูกที่ควร อันทำให้บทบาทของไทยในโลกและเวทีระหว่างประเทศถดถอย รวมทั้งมีมิตรประเทศน้อยลง และไม่สามารถรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติได้เท่าที่ควร ดังนี้

1.ไทยมีความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ใกล้ชิด มีพลวัตอย่างต่อเนื่อง และปฏิสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องกับนานาประเทศทั่วโลก ในทุกระดับและทุกด้าน รวมทั้งกับมหาอำนาจ ทั้งสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย สหภาพยุโรป (EU) สหราชอาณาจักร และรัสเซีย เป็นต้น

ไทยได้รักษาสมดุลในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในทุกมิติ อันเป็นรากฐานที่สำคัญของนโยบายการต่างประเทศไทยมาโดยตลอด

2.การดำเนินความสัมพันธ์และผลักดันความร่วมมือที่ดีเชิงรุกและใกล้ชิดระหว่างไทยกับนานาประเทศส่งผลให้สามารถได้รับการสนับสนุนจากมิตรประเทศทั่วโลกด้วยไมตรีจิตในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่น

จีน ได้ส่งวัคซีน Sinovac จำนวน 1 ล้านโดสให้ไทยและอำนวยความสะดวกและติดตามการจัดหาวัคซีนของบริษัท Sinovac และบริษัท Sinopharm เพื่อประสานงานให้การจัดซื้อและส่งมอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ญี่ปุ่น ได้มอบวัคซีน AstraZeneca จำนวนกว่า 1,050,000 ล้านโดสให้แก่ไทย เมื่อเดือนกรกฎาคม

ในส่วนของสหรัฐฯ กระทรวงการต่างประเทศได้ผลักดันความร่วมมือเพื่อเข้าถึงวัคซีนของบริษัทผู้ผลิตวัคซีนของสหรัฐฯ ได้แก่ Pfizer, Moderna, Johnson & Johnson และ Novavax อย่างต่อเนื่องในทุกระดับ ทั้งในรูปแบบของการจัดซื้อ การขอรับความช่วยเหลือ และการเจรจาข้อตกลง vaccine swap โดยล่าสุด สหรัฐฯ ได้มอบวัคซีน Pfizer จำนวนกว่า 1ล้าน 5 แสนโดส ให้ไทย เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม และประกาศจะบริจาควัคซีนเพิ่มเติมอีก 1 ล้านโดส และให้ความช่วยเหลือไทยในการรับมือโควิด-19 อีก 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สหราชอาณาจักร ได้นำส่งวัคซีน AstraZeneca จำนวน 415,000 โดส แก่ไทย เมื่อต้นเดือนสิงหาคม

รัฐบาล สวิตเซอร์แลนด์ มอบเครื่องช่วยหายใจ จำนวน 102 เครื่อง และชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบเร็ว (Rapid Antigen Test) จำนวน 1.1 ล้านชุดให้รัฐบาลไทยในระหว่างการเยือนไทยอย่างเป็นทางการรองประธานาธิบดีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

รัฐบาล ภูฏาน ได้แลกเปลี่ยนวัคซีน AstraZeneca ล่วงหน้า (vaccine swap) จำนวน 150,000 โดสกับรัฐบาลไทย โดยส่งมอบให้ไทยแล้วเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม

กระทรวงการต่างประเทศประสบความสำเร็จในการเจรจาขอรับมอบยา Monoclonal antibody (Casirivimab/Imdevimab) ซึ่งเป็นยารักษาผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนัก จากกระทรวงสาธารณสุขประเทศเยอรมนี ของบริษัท Regeneron จำนวน 1,000-2,000 ชุด

กระทรวงการต่างประเทศยังอยู่ระหว่างการเจรจาความร่วมมือเพื่อการสรรหาวัคซีนจากอินเดีย เกาหลีใต้และออสเตรเลีย อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะผลักดันเรื่องนี้และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจอื่น ๆ กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ที่มีกำหนดเยือนไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 26-28 สิงหาคม

3.กรณีการดำเนินการทางการทูตในเรื่องสถานการณ์ในเมียนมา นายธานีฯ ยืนยันว่า ไทยได้ติดตามสถานการณ์ในเมียนมาและให้ความข่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมาด้วยความห่วงใยอย่างต่อเนื่องในฐานะประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิดเป็นเงินกว่า 25 ล้านบาท

ไทยต้องการเห็นสันติภาพ ความสงบสุข และความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในเมียนมา ขณะเดียวกัน ไทยก็ตระหนักดีถึงความซับซ้อนของสถานการณ์ในเมียนมา ด้วยเหตุนี้ ทุกย่างก้าวของไทยจึงต้องรอบคอบ และรอบด้าน โดยคํานึงถึงผลที่จะตามมาในทุกด้าน เพื่อให้สามารถสื่อสารได้อย่างตรงไปตรงมาให้มีการยุติความรุนแรง ปล่อยตัวผู้ถูกควบคุมตัว และให้ฝ่ายต่าง ๆ ในเมียนมาพูดคุยกันเพื่อหาทางออกร่วมกันเพื่อประโยชน์ของประชาชนเมียนมาเป็นสำคัญ 

ไทยเห็นว่าอาเซียนมีบทบาทสำคัญในการช่วยสนับสนุนให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพูดคุยกันในเมียนมาได้  ดังนั้นไทยจึงเสนอแนวทางการดำเนินการ D4D ต่ออาเซียนที่นำไปสู่ฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน และพร้อมสนับสนุนภารกิจของดาโตะ เอรีวัน เปฮิน ยูซอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศ คนที่สอง ของบรูไนฯ ในฐานะผู้แทนพิเศษของประธานอาเซียนด้านสถานการณ์ในเมียนมาอย่างเต็มที่ และมุ่งหวังให้มีการเริ่มต้นการปฏิบัติหน้าที่ของผู้แทนพิเศษฯ โดยเร็วตามเจตนารมณ์ฉันทามติของผู้นำอาเซียนดังกล่าว

ล่าสุด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือทางไกลกับผู้แทนพิเศษอาเซียนฯ เมื่อวันที่ ๑๖16 สิงหาคม และไทยได้เข้าร่วมการประชุมประเทศผู้บริจาคเพื่อระดมความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมา (Pledging Conference to Support ASEAN’s Humanitarian Assistance to Myanmar) เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ซึ่งไทยเป็นผู้เสนอให้จัดขึ้นอย่างเร่งด่วน ที่ประชุมดังกล่าวสามารถระดมเงินได้มากกว่า 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยประกาศให้เงินสมทบ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ และพร้อมอำนวยความสะดวกการขนส่งความข่วยเหลือไปยังเมียนมา

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้ว่าไทยไม่อาจได้รับการสนับสนุนจากประเทศมหาอำนาจและมิตรประเทศทั้งในและนอกภูมิภาค ในภารกิจที่สำคัญทั้งหมดนี้หากมิใช่เพราะการดำเนินบทบาทการทูตเชิงรุกอย่างสมดุล และสร้างสรรค์เช่นที่ผ่านมาแม้จะเป็นการทำงานท่ามกลางแรงกดดันของสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19

Related Posts

Send this to a friend