‘พลเมืองโต้กลับ’ จัดกิจกรรมยืนหยุดขังต่อเนื่องเป็นวันที่ 33 ด้าน ‘แนวร่วม มธ.’ ประกาศจัดกิจกรรม ‘อยู่หยุดขัง’ ค้างคืนหน้าศาลฎีกา
วันนี้ (25 เม.ย. 64) บริเวณด้านหน้าศาลฎีกา กลุ่มพลเมืองโต้กลับ นำโดย นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ จัดกิจกรรมยืนหยุดขังต่อเนื่องเป็นวันที่ 33 ด้วยการยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 ชั่วโมง 12 นาที เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวเหล่าบรรดาแกนนำราษฎรที่ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งในวันนี้มีแม่ของแกนนำราษฎรมาร่วมกิจกรรมด้วย ได้แก่ แม่ของนายอานนท์ นําภา และแม่ของ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล โดยมีการจำกัดผู้ร่วมกิจกรรมผ่านการเปิดลงทะเบียนจำนวน 40 คนดังเดิม ส่วนประชาชนคนอื่นๆ ได้มาร่วมกิจกรรมอยู่บริเวณริมรั้วของศาลฎีกาใกล้กับจุดที่กลุ่มพลเมืองโต้กลับดำเนินกิจกรรม ซึ่งกิจกรรมเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 17.30 น. และไปสิ้นสุดในเวลา 18.42 น.
นายพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมวันนี้มีพ่อแม่ของแกนนำราษฎรมายืนด้วยจึงมีความอบอุ่นเกิดขึ้น มองว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่พ่อแม่ของผู้สูญเสียอิสรภาพมาร่วมกิจกรรม สำหรับการที่นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ตนเองมองว่ายังเป็นส่วนน้อยและยืนยันว่าจะดำเนินกิจกรรมไปจนกว่าทุกคนจะได้รับการประกันตัวทั้งแกนนำราษฎร และคนอื่นๆ ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก
อย่างไรก็ตาม หลังจากสิ้นสุดกิจกรรมยืนหยุดขัง ตัวแทนจากกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม อาทิ น.ส.เบนจา อะปัญ นายชนินทร์ วงษ์ศรี นายชลธิศ โชติสวัสดิ์ และนายธนาธร วิทยเบญจางค์ จากกลุ่มพรรควิฬาร์ จ.เชียงใหม่ ได้มีการร่วมประกาศแนวทางในการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมโดยตัวแทนระบุว่า ทางกลุ่มจะจัดกิจกรรม ’อยู่หยุดขัง’ หน้าศาลฎีกา ด้วยการมาปักหลักค้างคืนหน้าศาลฎีกา จนกว่าเพื่อนๆ จะได้รับการปล่อยตัว
โดย น.ส.เบนจา ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับเพื่อนตอนนี้คือความอยุติธรรม เพราะเราถือเป็นประชาชนที่ต้องการให้ประเทศนี้ดีขึ้น จึงไม่อยากให้พรากชีวิตของพวกเขา พร้อมระบุว่าขณะนี้นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ได้อดอาหารมากกว่า มหาตมา คานธี เพราะเหตุใดจึงยังไม่ได้รับสิทธิ์ในการประกันตัว
“ตอนนี้คุกได้กักขังสิทธิเสรีภาพมากเพียงพอแล้ว จึงอยากให้มองถึงหลักความเป็นมนุษย์ด้วย”
พร้อมประกาศแคมเปญล่ารายชื่อเพื่อส่งถึงอธิบดีศาลอาญา เพื่อร่วมเรียกร้องกระบวนการยุติธรรมให้กับเพื่อนๆ โดยจะดำเนินการตั้งแต่วันนี้และจะอัพเดตจำนวนผู้ลงชื่อให้ได้รับทราบอยู่เป็นระยะ ทั้งจากการตั้งโต๊ะลงทะเบียนบริเวณหน้าศาลฎีกาและเปิดให้ประชาชนร่วมลงชื่อผ่านเฟซบุ๊ก แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
