ราษฎร จัดกิจกรรมทวงคืนผลเลือกตั้งร่วมกดดัน กกต. มองรับรองผลช้า

ราษฎร จัดกิจกรรมทวงคืนผลเลือกตั้งร่วมกดดัน กกต. มองรับรองผลช้า เป็นขบวนการขัดขวางรัฐบาลประชาชน

วันนี้ (16 มิ.ย. 66) เวลา 18.00 น. ราษฎร จัดกิจกรรมทวงคืนผลเลือกตั้งร่วมกดดัน กกต. #หยุดขวางทางรัฐบาลประชาชน ที่บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ 33 นับตั้งแต่การเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง กกต.ยังไม่ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่มีความคืบหน้าไปบ้าง แต่ยังเป็นเวลาที่นานอยู่ โดยการเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะประกาศผลเลือกตั้งช้าเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่มีการเลือกตั้งมา รองจากการเลือกตั้งปี 2562 ที่ใช้เวลานานสุด 108 วัน ซึ่งเป็น กกต.ชุดเดิม มองว่าเป็นอะไรที่แปลก ขณะที่เรามีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น แต่การทำงานของ กกต.กลับช้าลง เทียบกับสมัยก่อนสามารถประกาศจัดตั้งรัฐบาลได้ภายใน 10 วัน การเลือกตั้งครั้งนี้นานกว่า 33 วัน ดูจะช้ากว่าการเลือกตั้งปี 2480 ซึ่งจัดตั้งรัฐบาลได้ภายใน 44 วัน

นายยิ่งชีพ กล่าวว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ได้เดินทางยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าในการประกาศรับรองผล ส.ส.จาก กกต.แต่ยังไม่คืบหน้า วันนี้จึงจัดกิจกรรมเชิญชวนประชาชน เปิดพื้นที่พูดคุยว่า แต่ละคนมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการประกาศผลเลือกตั้งของ กกต.

นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา กล่าวถึงการที่ กกต.ประกาศผลเลือกตั้งช้าว่า ขบวนการนี้คือขบวนการขัดขวางรัฐบาลของประชาชน ซึ่ง กกต.เป็นหนึ่งในเครื่องมือ และต่อไปหลังจาก กกต.ประกาศผลแล้ว ขั้นตอนต่อไป ส.ว.จะเป็นขบวนการขัดขวางรัฐบาลของประชาชน ตนเองมองว่ายังมีขั้นตอนของศาลด้วย จึงคิดว่าสิ่งเหล่านี้คือเครื่องมือทางการเมืองที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมใช้เป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งมาโดยตลอด

สำหรับการจัดกิจกรรมวันนี้ เพราะอยากเปิดพื้นที่ใหม่ เพราะบรรยากาศการชุมนุมที่ผ่านมาทั้งท้อและเหนื่อย จึงอยากสร้างพื้นที่ให้เป็นของประชาชนจริง ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่อยากให้รัฐบาลและประชาชนก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นปัญหาของพวกเราทุกคน ถ้ารัฐบาลประชาชนจัดตั้งไม่ได้ ประเทศนี้คงไม่มีความก้าวหน้า ไม่มีคงามเจริญ ก็จะเป็นปัญหาของพวกเราทุกคนที่ต้องรับชะตากรรมด้วยกัน เราจึงควรมาออกแบบพื้นที่ในการต่อสู้ด้วยกัน ระดมความคิดและแสดงความเห็นด้วยกัน

“คือเรารู้ว่าประเทศนี้ไม่ปกติ เพราะปกติถ้าเลือกตั้งแล้ว มีรัฐบาลก็จะสามารถดำเนินการไปได้ แต่ครั้งนี้เลือกตั้งมาแล้ว 33 วัน ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ผมเชื่อว่าหลายคนมีความรู้สึกว่า มันมีความพยายามขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาลอยู่”

เมื่อถามว่าส่วนตัวมองว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ นายจตุภัทร์ ระบุว่า ต้องผลักดันให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ อย่าทำให้วัฒนธรรมเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาเป็นเหมือนปกติ เพราะนี่คือวัฒนธรรมแบบไทย ๆ เราต้องเปลี่ยนวัฒนธรรมนี้กัน เราเลือกตั้งแล้ว เราใช้สิทธิแล้ว เราจะรออย่างเดียวไม่ได้ เราต้องออกมาทวงถามด้วย

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ที่ผ่านมามีขบวนการขัดขวางไม่ให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด จนอาจมีการพามวลชนลงถนนเพื่อกดดัน นายจตุภัทร์ มองว่า เราไม่สามารถกำหนดฝ่ายของเขาได้ แต่เราสามารถกำหนดเราได้ เรากำหนดว่าเราเลือกตั้งแล้ว เราออกมาเรียกร้อง เราออกมาสนับสนุน ถ้าเกิดอะไรที่มาขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาลของประชาชน เรามาร่วมกันเป็นพลังในการปกป้องเสียงของประชาชนไปด้วยกัน ไม่ว่าอะไรจะขัดขวางในวันข้างหน้า ตนเองมองว่าประชาชนต้องร่วมมือร่วมใจกัน นี่คือสิ่งที่ต่อสู้กันมาอย่างอย่างนาน และวันนี้เชื่อว่ายังคงต้องต่อสู้จนกว่าประเทศนี้จะเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานมีกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ ป้ายสอบถามความเห็นถ้า ส.ว.โหวตสวนเจตจำนงประชาชน เราจะทำอะไร? ป้ายผ้าอยากฝากอะไรถึง กกต. ให้ผู้เข้าร่วมได้เขียนแสดงความเห็น และยังเปิดพื้นที่ให้ประชาชนฝากอะไรถึง กกต.ภายใน 33 วินาที

คุณป้านงนุช ก้อนทอง อายุ 50 ปี ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางมาร่วมกิจกรรม ฝากถึง กกต.ว่า พวกคุณมีเงินเดือน แต่ประชาชนไม่มีเงินเดือน ให้พวกคุณทำงานให้คุ้มค่าภาษีกันหน่อย ส.ว.ก็เช่นกัน ยิ่งมีตำแหน่งหน้าที่การงาน มีเงินเดือน มีทุกอย่าง แต่ประชาชนไม่มีอะไรเลย ต้องเสียสละทุกอย่าง ดังนั้นพวกคุณเกรงใจเสียงของประชาชนบ้าง

“และครั้งนี้ถ้าพวกคุณไม่เกรงใจประชาชน ขอบอกเลยนะคะ ประชาชนทั่วประเทศ กกต.ทั่วประเทศ ถ้าคุณไม่เกรงใจประชาชน คุณจะไม่ได้รับความเกรงใจจากประชาชนอีก และคุณรอรับตีนจากประชาชนได้เลย”