‘อนุทิน’ ยันโครงการแก้หนี้นอกระบบ ไม่ใช่การพักหนี้ แต่ไกล่เกลี่ยให้ดอกเบี้ยลดลง

‘อนุทิน’ ยืนยันโครงการแก้หนี้นอกระบบ ไม่ใช่การพักหนี้ หรือยกหนี้ แต่ไกล่เกลี่ยให้ดอกเบี้ยลดลงและเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ขออย่ากังวล ถ้าเจ้าหนี้ไม่ยอมไกล่เกลี่ย สัญญาไม่เป็นธรรมไม่ต้องจ่าย

วันนี้ (1 ธ.ค. 66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการเปิดให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบลงทะเบียน เพื่อขอความช่วยเหลือจากกลไกของรัฐ ในโครงการแก้หนี้นอกระบบวันแรก 1 ธันวาคม 2566 ว่า สามารถทำได้ 3 ช่องทาง คือ ลงทะเบียนที่ศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัด หรือที่ว่าการอำเภอ ลงทะเบียนผ่านทางออนไลน์ โดยทางอำเภอจะลงพื้นที่สำรวจในพื้นที่ชุมชน และหมู่บ้าน

ส่วนปัญหาเจ้าหนี้กลัวถูกตรวจสอบภาษี ไม่กล้ามาไกล่เกลี่ย กับลูกหนี้นั้น นายอนุทินกล่าวว่ารัฐบาลต้องการให้เกิดความเป็นธรรม พร้อมย้ำว่าโครงการนี้ไม่ใช่การลดหนี้ ยกหนี้ พักหนี้ และไม่ได้ใช้หนี้ให้ แต่เป็นการให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหนี้และลูกหนี้ ซึ่งถ้าคิดดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ลูกหนี้ก็จะสามารถใช้หนี้ได้ เจ้าหนี้ก็ไม่ถูกเบี้ยวหนี้ เจ้าหนี้ไม่ต้องไปกดดัน กดขี่ ข่มเหง หรือใช้วิธีทวงหนี้ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดความเป็นธรรม ไม่เสียหายกับลูกหนี้และเจ้าหนี้ โดยขอยืนยันลูกหนี้ยังเป็นหนี้อยู่ โดยมีอัตราดอกเบี้ยที่สามารถหามาใช้คืนได้

สำหรับกรอบเวลาที่จะเห็นผลสำเร็จของการแก้หนี้นั้น นายอนุทิน เปิดเผยว่า ขอให้รอฟังรายละเอียดในวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธาน Kick Off กับหน่วยงานที่จะดำเนินการ คือ นายอำเภอ และผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรทั่วประเทศ ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองทองธานี

ขณะเดียวกัน นายอนุทินยังย้ำด้วยว่าการแก้หนี้ เป็นขั้นตอนการไกล่เกลี่ย ไม่ได้มีเจตนาที่จะขุดคุ้ยปูมหลัง ขออย่าเป็นกังวล เรื่องอื่นเป็นเรื่องของหน่วยงานอื่น เราไม่มีเวลาไปขยายผล

ขณะที่กระบวนการไกล่เกลี่ยจะมีขั้นตอนอย่างไรนั้น นายอนุทินเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน มีทั้งศาสตร์และศิลป์ ในการเข้าไกล่เกลี่ยประนีประนอม คงไม่มีวิธีการเป็นขั้นตอนที่ชัดเจน ทั้งนี้ กระบวนการหากเมื่อมีการไกล่เกลี่ยแล้ว เจ้าหนี้ไม่ยอมมาไกล่เกลี่ย ก็ต้องเอาสัญญากู้เงินมาดู ถ้าตรงไหนขัดต่อกฎหมาย ก็ไม่ต้องปฏิบัติตาม และจะมีการคุ้มครองให้เกิดความเป็นธรรม แต่ถ้าเจ้าหนี้ยังคิดดอกเบี้ย ในอัตราที่สูง จนเกินความสามารถที่ลูกหนี้จะชำระหนี้ได้นั้น ส่วนนั้นก็จะหายไป แต่โครงการของรัฐบาลจะวินวินทั้งสองฝ่าย เจ้าหนี้ได้เงินคืน ไม่มีการเบี้ยวหนี้ ลูกหนี้ก็จะได้อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ซึ่งจะเกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

นอกจากนี้ นายอนุทินยังย้ำด้วยว่า ลูกหนี้อย่าดีใจ เพราะไม่ใช่การพักหนี้ ลูกหนี้ต้องจ่ายทุกบาททุกสตางค์ และที่เข้าใจว่ารัฐบาลจะจ่ายหนี้ให้นั้น ไม่ใช่ แต่เป็นการช่วยลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากกว่าขอให้ช่วยประชาสัมพันธ์ด้วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด ก่อนจะบอกว่าหนี้ใครหนี้มัน