POLITICS

‘ประยุทธ์’ บอก​ มองไม่เห็นโอกาสหวนกลับมานั่งนายกฯ​ อีก

นายกฯ​ เผย​ ‘อนุทิน’ แจงแล้ว ปมดีลลับเลสเตอร์​ ชี้ ไม่มีอะไรทั้งนั้น​ มอง​ จะลับอย่างไร​คนเป็นหมื่น​ บอก​ มองไม่เห็นโอกาสหวนนั่งนายกฯ​ ลั่น​ ไม่กลัวเช็คบิลย้อนหลังหากเปลี่ยนขั้วรัฐบาล

วันนี้ (6 มิ.ย. 66) พลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี​ ถึงกรณีที่ นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานเครือข่ายญาติวีรชนพฤษภา 35 และเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน ยื่นคำร้องต่อประธานคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ​ หรือ​ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวน นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี กรณีออก พ.ร.ก.เลื่อนบังคับใช้ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ โดยมิชอบ​ว่า​ ตนเองได้ปรึกษานายวิษณุ​ เครืองาม​ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้วและไม่มีปัญหาอะไร​ มันมีเหตุผลและความจำเป็นต่างๆ​

ส่วนในวันนี้นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสา​ธรณสุข​ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกหลังการเลือกตั้ง ได้รายงานให้นายกฯ ทราบถึงเรื่องที่เดินทางไปประเทศอังกฤษ แล้วเกิดกระแสเรื่องดีลรับแล้วหรือไม่ พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า ไม่มี​ ไม่มีอะไร ท่านบอกว่าไปดูฟุตบอลเฉยๆ พอดีมีเวลาว่างจากการไปประชุมองค์การอนามัยโลก​ หรือ​ WHO ก็ไปดู​ฟุตบอล

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าไม่มีดีลลับใช่หรือไม่ พลเอกประยุทธ์กล่าวว่าไม่มีหรอก​ ไม่มีดีลลับอะไร​ เขาไม่ลับหรอก​ คนขนาดนั้นในสนามฟุตบอล​ไม่ลับหรอก​ คนเป็นหมื่นไม่รู้จะไปดีลอะไรกันตรงไหน นั่งตรงไหนยังไม่รู้เลย

ขณะเดียวกันพลเอกประยุทธ์​ยังกล่าวด้วยว่า​ การตัดต่อภาพอะไรต่างๆ เยอะแยะ​ แล้วไปสร้างประเด็นขึ้นมา​ เช่น ของผมเอาไปดัดแปลงอะไรบ้างก็ไม่รู้ ดูแล้วทุเรศเกินไป​ วันนี้เทคโนโลยีดิจิทัลมากมาย​เหลือเกิน​ เพราะฉะนั้นอย่าไปเชื่อทุกเรื่องก็แล้วกัน

เมื่อถามต่อว่าขณะนี้มีการพูดถึงแนวทางรัฐบาลข้ามขั้ว กันมาก พลเอกประยุทธ์ได้ตอบคำถามในทันทีโดยไม่รอฟังคำถามจนจบว่า “ไม่ทราบ​ ผมไม่ทราบ ผมไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง ขณะเดียวกันใครจะเป็นรัฐบาล ก็ไม่ใช่เรื่องของผม เป็นเรื่องกลไกของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายที่มีอยู่ ผมไม่เกี่ยว ผมก็เป็นรัฐบาลรักษาการ ดูแลประชาชนพี่น้องของเรา ขับเคลื่อนงานต่างๆ ที่ทำได้ เพราะเรายังมีความเดือดร้อนอยู่หลายมิติด้วยกัน ดูแลประชาชนไปก่อน ดังนั้นการจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องของกระบวนการ ต้องเป็นไปตามกระบวนการ”

และเมื่อถามต่ออีกว่าในใจยังหวังจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี​อีกหรือไม่​ พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า​ “ไม่มี​ ไม่มี​ในใจ​ นอกใจ​ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น” ก่อนจะถามกลับสื่อมวลชนว่า จะเอาคำตอบให้ได้เลยหรือ ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่าจะได้รู้ว่านายกฯ จะไปต่อหรือไม่ ซึ่งพลเอกประยุทธ์ก็ตอบกลับด้วยเสียงสูงว่า แล้วมันไปได้หรือ สื่อมวลชนจึงถามต่อว่าแล้วหากมีโอกาส​ พลเอกประยุทธ์​ จึงตอบกลับว่า “ผมยังไม่เห็นโอกาสเลย​ ถ้าเห็นเห็นอะไรล่ะ มันจะไปได้อย่างไร”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่าหากพรรคในลำดับที่ 1 และ 2 ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้​พรรคเล็กอาจจะรวบรวมเสียงเพราะพลเอกประยุทธ์​ ก็เป็นแคนดิเดต​นายก​รัฐมนตรี​ของพรรครวมไทยสร้างชาติ​ ก็สามารถเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีได้ นั้นพลเอกประยุทธ์​ ถึงกับหันหน้าไปหานายธนกร​ วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ก่อนที่จะหัวเราะ​ และยักคิ้ว​ ก่อนที่จะกล่าวต่อว่า​ “เฮ้ย อย่าคิดไปถึงขนาดนั้นเลยหนะ​ เออเธอคิดไปเธอมาเป็นรัฐบาลก็แล้วกัน มาคิดแทนฉันหน่อย”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อยจะไม่เกิดขึ้นใช่หรือไม่ พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า “มันเป็นไปได้หรือ” และเมื่อผู้สื่ถามต่ออีกว่า ยังไว้ใจพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ถ้าจะนำจัดตั้งรัฐบาล พลเอกประยุทธ์เดินออกจากโพเดียม และกล่าวว่า “ไม่ทราบ” และเมื่อถามไล่หลังไปอีกว่า กลัวจะถูกเช็คบินย้อนหลังหรือไม่ หากมีการเปลี่ยนแปลงของขั้วรัฐบาล พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า ไม่กลัวก่อนที่จะเดินเข้าตึกไทยคู่ฟ้าในทันที

Related Posts

Send this to a friend