CRIME

‘เม พรีมายา’ เข้ามอบตัวแล้ว ยืนยันไม่มีเจตนาหลอกประชาชน

พร้อมสู้คดี ด้าน ผบช.สอท. เตือน ประชาชนตรวจสอบข้อมูล พร้อมปฏิเสธข่าวแจ้งเบาะแสให้ 5 แสน

วันนี้ (19 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 16:00 น. น.ส.พิชญ์นรี ตันติวิทย์ หรือ เม พรีมายา เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ชื่อแบรนด์ PRIMAYA (พรีมายา) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ในฐานความผิด โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อมคณะ เพื่อมอบตัวตามหมายจับ โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหา และนำตัวไปสอบปากคำ

น.ส.พิชญ์นรี กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมามอบตัวตามหมายจับ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ส่วนกรณี โพสต์ข้อความโฆษณา ลงทุน 6,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ได้เงิน 15 ล้านบาทนั้น น.ส.พิชญ์นรี กล่าวว่า จริงๆ แล้วไม่ใช่คำชวนเชื่อ หรือคำโฆษณาใดๆ ซึ่งตนเองได้ให้การกับทางตำรวจไปเบื้องต้นแล้ว อีกทั้งในส่วนของธุรกิจ ตนก็ไม่ได้มีการสร้างเรื่อง หลอกลวงหรือชวนเชื่อ ทั้งนี้ตนเองอยากขอให้รอ และปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการ

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าผลกำไรที่ได้ยื่นแจ้งต่อพาณิชย์นั้นไม่สอดคล้องกับที่โฆษณา น.ส.พิชญ์นรี ระบุว่า ตนเองทำงานอยู่หน้าบ้าน เลยไม่รู้รายละเอียดอะไรมาก และไม่สามารถพูดอะไรได้อย่างกระจ่าง

ด้าน พล.ต.ท. วรวัฒน์ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่มีคนมากล่าวโทษตั้งแต่ 22 สิงหาคม 2565 กับที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ซึ่งอยู่ในชั้นอัยการ ส่วนเรื่องดังกล่าว ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษได้เป็นผู้มาติดตาม อีกทั้งในช่วงนี้ จะเห็นได้ว่า มีมิจฉาชีพหลอกลวงค่อนข้างเยอะ ทางนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้หาวิธีการจับก่อนแตก หรือตรวจหาจับกุมผู้ที่มีลักษณะหลอกหลวงเกินความจริง จนพบคดีนี้ จึงได้มีการสืบหาว่าเข้าข่ายการกระทำผิดตามที่กล่างไปข้างต้นหรือไม่ จนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่ม จนสามารถออกหมายจับได้ในวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา

พล.ต.ท. วรวัฒน์ กล่าวต่อว่า เดิมทีไม่ได้คิดจะแถลงข่าวในวันนี้ แต่เนื่องจากมีญาติของ น.ส.พิชญ์นรี เดินทางไปเจอ ตม. ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.มีหมายจับ จึงได้แสดงหมายเข้าจับกุม ทำให้วันนี้ต้องมีการเปิดปฎิบัติการตรวจค้น และจับกุมอย่างเร่งด่วน ซึ่งเราไม่ได้ปล่อยผู้ต้องหาหลบหนีตามกระแสข่าว แต่เราสามารถกดดันจนผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเองด้วยซ้ำ

ส่วนพฤติการณ์ มีการเชิญชวนให้ร่วมลงทุน โดยโฆษณาว่า ลงทุน 6 พันบาท ใน 3 เดือน ได้เงิน 15 ล้านบาท ซึ่งต้องตรวจพิสูจน์ต่อไป เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมว่าเข้าข่ายโฆษณาเกินจริงหรือไม่ อีกทั้งกำไรที่รายงานในการเสียภาษีไม่ได้สูงสอดคล้องกับเงินที่โฆษณาไว้

ทั้งนี้ ตำรวจ สอท. ได้ออกหมายจับไปแล้ว 11 หมาย (รวมหน้าม้าโฆษณา) และวันนี้ได้ประชุมแบ่งงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจับกุม เบื้องต้นมีผู้ถูกจับกุม และมอบตัว 4 รายแล้ว (รวม น.ส.พิชญ์นรี) ที่เหลือจะมีการเร่งรัดคดีในอาทิตย์นี้

พล.ต.ท. วรวัฒน์ กล่าวอีกว่า วันนี้ได้แจ้งข้อหาเบื้องต้นเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งมีโทษ จำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท ส่วนผู้ต้องหาที่จับมาก็จะสอบสวนต่อ แต่ละคนมีโทษต่างกรรมต่างวาระ และจะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการต่อไป

ส่วนกระแสที่มีการให้ข่าวว่า หากใครมีเบาะแส ของผู้ก่อเหตุจะให้เงินรางวัล 5 แสนบาทนั้น ทางพล.ต.ท. วรวัฒน์ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง

อย่างไรก็ดี กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ฝากเตือนคนขายผลิตภัณฑ์ออนไลน์ ที่อาจเข้าข่ายโฆษณาเกินจริง ซึ่งอาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และหากจะทำอะไรก็ขอให้คิดก่อน เพราะช่วงนี้แก๊งมิจฉาชีพมีเยอะ รวมทั้งเตือนประชาชนตรวจสอบข้อมูล และระวังการตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ

Related Posts

Send this to a friend