CRIME

‘ชูวิทย์’ มอบรถศูนย์ส่งกลับฯ ให้ ตร. ช่วยภารกิจนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ

ต้องการให้กำลังเจ้าหน้าที่ ยัน ไม่มีเจตนาแอบแฝง ตั้งเป้าบริจาคให้ รพ.รัฐ เพิ่มอีก 20 คัน รับ เสียดาย ผบช.น.ไม่มาด้วย หวังปรับความเข้าใจ

วันนี้ (16 ธ.ค. 65) เวลา 14:00 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง มอบรถกลุ่มงานกลุ่มงานศูนย์ส่งกลับ และรถพยาบาลให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อใช้ในงานภารกิจของนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ เป็นผู้รับมอบ

นายชูวิทย์ กล่าวว่า การมามอบรถให้กับโรงพยาบาลตำรวจในครั้งนี้ ตนเองมีเจตนา และตั้งใจจะทำให้ดี เนื่องจาก รถเดิมมีขนาดเล็ก หรือไม่มีการติดแอร์ ทำให้ส่งกลิ่นเหม็นในการขนศพอาจารย์ใหญ่ ซึ่งบางครั้งอาจมีเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมากกว่า 2 คน จึงได้ออกแบบรถดังกล่าวให้

ทั้งนี้ ตนเองไม่อยากให้คิดคิดมาก หรือนำไปเชื่อมโยงกับเรื่องอื่น เพราะตนเองตั้งใจในการทำรถบริจาคให้กับโรงพยาบาลมาแล้วหลายแห่ง เช่น โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งตั้งใจไว้ว่าจะมอบให้โรงพยาบาลของรัฐในอนาคตอีก จำนวน 20 คัน มูลค่าคันละ 900,000 – 1,000,000 บาท

สำหรับรถคันนี้ตนใช้เวลามานานกว่า 2 เดือน ในการทำ โดยติดตั้งระบบติดแอร์เพื่อนำส่งร่างอาจารย์ใหญ่ และใช้ทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ โดยติดต่อกับทีมแพทย์โรงพยาบาลตำรวจมาโดยตลอด รวมทั้งเมื่อ 30 ปี ที่ผ่านมา ตนเองก็เคยทำป้อมตำรวจให้ 75 ป้อม ซึ่งมีเจตนาทำให้ตำรวจ เพราะมองว่าเป็นอาชีพที่เสียสละเพื่อประชาชน และอยากนำมาให้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับตำรวจ

นายชูวิทย์ กล่าวถึง การออกมาพูดถึงการทำงานของตำรวจ ยอมรับว่าตำรวจในประเทศไทยมีมากกว่า 200,000 นาย เวลาที่ตนเองออกมาพูดอาจจะพาดพิงกับตำรวจบางราย ที่ทำตัวไม่เหมาะสม หรือมุ่งเน้นไปที่เฉพาะบุคคล ไม่เคยก้าวล่วงองค์กรตำรวจ

อีกทั้ง องค์กรตำรวจก็เหมือนกับองค์กรอื่นๆ ที่จะย่อมมีคนดี และคนไม่ดีเป็นปกติ ซึ่งเวลาที่ตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ ตนเองเชื่อว่า ผบ.ตร. น่าจะเข้าใจในจุดประสงค์ของตน ว่ามาด้วยเจตนาดีไม่มีเจตนาใดแอบแฝง

นอกจากนี้ นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า คดีตู้ห่าว หรือคดีของกลุ่มทุนจีนสีเทา ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลเป็นคดีใหญ่สำคัญ และทำให้สังคมเกิดข้อสงสัย เพราะมันส่งผลกระทบเป็นวงกว้างกับสังคม และเศรษฐกิจ แม้การทำงานของตำรวจอาจจะมีติดขัดไปบ้าง แต่มองว่าเป็นเรื่องปกติ

สำหรับการออกมาแถลงข่าวความคืบหน้าทางคดีทุนจีนสีเทาของผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเมื่อวานนี้ นายชูวิทย์ ระบุว่า รู้สึกพอใจ และไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่พอใจ เพราะได้ตอบข้อสงสัยของตนเองทั้ง 5 ข้อ ซึ่งเหตุผลของคำถาม และคำตอบเป็นการสนับสนุนซึ่งกันและกัน วันนี้ตนเองรู้สึกเสียดายที่ ผบช.น.ไม่มาร่วมรับประทานอาหารด้วยเพราะอยากทำความเข้าใจร่วมกัน

ด้าน พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่าสำหรับรถที่นายชูวิทย์นำมามอบให้โรงพยาบาลตำรวจมีความต้องการ และจะนำไปใช้ในด้านนิติวิทยาศาสตร์รวมไปถึงภารกิจในการฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้กับประชาชน

ส่วนคดีของนายตู้ห่าว ที่นายชูวิทย์ได้ออกมาเปิดเผยหลักฐาน และติดตามคดี โดยยอมรับว่าคดีดังกล่าวมีความคืบหน้าอย่างมาก สำนักงานอัยการสูงสุดก็ต้องคณะกรรมการตรวจสอบในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยจะมีตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเข้าไปร่วมทำงานด้วยเช่นกัน

ส่วนคดีการฟอกเงิน มีทางกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI ได้นำไปเป็นคดีพิเศษแล้ว เช่นเดียวกับ ปปง. และ ป.ป.ส. ซึ่งทางตำรวจก็จะร่วมมือกันในการตรวจสอบเส้นทางการการเงิน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พอใจกับการแถลงของผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเมื่อวานนี้หรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลทำอยู่แล้ว แต่บางเรื่องก็ไม่อยากให้เปิดเผยกับสื่อมวลชน หรือสาธารณะเพราะจะกระทบต่อรูปคดี

นอกจากนี้ ผบ.ตร. เปิดเผยอีกว่า หลังจากที่รับมอบรถจากนายชูวิทย์แล้ว ก็จะมีการรับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. ร่วมรับประทานอีกด้วย แต่ ผบช.น. ติดภารกิจไม่สามารถที่จะร่วมกินข้าวได้ ซึ่งยอมรับว่าการกินข้าวในครั้งนี้เพื่อเป็นการทำความเข้าใจกันในหลายๆ เรื่องหลังจากที่นายชูวิทย์ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับคดีของกลุ่มทุนจีนสีเทา

Related Posts

Send this to a friend