‘ชูวิทย์’ หอบรายชื่อขบวนการธุรกิจทุนจีนเทา มอบ กมธ.ป.ป.ช.

‘ชูวิทย์’ หอบรายชื่อขบวนการธุรกิจทุนจีนเทา มอบ กมธ.ป.ป.ช. แย้มมีข้อมูลใหม่ ขออย่าโยงประเด็นการเมือง ตั้งข้อสังเกต เหตุใดเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ไปสอบเงินบริจาคพรรคพลังประชารัฐ
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าพบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานกรรมาธิการ ปปช. หลังยื่นหนังสือเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า วันนี้จะนำข้อมูลสำคัญเพิ่มเติมมามอบให้ กมธ. ป.ป.ช.เพราะธุรกิจทุนจีนนี้มีการทำเป็นกระบวนการ จึงได้มายื่นชื่อตัวบงการและผู้สนับสนุน ซึ่งมีข้อมูลใหม่ด้วย รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับ ตม.เพื่อให้ กมธ.ป.ป.ช.เรียกมาสอบสวนเพิ่มเติมพร้อมย้ำกระบวนการนี้ หากไม่มีผู้สนับสนุน คงทำไม่ได้ ส่วนจะเกี่ยวข้องถึงระดับคนในพรรคการเมืองหรือไม่ เพราะเป็นขบวนการใหญ่ในการเปลี่ยนวีซ่า ของกลุ่มนายทุนจีนสีเทา
นายชูวิทย์ ชี้แจงอีกด้วยว่าตนเองเป็นนักการเมืองเก่า แต่ไม่อยากพูดเรื่องการเมือง เนื่องจากมีคนพยายามโยงให้เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งการที่พรรคพลังประชารัฐรับเงินบริจาค 3 ล้านบาท ซึ่งหากมีคนไปร้องเรียนว่าการบริจาคเงิน 3 ล้าน รับรู้หรือไม่ว่า นายตู่ห่าว ประกอบอาชีพอะไร เกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ ดังนั้น หากเกี่ยวข้องยาเสพติด ต้องยึดไว้ตรวจสอบหรือไม่ และเงินที่บริจาคต้องยึดหรือไม่ เพราะมีมูลฐานมาจากยาเสพติด ถ้าเงินไปอยู่ที่ไหน ปปส. ปปง. ต้องเข้าไปตรวจสอบเช่นกัน จึงเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องจัดการ
ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่า มีการเมืองมาเกี่ยวข้อง ทำให้ไม่มีความคืบหน้า ขอยืนยันว่า ตนไม่ขอยุ่งเกี่ยว ที่มีคนพยายามโยงไปเรื่องเงินบริจาค รวมถึงการซื้อหมู่บ้านของบริษัท SC ASSET นั้น มองว่า เมืองไทยอย่าไปยุ่งการเมืองมากเกินไป หากนำมาแสวงหาผลประโยชน์ หาเสียง และทำลายคู่แข่งทางการเมือง ก็ไม่ใช่หน้าที่ของผู้แทนประชาชน ดังนั้น ส.ส. ควรดูแลปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งนี้ ตนเองไม่เคยเห็น ส.ส. คนใด ออกมาพูดถึงเรื่องที่ตนเองกำลังต่อสู้อยู่ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของเลย ตนเองเป็นเพียงพลเมืองดี กลับมีพลเมืองร้ายคอยใส่ร้ายตนมาตลอด จึงไม่อยากใช้เรื่องนี้ไปป้ายสีใคร เพราะตนเองเก่งอยู่แล้วมีข้อมูลเยอะ หากไม่มีข้อมูล จะไม่พูด และวันนี้ มาพบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่จัดการสำเร็จมาหลายคดี จึงมีข้อมูลเบื้องลึกมาให้
ส่วนใครที่พยายามพูดเพื่อให้ตนเองออกมาตอบโต้ จะขอไม่พูด แต่จะขอมุ่งเน้นไปที่ประเด็นธุรกิจสีเทา มาเฟีย และเจ้าหน้าที่ที่รับผลประโยชน์ ต้องล้มกระดานให้ได้ พร้อมยืนยัน หากล้มกระดานไม่ได้ ประเทศไทยก็ไม่ต่างกับกัมพูชา โดยวันนี้ จะเปิดเผยในชั้น กมธ.ทั้งหมดว่า ใครอยู่ในกระบวนการนี้บ้าง เพราะเชื่อว่า มีผู้ร่วมขบวนการ ไม่มีทางที่เวลา 10 กว่าปี นายตู้ห่าว จะมีเงินมหาศาล หากทำมาหากินสุจริต ต้องมีการเสียภาษี ดูเส้นทางการเงินได้ แต่เกิดจากจุดเล็กๆ คือ จินหลิง ที่เป็นมะเร็งลุกลามไปทั่ว
นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงกรณี นายสันธนะ ประยูรรัตน์ เตรียมฟ้องดำเนินคดีและให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินว่า นายสันธนะ เป็นตำรวจที่ถูกให้ออกจากราชการ ประพฤติชั่ว ลืมตรวจสอบตัวเองว่าทำงานอะไร เสียภาษีหรือไม่ การกระทำที่ผ่านมาของนายสันธนะ ตนรู้สึกสมเพช เพราะมีตระกูลที่ดี แต่นายสันธนะ ดันเป็นตำรวจชั่ว ดังนั้น สื่อต้องแยกแยะว่า ใครมีข้อมูล ใครที่พูดความจริง ที่เป็นประโยชน์กับสังคม ไม่เช่นนั้นนายสันธนะ กลายเป็นตัวอันตราย เมื่อตัวเองมีราคาต่อหน้าสื่อ