CRIME

‘เอสเธอร์’ แจ้งความ หลังบอกเลิกสัญญาพรีเซนเตอร์แอปฯ หลอกลงทุนแชร์ลูกโซ่

วันนี้ (7 ม.ค.65) น.ส.เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา นักแสดงชื่อดัง เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจากได้รับการว่าจ้างให้เป็นพรีเซนเตอร์ของแอปพลิเคชันช็อปปิ้งออนไลน์ “Spell” ที่เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน

น.ส.เอสเธอร์ เปิดเผยว่า เริ่มทำสัญญาเป็นพรีเซนเตอร์กับบริษัท ทู เท็น ทู เทรด จำกัด ผู้จัดทำแอปพลิเคชัน ตั้งแต่เดือน ก.ค.64 ระยะเวลาสัญญา 1 ปี ซึ่งก่อนรับงานก็ได้ตรวจสอบข้อมูลทั้งที่ตั้ง และใบรับรองของบริษัท โดยระหว่างการถ่ายแบบแฟชั่นทุกอย่างเป็นไปตามปกติ และได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินสด 1 ก้อน ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเป็นหุ้นส่วนของ บริษัทดังกล่าว

จากนั้นเริ่มมีคนส่งข้อมูลร้องเรียนมาทางมารดา จึงติดต่อไปผู้ประสานงานของบริษัทแต่ติดต่อไม่ได้ และถูกบลปิดบัญชีในแอปพลิเคชัน ไม่สามารถทำธุรกรรมได้ จึงร่างหนังสือยกเลิกการเป็นพรีเซนเตอร์ มีผลตั้งแต่ 31 ธ.ค.64 เป็นต้นไป

ส่วนการเรียกร้องค่าเสียหาย น.ส.เอสเธอร์ บอกเพียงว่า ยังไม่ได้คิด เพราะอยากเป็นกระบอกเสียงให้คดีดำเนินได้เร็ว รู้สึกแย่กับการกระทำของตนเอง ไม่ถี่ถ้วนเอง ต่อไปต้องละเอียดในการรับงานมากขึ้น ส่วนตัวรู้สึกไม่สบายใจ เพราะมีคนเสียหายความไม่รู้

ด้าน พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ที่ 1 ผู้แทนรับเรื่อง เปิดเผยว่า แอปพลิเคชัน Spell อยู่ในเว็บไซด์ www.firshop.com เป็นแอปพลิเคชันขายสินค้าที่มีราคาขายต่ำกว่าท้องตลาดถึง 30-80% แต่มีข้อกำหนดให้ผู้ซื้อสินค้าหาสมาชิกที่ต้องการลงทุน หรือการหั่นราคา ต้องสมัครและโอนเงินลงทุนเข้าสู่ระบบ โดยอ้างว่าสมาชิกที่ลงเงินหั่นราคา เท่าราคาสินค้าของผู้ซื้อหรือผู้ลงทุน จะได้เงินต้นดังกล่าวคืนพร้อมปันผล 10-20% เมื่อครบกำหนด โดยระยะแรกมีการแบ่งปันผลจริง ซึ่งวิธีการจำหน่ายสินค้าออนไลน์เช่นนี้ เป็นเพียงการสร้างเงื่อนไขเพิ่มเติมให้เหยื่อหลงเชื่อ แต่ความเป็นจริงเป็นอุบายในการชักชวนให้หาสมาชิกเพิ่มเพื่อให้มีจำนวนเงินเข้าระบบมากขึ้น จากนั้นจะนำเงินจากสมาชิกลูกข่าย มาจ่ายปันผลให้กับสมาชิกต้นทาง ซึ่งไม่ได้เกิดจากการประกอบการธุรกิจที่มีผลกำไรอยู่จริง

พฤติการณ์ของคดีคล้ายแชร์ลูกโซ่ จากนี้ต้องตรวจสอบว่า แอปพลิเคชันนี้มีการค้าขายจริง หรืออำพรางการค้า ความเสียหายยังพิจารณาเป็นตัวเงินไม่ได้ เพราะต้องพิจารณาการเปิดบริษัท ธุรกรรมทางการเงินทั้งหมด เบื้องต้นพบมูลค่าความเสียหายตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักล้านบาท ฝากเตือนไปยังประชาชนให้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดรอบคอบ โดยเฉพาะเรื่องการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนระยะสั้น ซึ่งหากมีข้อร้องเรียนสามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนศูนย์ PCT หมายเลข 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

Related Posts

Send this to a friend