AROUND THAILAND

พลเอก​ ประวิตรฯ สั่ง ชป.เร่งพัฒนาแหล่งน้ำ บรรเทาความเดือดร้อนชาวเมืองน่าน

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 64 ที่ศาลากลางจังหวัดน่านพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการอำนวยการน้ำแห่งชาติ เป็นประธานประชุมติดตามการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่จังหวัดน่าน โดยมีดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ นายชูชาติ รักจิตร รองอธิบดีกรมชลประทาน นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายเกียรติพงษ์ เพชรศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 2 นายนิพนธ์ ฟูศรี ผู้อำนวยการโครงการชลประทานน่าน พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

นายชูชาติ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จังหวัดน่านมีพื้นที่ชลประทาน 51,284 ไร่ พื้นที่รับประโยชน์ 71,770 ไร่ รวม 123,054 ไร่ มีอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 41 แห่ง ฝายทดน้ำ 6 แห่ง อ่างเก็บน้ำตามพระราชดำริ 31 แห่ง และอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กอีก 48 แห่ง

สำหรับแผนการจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 2564/2565 โครงการชลประทานน่าน ได้วางแผนจัดสรรน้ำจากอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง อ่างเก็บน้ำตามพระราชดำริ ที่มีปริมาณน้ำเก็บกักรวมกันประมาณ 30.22 ล้านลูกบาศ์กเมตร(ลบ.ม.) จัดสรรน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศน์ และการเกษตร รวม 20.69 ล้าน ลบ.ม. สำรองไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝนปีหน้า 9.53 ล้าน ลบ.ม.

ทั้งนี้ กรมชลประทานมีแผนพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญในพื้นที่จังหวัดน่าน อยู่ระหว่างดำเนินการ 6 โครงการ ได้แก่ โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำกิ ตำบลผาทอง อำเภอท่าวังผา โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำกอน ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยจ๊วกอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลบ่อแก้ว อำภอนาหมื่น โครงการเพิ่มประสิทธิภาพเก็บกักอ่างเก็บน้ำแหงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลนาน้อย อำเภอนาน้อย และโครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านหาดผาขน ตำบลเมืองจัง อำเภอภูเพียง​ จังหวัดน่าน

ในการนี้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบูรณาการทำงาน เพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องชาวจังหวัดน่าน โดยในส่วนของกรมชลประทาน ให้เร่งรัดกระบวนการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำน้ำกอน และโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญฯต่อไป ส่วนโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยจ๊วกอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่รายงานผลการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ได้ผ่านคณะกรรมการฯแล้วนั้น ให้รีบเสนอคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ เพื่อขออนุมัติดำเนินโครงการฯต่อไป

Related Posts

Send this to a friend