‘พาณิชย์’ เดินหน้าส่งออก ปักหมุดเวียดนามรุกตลาดลำไยอบแห้ง

‘พาณิชย์’ เดินหน้าส่งออก Soft Power สินค้า GI ไทย ล่าสุด ปักหมุดเวียดนาม รุกตลาดลำไยอบแห้ง

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยใช้ประโยชน์จากการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รวมทั้งส่งเสริมการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า สนับสนุนช่องทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ตลอดจนผลักดันการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ

โดยนำสินค้า GI ไทยที่มีศักยภาพไปจดทะเบียน GI ในต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดส่งออกสำคัญ เพื่อให้สินค้า GI ไทยได้รับการคุ้มครองในตลาดแข่งขันทางการค้า สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ซึ่งล่าสุดประเทศเวียดนามได้ประกาศรับจดทะเบียน GI ลำไยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูนของไทย ส่งผลให้ปัจจุบันไทยจดทะเบียน GI ในเวียดนามแล้ว 3 สินค้า

สำหรับลำไยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูน มีสีเหลืองทอง เนื้อหนา แห้งสนิทไม่ติดกัน รสชาติหวาน มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ สามารถเก็บไว้ได้นานโดยกลิ่นและรสชาติไม่เปลี่ยนแปลง เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคชาวไทย และชาวต่างชาติ โดยเฉพาะผู้บริโภคชาวเวียดนาม มีตลาดส่งออกที่สำคัญ คือ เวียดนาม จีน ฮ่องกง

ลำไยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูน ถือเป็นสินค้า GI ไทยลำดับที่ 8 ที่ได้รับการจดทะเบียน GI ในต่างประเทศ ต่อจาก ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ในสหภาพยุโรป , กาแฟดอยช้าง ในสหภาพยุโรป , กาแฟดอยตุง ในสหภาพยุโรปและกัมพูชา , ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ในสหภาพยุโรป , เส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน ในเวียดนาม , ผ้าไหมยกดอกลำพูน ในอินเดียและอินโดนีเซีย และมะขามหวานเพชรบูรณ์ ในเวียดนาม

กระทรวงพาณิชย์ คาดว่า หลังจากขึ้นทะเบียน GI ลำไยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูนแล้วสินค้าดังกล่าวจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ด้วยกระบวนการผลิต และระบบควบคุมคุณภาพสินค้าที่ได้มาตรฐาน ทำให้สามารถจำหน่ายได้ในราคาดี โดยจากเดิมที่เคยจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 550 บาท จะเพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 1,500 บาท