‘แรมโบ้’ ยืนยันนายกฯ ไม่ควรลาออก เพราะยังทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้ดี ขอ ‘ฝ่ายค้าน’ ย้อนดูตัวเอง ทำอะไรเป็นประโยชน์เพื่อบ้านเมืองบ้าง

วันนี้ (29 เม.ย. 64) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพรรคร่วมฝ่ายค้านออกแถลงการณ์ให้นายกฯ ลาออก เพราะแก้โควิด-19 ล้มเหลว โดยยืนยันว่านายกฯ ไม่ควรลาออกในเวลานี้ที่บ้านเมืองเกิดสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 เพราะที่ผ่านมาก็ได้แก้ไขปัญหาได้ดีอยู่แล้ว แม้ว่าการแก้ไขปัญหาจะเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่นายกฯ รัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ ไม่เคยย่อท้อทำงานอย่างหนัก ในการแก้ไขปัญหา ซึ่งก็ทำเช่นนี้มาตั้งแต่เริ่มมีการระบาดแล้ว อีกทั้งหากนายกฯ ลาออกตนเองก็มองไม่เห็นว่าจะมีใครเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ได้

ส่วนการบริหารจัดการวัคซีนตนเองมั่นใจว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ที่จะเปิดให้ประชาชนได้ลงทะเบียนฉีดวัคซีน กระบวนการต่างๆ จะเดินหน้าและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้

ทั้งนี้จากการหารือแนวทางความร่วมมือการจัดหาวัคซีนร่วมกับภาคเอกชน ได้จัดตั้ง 4 ทีมขึ้นมาบริหารจัดการ เพื่อเร่งจัดหาและกระจายวัคซีนให้เข้าถึงประชาชนกว่า 50 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนประชากรในประเทศ ภายในปี 2564 โดยมีทีมกระจายวัคซีน ทีมประชาสัมพันธ์ ทีมอำนวยความสะดวก ทีมจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม

ขณะที่การให้ความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจฝ่ายค้านก็ต้องยอมรับด้วยว่าต่างประเทศก็ประสบปัญหาเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน ซึ่งนายกฯ ได้ทำมาตลอดในการให้ความช่วยเหลือประชาชน และยังมีมาตรการต่างๆออกมาต่อเนื่อง

นายเสกสกลยังระบุว่าที่ฝ่ายค้านบอกว่านายกฯ มีความล้มเหลวในการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของคนทั้งประเทศ สนับสนุนพวกพ้อง ทำลายผู้ที่เห็นต่างนั้น ยืนยันว่านายกฯ ไม่เคยสนับสนุนพวกพ้องหรือทำลายผู้ที่เห็นต่าง ซึ่งหากฝ่ายค้านจะถามหาความเป็นหนึ่งเดียวของคนทั้งประเทศก็ต้องถามหาจากฝ่ายค้านมากกว่า เพราะที่ผ่านมาจ้องที่จะทำลายความรัก ความสามัคคีของคนในประเทศไม่หยุด อีกทั้งยังไม่เคยให้ความร่วมมือ หรือแม้แต่ให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานเลย

ทั้งนี้หากฝ่ายค้านจะยื่น ปปช. ไต่สวนก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ และตนเองก็ขอบอกว่าฝ่ายค้านไม่ควรเล่นการเมืองมากเกินไปในขณะที่ประเทศกำลังเกิดวิกฤต เพราะตนเองมั่นใจว่าประชาชนไม่เอาด้วยอย่างแน่นอน สุดท้ายอาจจะได้เป็นฝ่ายค้านตลอดไป และการที่จะเรียกร้องให้คนทำงานอย่างนายกฯ ลาออก ก็ขอให้ฝ่ายค้านย้อนดูตัวเองด้วยว่าได้ทำอะไรไปบ้าง ซึ่งหากจะเทียบก็เทียบไม่ติดเลยกับการที่นายกฯ รัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ หรือแม้แต่ประชาชนที่เขาทำงานช่วยกันแก้ไขปัญหาอยู่ในขณะนี้

“เป็นเพราะว่าเป็นฝ่ายค้านนานหลายปี คงอยากกลับมามีอำนาจมากกว่า คงอยากเป็นรัฐบาลเป็นรัฐมนตรีจนตัวสั่น หรือเพราะว่าไปรับธงมาจากคนแดนไกลสั่งการมา คนประเภทนี้ ตนเคยสัมผัสมา ประเภทรู้ทางว่า คิดอะไรอยู่ อีกไม่ถึงสองปีคงอดทนไม่ไหว อดอยากปากแห้งหรือเปล่า เพราะเคยเห็นเป็นรัฐบาลมาในอดีต ก็มีแต่ข่าวคราวเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นมิใช่หรือ ก่อนจะมาเป็นรัฐบาลอีกรอบ ไม่กลัวประชาชนลุกฮือขึ้นมาไล่อีกรอบให้ออกอีก เหมือนตอนอดีตนายกฯ นายทักษิณ นายสมชาย นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังจำไม่ได้หรือไง ฝ่ายค้านทุกวันนี้น่าเบื่อหน่าย ชอบทำตามใบสั่งไม่ได้สงสารประเทศชาติ ประชาชนที่กำลังอยู่ในภาวะวิกฤตเลยสักนิด อย่าได้คิดเอาผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลัก หัดคิดถึงผลประโยชน์ประชาชนบ้าง หรือว่า อยากให้คนโกงบ้านโกงเมืองกลับมามีอำนาจอีกครั้ง บ้านเมืองจะได้ฉิบหายเหมือนในอดีต สมองคนเหล่านี้ไม่มีคุณค่าอะไรเลย “แก่เกินแกง แก่เพราะอยู่นานจริงๆ”ควรหยุดเล่นการเมืองในภาวะวิกฤตความเดือดประชาชนได้แล้ว”