POLITICS

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เผย อาการล่าสุด ‘ทักษิณ’ ดีขึ้นเล็กน้อย

แพทย์ต้องเฝ้าระวัง พร้อมสั่งงดเยี่ยมทุกกรณี ห่วง โรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ – หัวใจ แจง ห้องรักษา ตัว ‘ทักษิณ’ ไม่ใช่ห้อง VIP เดิมเป็นห้องกักตัวผู้ป่วยโควิด เครื่องปรับอากาศพัง ต้องใช้พัดลมช่วยระบายอากาศ

วันนี้ (23 ส.ค. 66) พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการรับตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารับการที่โรงพยาบาลตำรวจเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เนื่องจากมีอาการป่วยกำเริบ ว่า เมื่อวานนี้ (22 ส.ค. 66) อดีตนายกรัฐมนตรีรับการรักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่ด้วยเกิดอาการแน่นหน้าอกกระทันหัน ค่าออกซิเจนต่ำ และค่าความดันโลหิตสูงมาก ทีมแพทย์ราชทัณฑ์พยายามรักษาระดับความดันที่สูงแล้ว แต่ทำได้ไม่มากจึงลงความเห็นให้ส่งตัวนายทักษิณด่วนมาที่โรงพยาบาลตำรวจในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ซึ่งในเบื้องต้นของอาการนายทักษิณ ถือว่ามีอาการหนัก ต้องตรวจร่างกายอีกหลายอย่างทั้งระบบทางเดินหายใจ และระบบหัวใจที่เป็นปัญหาใหญ่

พล.ต.ท.โสภณรัชต์ ระบุว่า ความจริงทีมแพทย์ราชทัณฑ์มีความสามารถแต่ด้วยอาการป่วยของนายทักษิณที่ต้องการแพทย์เฉพาะทางในการดูแล ประกอบกับเครื่องมือที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์มีจำกัด จึงต้องตัดสินใจย้ายตัว โดยก่อนหน้านี้กรมราชทัณฑ์ กับโรงพยาบาลตำรวจ มีการทำข้อบันทึกร่วมกันมากกว่า 30 ปีในการส่งตัวผู้ป่วยที่มีอาการหนักมารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยนายทักษิณ ถูกนำตัวมาที่โรงพยาบาลตำรวจด้วยรถราชทัณฑ์

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อาการของนายทักษิณจะสามารถเดินทางเข้ารับการรักษาแบบไปกลับโรงพยาบาลราชทัณฑ์กับโรงพยาบาลตำรวจได้หรือไม่ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ เผยว่า จากการตรวจร่างกายของนายทักษิณตอนนี้ หากจะให้รักษาตัวแบบเดินทางไปกลับมองว่ายังไม่ไหว

ส่วนข้อสงสัยที่ว่าทำไมก่อนหน้านี้สภาพร่างกายดูเหมือนปกติแต่พอเข้าเรือนจำกลับมีอาการป่วย พล.ต.ท.โสภณรัช กล่าวว่า นายทักษิณ มีการรักษาอาการป่วยต่อเนื่องมาตลอด แต่อาการไม่ได้แสดงออก ซึ่งมีรายละเอียดการรักษา ส่งมาให้กับอาจารย์หมอของกรมราชทัณฑ์ชัดเจน โดยสิ่งที่น่าเป็นห่วงของการรักษานายทักษิณ คือ มีอาการเกี่ยวกับระบบหัวใจ ปอด ระบบหมอนรองกระดูกหลังคอ แต่ยังไม่ขอยืนยันว่าเป็นโรคอะไร มองว่าอาการของนายทักษิณ ก็เหมือนกับนักโทษคนอื่นที่เคยส่งมายังโรงพยาบาลตำรวจ โดยที่ผ่านมาก็เคยรักษาผู้ต้องขังที่มีอาการเดียวกันมาแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์

เมื่อถามว่าการส่งตัวนายทักษิณมาที่โรงพยาบาลตำรวจ ได้ใส่กุญแจมือหรือไม่ พล.ต.ท.โสภณรัช ระบุว่า ไม่ได้ใส่เครื่องพันธนาการใดมา เนื่องจากตามกฎหมาย ผู้ที่ต้องโทษอายุน้อยกว่า 18 ปี หรือผู้ป่วยที่อายุมากกว่า 70 ปี ไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องพันธนาการอยู่แล้ว รวมถึงผู้ป่วยที่มีอาการหนัก ที่เดินยังมีการอาการหอบเหมือนนายทักษิณ หากใส่เครื่องพันธนาการก็ยิ่งลำบากต่อการตรวจรักษาร่างกาย

สำหรับกรณีเรื่องห้องพักรักษาตัวของนายทักษิณนั้น พล.ต.ท.โสภณรัช กล่าวว่า โรงพยาบาลตำรวจไม่ได้มีห้องรองรับผู้ป่วยมาก ด้วยความที่ส่งตัวมาด่วน จึงต้องเร่งหาห้องพัก โดยห้องดังกล่าว เดิมที่เป็นห้องกักตัวผู้ป่วยโควิด ซึ่งปกติแล้วคนไข้ในลักษณะนี้จะอยู่ตึกเฉลิมพระเกียรติ แต่มีผู้ป่วยจำนวนมากทำให้ห้องพักในตึกนั้นเต็ม จึงจำเป็นต้องส่งตัวนายทักษิณ มาที่อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา แทน พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้เป็นห้อง VIP มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่าห้องผู้ป่วยทั่วไป ซึ่งปัจจุบันเครื่องปรับอากาศใช้งานไม่ได้ ต้องใช้พัดลม 2 ตัว ช่วยระบายอากาศแทน และห้องพักของนายทักษิณ ไม่ได้อยู่ฝั่งที่มองเห็นทัศนียภาพภายนอก

ทั้งนี้ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ กล่าวอีกว่า อาการล่าสุดของนายทักษิณ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จากการสอบถามทีมแพทย์ที่รักษา นายทักษิณมีอาการดีขึ้นเล็กน้อยกว่าเมื่อคืน แต่ยังต้องใส่สายออกซิเจน ความดันยังสูงอยู่ สามารถสื่อสารได้แต่ยังมีอาการเหนื่อยหอบ แพทย์ต้องเฝ้าระวัง โดยสั่งงดเยี่ยมทุกกรณี ส่วนกรณีถ้าญาติต้องการย้ายตัวไปโรงพยาบาลเอกชน จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจกรมราชทัณฑ์

Related Posts

Send this to a friend