HEALTH

เตือน มะเร็งต่อมลูกหมาก ภัยร้ายผู้ชายอย่ามองข้าม แนะคนอายุ 45-75 ปี ควรตรวจคัดกรอง

วันนี้ (23 ส.ค. 66) นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เตือน มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งตัวร้ายที่ผู้ชายไม่ควรมองข้าม เนื่องจากเดือนสิงหาคม เป็นเดือนแห่งการรณรงค์มะเร็งต่อมลูกหมาก ประกอบกับสถิติสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ปี 2016-2018 พบอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ วันละ 10 คน หรือ 3,755 คนต่อปี เสียชีวิตวันละ 5 คน หรือคิดเป็น 1,830 คนต่อปี พบมากในผู้สูงอายุ 50 ปีขึ้นไป ในผู้ที่มีประวัติ บิดา พี่ชายหรือน้องชายเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ดังนั้นหากพบภาวะที่ผิดปกติเกิดขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ มะเร็งต่อมลูกหมาก พร้อมกันนี้แนะเพศชายที่อายุระหว่าง 45-75 ปี ควรตรวจคัดกรอง มะเร็งต่อมลูกหมากปีละ 1 ครั้ง ทั้งนี้หากตรวจพบได้เร็ว มีโอกาสรักษาหาย และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

นายแพทย์วีรวุฒิ กล่าวว่า “ต่อมลูกหมาก” เป็นอวัยวะสำคัญของเพศชาย มีหน้าที่สร้างสารเลี้ยงอสุจิ และน้ำหล่อลื่นระหว่างมีเพศสัมพันธ์ เมื่ออายุมากขึ้นต่อมลูกหมากจะโตขึ้นเรื่อยๆ ตามช่วงอายุ และหากเซลล์ในต่อมลูกหมาก มีการเจริญเติบโตที่ผิดปกติ หรือลุกลามไปสู่อวัยวะอื่น ภาวะดังกล่าวอาจกลายเป็น “มะเร็งต่อมลูกหมาก” มะเร็งต่อมลูกหมากพบได้บ่อยเป็นลำดับ 4 ของมะเร็งในเพศชาย จากสถิติสถาบันมะเร็งแห่งชาติ (Cancer in Thailand Vol.X 2016-2018) พบอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก ผู้ป่วยรายใหม่ วันละ 10 คน หรือ 3,755 คนต่อปี เสียชีวิตวันละ 5 คน หรือ 1,830 คนต่อปี พบมากในผู้สูงอายุ 50 ปีขึ้นไป มีประวัติ บิดา พี่ชายหรือน้องชายเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก”

“ระยะเริ่มต้นอาจไม่มีอาการ หรือสัญญาณเตือนแต่มักตรวจพบ จากการตรวจสุขภาพประจำปีหรือพบสารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมากในเลือด (serum PSA: serum prostatic antigen) สูงเกินค่าปกติ เซลล์มะเร็งเมื่อขยายตัวจนเบียดท่อปัสสาวะ จะทำให้ปัสสาวะลำบาก ไม่พุ่ง กลั้นไม่อยู่ ปวดแสบเวลาปัสสาวะ และมีเลือดปนมากับปัสสาวะหรืออสุจิ ซึ่งอาการเหล่านี้คล้ายคลึงกับโรคต่อมลูกหมากโต จึงต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการวินิจฉัยแยกโรค หากมะเร็งเข้าสู่ระยะลุกลามอาจทำให้ปวดหลัง ปวดสะโพก กระดูกหักโดยไม่ทราบสาเหตุ น้ำหนักลด ขาบวม หรือตัวเหลืองตาเหลืองได้”

ด้าน นายแพทย์พร้อมวงศ์ งามวุฒิวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์มะเร็งทางเดินปัสสาวะ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า “ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก มีหลายปัจจัย ได้แก่การรับประทานแคลเซียม ในปริมาณสูงมากกว่า 2 กรัมต่อวัน ทานไขมันอิ่มตัวจากสัตว์หรือเนื้อสัตว์ที่ปิ้งย่างไหม้เกรียม มีภาวะน้ำหนักเกิน สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และการใช้ฮอร์โมนเพศแอนโดรเจน (Androgen) นอกจากนี้ยังพบว่าการมีภาวะ ต่อมลูกหมากอักเสบเรื้อรัง และมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากด้วยเช่นกัน”

“สำหรับการตรวจคัดกรอง มะเร็งต่อมลูกหมากในปัจจุบัน แนะนำให้ตรวจในเพศชายที่อายุระหว่าง 45-75 ปี ด้วยการคลำต่อมลูกหมากทางทวารหนัก ร่วมกับตรวจระดับสารบ่งชี้ในเลือด (serum PSA) หากพบค่าสูงมากกว่า 4 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร หรือคลำพบก้อน บ่งชี้ถึงภาวะเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ถัดมาคือการเจาะเก็บชิ้นเนื้อต่อมลูกหมาก ทางทวารหนักแบบสุ่ม (Random TRUS prostate biopsy) โดยใช้เครื่องมือสอดเข้าทางทวารหนัก เพื่อเจาะเก็บชิ้นเนื้อ 10-12 ชิ้น นำไปตรวจหาเชลล์มะเร็ง”

“การวินิจฉัยมะเร็งต่อมลูกหมากปัจจุบัน ใช้วิธีการเอ็กซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า บริเวณต่อมลูกหมาก (multiparametric MRI prostate) และใช้ภาพเอ็กซเรย์เป็นแผนภาพนำทาง ในการเจาะชิ้นเนื้อต่อมลูกหมาก (MRI fusion-targeted prostate biopsy) ซึ่งช่วยลดจำนวนชิ้นเนื้อที่ต้องเจาะเก็บ และลดการเจาะในรายที่มีความเสี่ยงต่ำ ช่วยเพิ่มโอกาสตรวจพบเจอมะเร็งต่อมลูกหมากที่มีนัยสำคัญมากยิ่งขึ้น”

“ส่วนการรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก ขึ้นอยู่กับระยะและความรุนแรงของโรค โดยจะพิจารณาร่วมกับอายุและสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย เริ่มตั้งแต่การตรวจติดตาม หรือเฝ้าระวังเชิงรุกในผู้ป่วยสูงอายุหรือผู้ป่วยในกลุ่มที่มะเร็งมีการลุกลามต่ำ ไปจนถึงการผ่าตัดนำต่อมลูกหมากออก (Radical prostatectomy) การใช้ยาลดฮอร์โมนเพศชาย การฉายแสง ฝังแร่ การให้ยาเคมีบำบัด การผ่าตัดตัดอัณฑะ รวมถึงการให้ภูมิคุ้มกันบำบัด (immunotherapy) วิธีการผ่าตัดรักษามะเร็งต่อมลูกหมากปัจจุบันที่นิยมมีอยู่ 2 วิธี คือการผ่าตัดเอาต่อมลูกหมาก ออกทั้งหมดผ่านกล้อง (laparoscopic radical prostatectomy) และการผ่าตัดต่อมลูกหมากออกทั้งหมด โดยใช้หุ่นยนต์ช่วย (robotic-assisted laparoscopic radical prostatectomy) โดยใช้แขนกลหุ่นยนต์ ที่ควบคุมโดยศัลยแพทย์ ซึ่งมีความแม่นยำในการเก็บเส้นประสาทที่ ช่วยในเรื่องการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้ดีมากยิ่งขึ้น”

“ปัจจุบันการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยวิธีการเจาะหาสารบ่งชี้ในเลือด (serum PSA) ในกลุ่มเสี่ยง หรือมีอาการทำให้ตรวจพบเจอผู้ป่วย ในระยะเริ่มต้นเพิ่มมากขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสการรักษาโรคให้หายขาด การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์ไหม้เกรียม ช่วยให้ห่างไกลจากโรคมะเร็ง และมีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ”

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat