‘ไรเดอร์แกร็บ’ รวมตัวร้อง ส.ส.ก้าวไกล หลังขนส่งสั่งห้ามป้ายขาววิ่ง ชี้กระทบวิน-ผู้โดยสาร
วันนี้ (23 มิ.ย. 65) เวลา 14:30 น. ที่อาคารรัฐสภา กลุ่มตัวแทนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านแอพพลิเคชั่นแกร็บ ประเทศไทย (Grab Thailand) หรือ ไรเดอร์ รวมตัวกันยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคก้าวไกล กรณีที่ได้รับผลกระทบจากประกาศของ บริษัท แกร็บ ประเทศไทย หลังได้รับคำสั่งจากกรมขนส่งทางบกให้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริการ GrabBike (Win) ที่ใช้รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลป้ายทะเบียนสีขาวให้บริการได้ถึง 15 ก.ค.นี้
โดยตัวแทนกลุ่มคนขับแกร็บวิน ระบุว่า ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากคำสั่งของกรมขนส่งฯ นั้นมีมากกว่า 10,000 ชีวิต นอกจากผู้ขับขี่แล้ว ผู้โดยสารที่ใช้งานประจำมากว่า 6 ปี ก็จะได้รับผลกระทบด้วย เพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้ ยังขอเรียกร้องให้ ส.ส. นำเรื่องนี้เข้าพิจารณาเป็นข้อกฎหมายให้เปิดเขตการให้บริการอย่างเสรียกเลิกการจำกัดเขตการให้บริการของแกร็บวิน
นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส. กรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคก้าวไกล ขอเรียกร้องให้กรมการขนส่งทางบก คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักอย่าใช้ข้อกฎหมายมาบังคับให้เกิดการผูกขาด แต่ควรเปิดเสรีให้แอปเรียกรถแต่ละแอพ
“อยากให้ประชาชนผู้ใช้บริการออกมาส่งเสียงมากกว่าเดิม หากขนส่งออกกฎระเบียบที่ไม่เอื้อต่อผู้บริการ เราก็จะไม่มีบริการดี ๆ ใช้” นายสมเกียรติ กล่าว
ด้าน พ.ต.ต. เชาวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า นอกจากผู้ขับขี่ในกรุงเทพฯ แล้ว ส่วนยังได้รับทราบปัญหาจากไรเดอร์ในจังหวัดอื่นๆ ด้วย ซึ่งข้อจำกัดที่ไม่ให้ป้ายขาววิ่งต่อจะเป็นปัญหาใหญ่ เพราะในต่างจังหวัดไม่มีมอเตอร์ไซค์รับจ้างมากเหมือนในกรุงเทพฯ จะส่งผลต่อรายได้ของไรเดอร์ในแต่ละพื้นที่ เน้นย้ำว่านโยบายเดียวนี้ไม่สามารถใช้ได้กับทั่วประเทศ
ส่วน นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่กรมการขนส่งทางบก จะออกระเบียบโดยเปลี่ยนจากป้ายขาวเป็นป้ายเหลือง ก็ควรจะมีมาตรการรองรับและช่วยเหลืออำนวยความสะดวกด้วย นอกจากนี้ ยังได้ทราบมาว่าการที่จะได้ป้ายเหลืองนั้นจำเป็นจะต้องขออนุญาตจากมอเตอร์ไซค์รับจ้างเจ้าเก่าให้การรับรองก่อนด้วย จึงเห็นว่าควรมีการเปิดพื้นที่สำหรับเจรจาให้เรื่องนี้ผ่านไปโดยราบรื่นผู้ขับและผู้โดยสารได้รับความเดือดร้อน และในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้
