POLITICS

‘รสนา’ น้อมนำพระบรมราโชวาท ส่งเสริมคนดีปกครองบ้านเมือง

ยุติการทุจริต หยุดยุทธศาสตร์ไม่เลือกเราเขามาแน่ ยก “จำลอง ศรีเมือง” เป็นไอดอล เรียกคะแนนเลือกรสนาให้ชนะชัชชาติ

วานนี้ (18 พ.ค. 65) รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครผู้ว่ากทม. หมายเลข 7 ขึ้นเวทีปราศรัย ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ ประกาศยุทธศาสตร์ให้คนดีปกครองบ้านเมือง ล้มล้างยุทธศาสตร์ “ไม่เลือกเราเขามาแน่” พร้อมอัญเชิญพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ตอนหนึ่งว่า

“…ในบ้านเมืองนั้นมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คน ทุกคนเป็นดีได้ทั้งหมด การทำให้ บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ ทุกคนเป็นคนดี หาก แต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ ปกครองบ้านเมืองและควบคุมคนไม่ดีไม่ให้ มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้…” ความตอนหนึ่ง ในพระบรมราโชวาท ปี พ.ศ. 2512

รสนา กล่าวว่า การทุจริตแม้แต่น้อยถือเป็นอนันตริยกรรม หากไม่มีการทุจริตพระองค์ท่านตรัสว่า ไม่เกิน 10 ปี เมืองไทยจะเจริญ จึงต้องหยุดการทุจริตให้สำเร็จและไม่ทุจริตเสียเอง เป็นแรงบันดาลใจให้กำหนดนโยบาย “ต้องหยุดโกง กรุงเทพเปลี่ยนแน่” จึงเชิญชวนคนกรุงเทพเลือกผู้ว่าฯตามแนวพระบรมราโชวาท

รสนา กล่าวว่า ต้องหยุดยุทธศาสตร์ไม่เลือกเราเขามาแน่ แม้คนนั้นจะไม่ใช่คนที่เราศรัทธา เพราะสร้างความเสียหายในภายหลัง จึงอยากถามว่าชาวกทม.ได้ประโยชน์อะไรจากยุทธศาสตร์นี้ เป็นมายาคติของฝ่ายการเมืองใช่หรือไม่ ที่มียุทธศาสตร์ที่แท้จริงคือการแบ่งแยกเพื่อปกครอง ให้เลือกฝ่ายตัวเองซึ่งมีธุรกิจการเมืองอยู่เบื้องหลัง ซึ่งมีการเลือกฝ่ายของเราเข้าไปโกงบ้านกินเมืองมีประโยชน์อะไรกับบ้านเมือง

เมื่อปี 2556 เลือกผู้ว่าด้วยยุทธศาสตร์นี้ ทำให้ชาวกรุงเทพได้อุโมงค์ยักษ์มูลค่าแสนล้านที่ไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ ซุ้มไฟส่งเสริมการท่องเที่ยว 39 ล้านบาท ซึ่งเป็นต้นเหตุให้ผู้ว่าจากการเลือกตั้งถูกพักงานและถูกถอดถอนในเวลาต่อมา และ คสช. ได้แต่งตั้งผู้ว่าคนใหม่เข้ามา คือ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง

เรื่องที่ใหญ่ สำหรับผู้ว่ากทม.จากการเลือกตั้งที่ได้มาด้วยยุทธศาสตร์นี้ คือสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้า BTS การมีส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าและทำสัญญาจ้างให้ BTS เดินรถกว่า 30 ปี ใช้เงินกว่า 3 แสนล้านบาท ภายหลัง คสช. รัฐประหารเพื่อเข้ามายุติการทุจริต ปลดผู้ว่าจากการเลือกตั้งด้วยเหตุซุ้มไฟ 39 ล้านบาท แต่ไม่ยกเลิกสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าถึงปี พ.ศ. 2585 คสช.กลับไม่ยกเลิกสัญญา เพราะมีเจตนาแอบแฝงจะทุจริตใช่หรือไม่

ผู้ว่าจากการแต่งตั้งของคสช. ก่อหนี้การจ้างเดินรถกว่าแสนล้าน เป็นหนี้ผูกมัดให้คนกทม.จำทนต่อสัญญาสัปทานเดินรถออกไปอีก 30 ปี ในราคาโดยสาร 65 บาท ทั้งที่มีการเปิดเผยต้นทุนการเดินรถจาก สถานีเคหะฯไปคูคตมีต้นทุนเพียง 15.70 บาทเท่านั้น เป็นการทุจริตที่ใหญ่ที่สุดที่ตนต้องการมาปลดล็อกให้คนกทม.

รสนา มองว่าการที่ผู้ว่ากับ ส.ก. มาจากสังกัดพรรคเดียวกัน ย่อมเปิดทางให้มีการทุจริตแบ่งเค้ก หรือหากผู้ว่า และ ส.ก.อยู่ฝั่งตรงข้ามทางการเมือง ย่อมจะสร้างความแตกแยก แบ่งพวก อย่างแน่นอน

รสนา ยืนยันถึงจุดยืนของตัวเองว่า สถาบันสำคัญในประเทศมี สถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันทหาร และสถาบันการเมือง ตนยึดมั่นในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และปฏิบัติตามพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 เกี่ยวกับการซื่อสัตย์สุจริตมายึดเป็นหลักนำ

นอกจากนี้ รสนา เชิญชวนให้คนกรุงเทพกว่า 7 แสนเสียงที่เคยเลือกรสนาให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาออกมาใช้สิทธิ เลือกรสนาให้ชนะชัชชาติ ไม่ใช่เลือกรสนาได้ชัชชาติอย่างที่บางกลุ่มพยายามสร้างวาทะกรรม เชื่อมั่นว่า นโยบายลดค่าตั๋ว BTS เหลือ 20 บาทตลอดสาย นโยบายการปลูกกัญชาเพื่อสุขภาพในครัวเรือน เลิกไล่จับหาบเร่แผงลอย ส่งเสริมคนเล็กคนน้อยทำมาหากิน พร้อมสานต่อเจตนารมณ์ลุงจำลอง ศรีเมือง แก้ปัญหาน้ำท่วม กทม. ใส่ใจขุดลอก คูคลอง อย่างสม่ำเสมอ กทม.ต้องเป็นเมืองปลอดภัย

Related Posts

Send this to a friend