‘ประชาธิปัตย์’ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. นครศรีธรรมราช ‘จุรินทร์’ ไม่หวั่นเลือดไหลออก

‘ประชาธิปัตย์’ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. นครศรีธรรมราช ‘จุรินทร์’ ไม่หวั่นเลือดไหลออก เชื่อเลือกตั้งหน้าได้ส ส.มากกว่าเดิม – ‘นิพนธ์’ เหน็บแรงคนออกจากพรรคไม่มีใครประสบความสำเร็จ เตือนพรรคที่ได้ไปอย่าดีใจเป็นแค่วิญญาณ เชื่อ ประชาชนจะลงโทษ

วันนี้ (12 พ.ย. 65) ที่หอประชุมเมืองนครศรีธรรมราช สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 จ.นครศรีธรรมราช นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และบรรดาแกนนำพรรค ร่วมกัน เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดนครศรีธรรมราช ในการเลือกตั้ง ครั้งหน้า 8 เขต จาก 9 เขต ประกอบด้วย

• นายราชิต สุดพุ่ม อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี
• นายพิทักษ์เดช เดชเดโช ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
• ว่าที่ร.ท.ยุทธการ รัตนมาศ อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช
• นายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส. นครศรีธรรมราช
• นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส. นครศรีธรรมราช
• นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส. นครศรีธรรมราช
• นางสาวอวยพรศรี เชาวลิต สมาชิกสภา อบจ. นครศรีธรรมราช
• น.ส.ปุณณ์สิริ บุณยเกียรติ นักกิจกรรมด้านนวัตกรรม

ยังคงเว้นว่าง 1 เขต หลัง น.ส. พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส. นครศรีธรรมราชของพรรคแจ้งจะไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติในสมัยหน้า

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นครศรีธรรมราช ว่า วันนี้จะมีการเปิดตัว 8 เขต ความจริงต้องมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 9 เขต แต่เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองเพราะมีอดีต ส.ส.ของพรรค 1 เขต ที่ลาออกไป ส่วนอีกเขตที่ยังไม่มีตัวผู้สมัคร ขณะนี้ได้มีผู้เสนอตัว ที่พร้อมจะลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะฉะนั้น พรรคก็พร้อมที่จะส่งครบทุกเขตในจังหวัดนครศรีธรรมราช และไม่ได้กังวลอะไร

สำหรับคุณสมบัติของบุคคลที่จะมาแทนในเขตที่ขาดไปนั้น ตนขอยังไม่พูดขอให้เป็นหน้าที่ของรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้ไปดำเนินการ แต่เท่าที่ทราบมีผู้เสนอตัวมาหลายคนแล้ว จึงขอให้เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในเมื่อถึงเวลาพรรคก็จะตัดสินใจ ซึ่งคนๆนั้นพรรคจะต้องพิจารณาเรื่องอุดมการณ์ ตนมั่นใจสำหรับคนใหม่ที่จะมีอุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์เต็มร้อย เหมือนนายชวน หลีกภัย, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และตนเองที่เป็นุฝู้แทนมา 11 สมัยไม่เคยเปลี่ยนพรรคตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ และมั่นใจว่าคนใหม่ที่จะเข้ามาจะสามารถที่จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับพี่น้องชาวนครได้อีกคนหนึ่ง

ส่วนกรณีที่ตัวเต็งของพรรคประชาธิปัตย์ทยอยลาออกนั้นจะส่งผลกระทบต่อพรรคอย่างไรนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่าอาจจะมีผลกระทบต่อพรรคนิดหน่อยแต่ภาพรวมไม่กระทบ เพราะมีคนใหม่ที่เดินเข้ามาเยอะและมีโอกาสที่จะได้รับเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นภาพรวมการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคก็ยังคงมั่นใจ และแกนนำพรรคทุกคนคิดตรงกันว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องได้ ส.ส. มากกว่าเดิมแน่นอน นี่คือสิ่งที่ได้เตรียมการมาส่วนจะเกิดปัญหาในเขตใดนั้น ก็ต้องแก้ปัญหากันไป

ทั้งนี้ การย้ายพรรคตนก็มองว่ามีการย้ายกันทุกพรรค อย่างที่ตนเคยทายไว้เมื่อใกล้เลือกตั้ง ไม่มีพรรคไหนไม่มีคนเข้าคนออกประชาธิปัตย์ก็เช่นเดียวกัน

” มีคนถามตนว่าประชาธิปัตย์อยู่มาได้ 76 ปี ในอดีตมีคนเข้าก็เยอะมีคนเดินออกก็มี ทำไมประชาธิปัตย์จึงอยู่ยั่งยืนยงมาได้ ตนจึงตอบไปว่าประชาธิปัตย์อยู่ยั่งยืนยงมาได้นั้น ก็เพราะว่า ประชาธิปัตย์ยังมีแก่นที่หลุดร่วงไปบ้างก็เป็นเรื่องปกติ อาจจะเป็นเปลือกเป็นใบ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่หลุดร่วงไปบ้าง แต่ต้นรากแก้วออกมาเป็นประชาธิปัตย์ ของอุดมการณ์ และจิตวิญญาณของการรับใช้ประชาชน ที่ตั้งใจเดินหน้าให้ประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมือง เพราะฉะนั้นต้นไม้ของประชาธิปัตย์จึงสามารถแผ่กิ่งก้านสาขาผลิดอกออกใบได้ตลอดระยะเวลา 76 ปี เพื่อรับใช้พี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นเรื่องดังกล่าวเราไม่ได้หวั่นไหว พร้อมจะเดินหน้าต่อไป ทุกคนในพรรคยังเหนียวแน่นเพราะคนเข้าเยอะกว่าคนออก ตัวเลขสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตอนนี้ยังเป็นอันดับ 1 ของพรรคการมืองในประเทศ 110,000 คน และช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มีสมาชิกเข้าใหม่ ประมาณ 4 หมื่นคน ฉะนั้นพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีปัญหาอะไร ยังเดินหน้าต่อไปผนึกกำลังคนที่ยังเป็นแก่นเป็นต้นเป็นรากแก้วของประชาธิปัตย์ขับเคลื่อนต่อไป ตนมั่นใจว่าประชาชนเข้าใจ และพร้อมที่จะเดินเคียงข้างไปกับเรา “

ส่วนพรรคจะต้องไปสืบหาสาเหตุของการลาออกหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า อย่างน้อยเบื้องต้นต้องไปถามคนที่ลาออกก่อน ว่าเพราะอะไรทำไมถึงออก หลายคนพรรคก็ให้ทุกอย่างที่พรรคจะให้ได้ อย่างน้อยก็โอกาสสถานภาพในการทำหน้าที่ การให้จิตวิญญาณ ให้อนาคตในการรับใช้ประชาชนเราก็ให้เต็มที่และให้ความสำคัญกับทุกคน แต่แต่ละคนก็ต่างจิตต่างใจ ก็ต้องให้คนที่ลาออกเป็นคนตอบ แต่พรรคก็เข้าใจในสถานการณ์แบบนี้ บางพื้นที่เราส่งผู้สมัครได้คนเดียวในนามพรรค แต่มี 2-3 คนที่พรรคตัดสินใจไม่สามารถส่งผู้สมัครได้ ถ้าคนนั้นยังอยากเป็นผู้แทน ก็ต้องตัดสินใจย้ายพรรค หรือ เงื่อนไขอื่นๆ ที่พรรคไม่สามารถให้ได้ เพราะประชาธิปัตย์ก็ต้องคำนึงถึงภาพรวมของพรรค ว่าจะเกิดการเปลี่ยนผ่านไปได้

พร้อมกันนี้นายจุรินทร์ ยังได้กล่าวถึงกรณี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่าต่อไปนี้จะไม่เกรงใจ พรรคที่มาดูด ส.ส.ของประชาธิปัตย์ไปว่า นายเฉลิมชัยพูดชัดเจนแล้ว ความเห็นของเลขาฯ ก็คือความเห็นของพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การเปิดตัว วันนี้ มี สมาชิกพรรคมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยก่อนจะมีการเปิดตัว แกนนำพรรคได้สลับกันขึ้นเวทีปราศรัย สร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาขิกพรรคหลังเกิดกรณี เลือดประชาธิปัตย์ไหล โดย นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ปราศรัยถึงประเด็นนี้อย่างดุเดือด โดยได้กล่าวว่าบรรยากาศวันนี้ เชื่อว่าคนที่ออกจากพรรคไปคงต้องขนหัวลุก บางพรรคที่ได้ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ไปอาจจะมีการฉลอง ที่คงต้องคิดใหม่ เพราะสิ่งที่ได้ไปมีแต่วิญญาณ ตนอยากให้ประชาชนรู้ว่า ปรากฏการณ์เลือดไหลออกของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีครั้งนี้ เป็นครั้งแรกแต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาหลายครั้งในอดีต

ยกตัวอย่างยุคหนึ่ง พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ ก็เคยลาออกไปตั้งพรรคใหม่ หรือ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ตนเห็นมามากว่าทุกคน ที่ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไปผลสุดท้ายไม่เคยมีใครประสบความสำเร็จในทางการเมืองเลย แต่พรรคประชาธิปัตย์ยังคงอยู่ และมีคนใหม่ๆ เข้ามา หลายครั้งคนที่ออกจากพรรคไปประชาชนก็ลงโทษไม่มีใครได้กลับมาสักคน ดังนั้นไม่ว่าจะอย่างไร แต่ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ประชาธิปัตย์ยังอยู่ และอยู่มา 77 ปีแล้ว พฤติกรรมที่เกิดขึ้นในวันนี้ ไม่ได้เพิ่งจะมีแต่เกิดมานานแล้ว วันนี้เปรียบสถานการณ์ กลับสู่สงครามกันอีกครั้งหนึ่ง โดยมีประชาชนเป็นคนตัดสิน

นายนิพนธ์ ยังกล่าวถึง การวิเคราะห์ของสื่อมวลชนบางสำนัก ว่าขณะนี้กำลังจะเกิดพรรคสามัคคีธรรม 3 ที่เป็นพรรคเฉพาะขึ้น จากเดิมที่เคยมีพรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคสามัคคีธรรม 2 และล่าสุดสื่อออกมาบอกว่า พรรครวมไทยสร้างอะไรบางอย่างตนจำไม่ได้ กำลังเป็นพรรคสมามัคคีธรรม 3 ดังนั้นวันนี้ชัดเจนว่าพรรคบางเป็นพรรคที่ตั้งขึ้นมาแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ คือ พรรคเฉพาะกิจ