‘มท.1’ คาดโทษเจ้าหน้าที่ หากละเลยปราบยาเสพติด จะให้หยุดปฎิบัติหน้าที่

‘มท.1’ คาดโทษเจ้าหน้าที่ หากละเลยปราบยามเสพติด จะให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ เตรียมเอ็กซเรย์พื้นที่อย่างจริงจัง แยกผู้เสพเข้าบำบัด วอนสังคมช่วยกัน เพื่อแก้ปัญหายาเสพติดในประเทศ

พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงผลการประชุมมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาวุธว่า จะเข้มงวดป้องกันและปราบปรามเสพติด เริ่มตั้งแต่ ซัพพลาย ของยาเสพติด ทั้งแหล่งผลิต กระบวนการแหล่งผลิตทั้งหมดที่เข้ามาในประเทศ โดยทุกฝ่ายปกครองต้องเข้มงวดกวดขันอย่างจริงจัง เช่น ในพื้นที่เมื่อพิสูจน์แล้วว่ามีการปล่อยปละละเลย จากเจ้าหน้าที่ก็จะบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ทั้งการให้หยุดปฎิบัติหน้าที่และการรับราชการในอนาคตต่อไป ส่วนดีมานด์ก็จะไม่ให้ผู้เสพคนใหม่เข้ามาในระบบ โดยกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะต้องทำงานร่วมกัน เพื่อป้องกันไม่ให้คนใหม่เป้นผู้เสพ

ขณะเดียวกัน กระทรวงมหาดไทยเตรียมเอ็กซเรย์ แยกผู้เสพ ผู้ใช้ และคนติดยาเสพติด โดยใช้กลไกร่วมกับฝ่ายตำรวจ ฝ่ายสาธารณสุข ฝ่ายปกครองแล้วนำคนพวกนี้เข้าสู่ระบบ ว่าจะต้องนำไปบำบัดอย่างไร ซึ่งในการบำบัด ก็ต้องแยกผู้เสพ ผู้ใช้และผู้ติดยา เพราะบางคนต้อง เมื่อใช้ยาเสพติดนานจะมีอาการหลอน กลุ่มคนเหล่านี้ต้องใช้การรักษานานเป็นปีๆ ดังนั้นจะต้องมีมาตรการและคนรับผิดชอบ เพราะคนพวกนี้ไม่สามารถบำบัดอยู่ในภาวะปกติได้

พลเอกอนุพงษ์ ยังระบุว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาร่วมกับตำรวจว่า จะพิจารณาแก้กฎหมายการครอบครองยาเสพติด ที่ไม่เกิน 5 เม็ด ไม่เป็นผู้เสพ ไม่ดำเนินคดี แต่ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเห็นว่า ยาเสพติดจะลดลงทุกคนในสังคมจะต้องร่วมมือกัน อย่าสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ จนสังคมสับสน แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่าจะเข้าจับกุมทันทีหากพบมียาเสพติด โดยไม่มีการละเว้น