BUSINESS

พาณิชย์ ลุยตรวจโกดังปุ๋ย พบ ปริมาณเต็มโกดัง – ราคาปรับลดลง

ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังร่วมกับพาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ตรวจโรงงานของผู้นำเข้าและผู้ผลิตปุ๋ยเคมีรายใหญ่ 2 แห่ง คือ บริษัทเทอราโกร เฟอร์ติไลเซอร์ จำกัด และ บริษัทไทยเซ็นทรัลเคมีจำกัด (มหาชน) ณ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา และลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์การจำหน่ายปุ๋ยเคมี ในเขต อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ว่า ไม่พบการกักตุนหรือการกระทำผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฯ

โดยปริมาณสต็อกปุ๋ยเคมี ทั้งสูตรหลักและสูตรทางเลือก มีเต็มโกดัง รวมทั้ง 2 แห่งกว่า 1 แสนตัน หรือกว่า 2 ล้านกระสอบ สามารถผลิตและจำหน่ายได้ถึงต้นปีหน้า ส่วนราคา พบว่าปรับลดลง เมื่อเทียบกับช่วงกลางปีที่ผ่านมา

รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ยังกล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงวิกฤติด้านพลังงานและการขนส่งสินค้า ในช่วงกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ว่า ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบปุ๋ยเคมีที่ไทยต้องนำเข้าปุ๋ยเคมีเกือบ 100% ปรับสูงขึ้น ขณะที่ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ. 65 ส่งผลกระทบต่อปริมาณปุ๋ยเคมีในตลาดโลก เนื่องจากรัสเซียเป็นแหล่งผลิตปุ๋ยสำคัญของโลก และยังเป็นแหล่งนำเข้าอันดับ 3 ของไทย เมื่อปี 2564

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า ช่วงเดือน ม.ค. – ก.พ. 65 การนำเข้าปุ๋ยของไทยลดลงประมาณ 50% กระทรวงพาณิชย์จึงได้หารือกับผู้นำเข้าและผู้ผลิตเพื่อหาแหล่งนำเข้าใหม่ ตลอดจนปรับโครงสร้างราคาเพื่อให้มีนำเข้ามามากขึ้น นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังมีนโยบายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและกรมการค้าภายใน เชื่อมโยงการซื้อปุ๋ยจากแหล่งผลิตสำคัญ เช่น ซาอุดิอาระเบีย

โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นำคณะไปเยือน ระหว่างวันที่ 27-31 ส.ค. 65 ช่วยให้มีการตกลงซื้อปุ๋ยจาก บริษัท ซาบิก และ บริษัท มาเดน ของซาอุดิอาระเบีย รวม 425,000 ตัน ทำให้ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ปริมาณสต็อกปุ๋ยทั่วประเทศเพิ่มขึ้น จากประมาณ 9 แสนตัน ในช่วงสิ้นไตรมาสแรกของปี เป็น 1.4 ล้านตัน ในช่วงสิ้นไตรมาสที่ 3 หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 56% จึงขอให้เกษตรกรมั่นใจได้ว่า จะมีปุ๋ยใช้อย่างเพียงพอ

ส่วนสถานการณ์ด้านราคา แม้จะยังอยู่ระดับที่สูง แต่จากปริมาณที่เพียงพอ ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาระหว่างผู้ผลิตและผู้จำหน่าย และจากสถานการณ์ราคาปุ๋ยเคมีในตลาดโลกที่ปรับลดลงขณะนี้ ทำให้ราคาปุ๋ยเคมีในประเทศได้ปรับลดลงด้วย อาทิ ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) ซึ่งเป็นสูตรที่ใช้กันมากที่สุด ราคาปรับลดประมาณ 18-20% ส่วนปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) ซึ่งนิยมใช้ในการปลูกปาล์มน้ำมัน ราคาก็ปรับลดเช่นกัน โดยลดลงประมาณ 25%

Related Posts

Send this to a friend