BUSINESS

โพล เผย คนไทยนิยมซื้อทองให้แม่เป็นของขวัญมากขึ้น

คาด วันแม่ปีนี้ เงินสะพัดกว่าหมื่นล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี

นางอุมากมล สุนทรสุรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจทัศนคติและพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชน ในช่วงวันแม่ ปี 2565 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,288 คนทั่วประเทศ ว่า วันแม่ปีนี้ คาดว่าจะมีมูลค่าการใช้จ่าย 10,883 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากปี 2563 (ปี 2564 ไม่ได้สำรวจ เนื่องจากมีสถานการณ์โควิด) โดยเม็ดเงินดังกล่าว แบ่งเป็นการใช้จ่ายในกิจกรรมต่างๆ 10,012 ล้านบาท และการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว 870 ล้านบาท

ผลสำรวจยังพบว่า คนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 40.2% ตั้งงบประมาณใช้จ่ายในช่วงวันแม่ปีนี้เพิ่มขึ้น เพราะเป็นวันพิเศษ มีรายได้เพิ่มขึ้น และคาดว่าเศรษฐกิจกำลังดีขึ้น ขณะที่ร้อยละ 36.5 ตั้งงบประมาณลดลง เพราะต้องประหยัดมากขึ้น มีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจยังไม่ดี มีหนี้มาก และรายได้ลดลง

สำหรับกิจกรรมที่จะทำในวันแม่ปีนี้มากที่สุด คือ พาแม่ไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ตามด้วยพาแม่ไปทำบุญ และทำอาหารรับประทานกันเองที่บ้าน ส่วนของขวัญที่จะให้แม่ อันดับแรกคือ เงิน/ทอง รองลงมาคือ พวงมาลัย/ดอกไม้ และเครื่องดื่มบำรุงร่างกาย
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า จากเม็ดเงินที่คาดว่าจะสะพัดในช่วงวันแม่ปี 2565 ที่ 10,883 ล้านบาท ขยายตัว 9% จากปี 2563 นั้นเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2555 ทำให้เห็นว่า ตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิดในประเทศไทย เมื่อปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ประชาชนมองว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น ทำให้เริ่มเห็นสัญญาณการจับจ่ายใช้สอยที่มากขึ้นในช่วงวันแม่ สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวแบบอ่อนๆ แต่ยังเป็นการฟื้นตัวแบบเปราะบาง

Related Posts

Send this to a friend