ผบ.ทร. แจงปฏิบัติการกู้เรือหลวงสุโขทัย 21 ก.พ.นี้ เชิญสื่อติดตาม

ยืนยันจะนำหลักฐานทุกอย่างมาเปิดเผยสาเหตุเรือจม รับตามกติกาสหรัฐฯ ต้องทำลายอมภัณฑ์ทิ้ง

พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการกู้เรือหลวงสุโขทัย ในช่วงการฝึกคอบร้าโกลด์ว่า เรือหลวงสุโขทัยจมน้ำ 50 เมตร และกองทัพเรือต้องการเรือขึ้นมาแบบเต็มลำสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งตนเป็นประธานกู้เรือเอง 2 ครั้ง ที่ผ่านมาบริษัทที่เข้าประกวด เอกสารที่จะตอบคุณสมบัติไม่ครบ ไม่ใช่ว่าจัดจ้างเสร็จแล้วยกเลิก ตนต้องการเอกสาร 7-8 ฉบับ จึงเป็นที่มาของการตัดสินใจเข้าไปพบกับสหรัฐอเมริกา ประจวบเหมาะกับที่เขาเตือนมาเป็นฉบับที่ 2 ว่าอย่าลืมเรื่องที่เป็นอาวุธยุทธภัณฑ์ของสหรัฐฯ จึงได้เข้าไปพูดคุยกัน

พล.ร.อ.อะดุง กล่าวว่า ไทยได้รับความร่วมมือจากสหรัฐฯ ซึ่งตรงเวลากับที่จะนำเรือขึ้นมาตอบโจทย์ว่าทำไมเรือหลวงสุโขทัยถึงจม โดยผลการสอบสวนด้วยวาจาเสร็จแล้วจริง แต่ที่กองทัพเรือเปิดเผยไม่ได้เพราะรอวัตถุพยาน ขอให้เข้าใจว่าไม่ได้หน่วงเหนี่ยวอะไรเลย ใจร้อนเหมือนทุกคน

“ใจร้อนแรกคือ อีก 5 ศพยังหาไม่เจอ ใจร้อนที่สองคือ รอวัตถุพยานขึ้นมาเพื่อจะปิดคดีเรือหลวงสุโขทัยจมเพราะอะไร ก็เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทยตอนนี้ ที่ผมตัดสินใจร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการนำทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นมา คือถ้ามีศพหรือป่านนี้อาจจะเหลือแค่กระดูกแล้ว ลูกน้องอีก 5 คนขึ้นมาได้ หรือนำกล้องไปถ่ายรูปทั้งหมดในตัวเรือ” ผบ.ทร. กล่าว

พล.ร.อ.อะดุง กล่าวต่อว่า มีคำถามเยอะมากว่าทำไมกองทัพเรือไม่ทำตั้งแต่ก่อนหน้า ขอตอบว่าตั้งใจกู้แล้วกู้ไม่เสร็จ เดินหน้าต่อด้วยความยากลำบาก และเมื่อสหรัฐฯ มา มีอุปกรณ์ดำน้ำ อุปกรณ์ถ่ายรูปใต้น้ำที่สมบูรณ์มาช่วยถ่ายรูปให้ ก็จะถ่ายทุกซอกทุกมุมของเรือลำนี้ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยจะชี้แจงให้ทราบ โดยจะเริ่มปฏิบัติการ 21 ก.พ.นี้ และเริ่มดำน้ำ ทำทุกอย่าง 3-4 เรื่องคือ ค้นหาศพ 5 ชีวิต ทำลายอมภัณฑ์ที่เป็นของสหรัฐฯ ที่เป็นกติกาเป็นระเบียบของเขาที่ต้องทำลาย และอมภัณฑ์ของกองทัพเรือที่จะเป็นอันตรายภายหน้า ก็จะทำลายด้วย ส่วนสิ่งใดที่นำขึ้นมาได้ก็จะนำขึ้นมา

พล.ร.อ.อะดุง ยืนยันว่าไม่มีการปกปิดใด ๆ โดยวันที่ทำพิธีจะเชิญสื่อมวลชนไปดูด้วย รวมถึงภาพที่ปฏิบัติการใต้น้ำก็จะนำขึ้นมาให้เห็น ทุกอย่างจะตรงไปตรงมาที่สุด ขอให้ทุกคนรอฟังและติดตามข่าว กองทัพเรือจะชี้แจงด้วยความตรงไปตรงมาที่สุด