‘ราษฎร’ ขอพื้นที่ ‘แคมป์ปิ้ง’ หน้ารัฐสภา จับตาอภิปราย-ร่วมโหวตไม่ไว้วางใจนายกฯ
‘ราษฎร’ ขอพื้นที่ ‘แคมป์ปิ้ง’ หน้ารัฐสภา จับตาอภิปราย-ร่วมโหวตไม่ไว้วางใจนายกฯ ‘ณัฐพงษ์’ หวังรัฐสภาเป็นพื้นที่ปลอดภัยต่อการแสดงออกทางการเมือง
วันนี้ (11 ก.ค. 65) เวลา 11:30 น. ณ อาคารรัฐสภา กลุ่มราษฎรและเครือข่าย ยื่นหนังสือต่อ นางผ่องศรี ธาราภูมิ คณะทำงานด้านการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้แทนประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอใช้พื้นที่บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา จัดกิจกรรม “แคมป์ปิ้งฟังสภา จับตาอภิปรายไม่ไว้วางใจประยุทธ์” ติดตามการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ระหว่างวันที่ 19-22 ก.ค. 65
ทั้งนี้ เมื่อรับยื่นหนังสือจากกลุ่มราษฎรแล้ว นางผ่องศรี แถลงว่า ดิฉันเป็นตัวแทนรับหนังสือและจะรับไปดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ตอนนี้เป็นแค่รับเรื่อง เสร็จภารกิจแล้ว แต่การแถลงให้สัมภาษณ์ขอให้เป็นตามอัธยาศัยในพื้นที่อื่น
อย่างไรก็ตาม ระหว่างกลุ่มราษฎรและเครือข่ายแจ้งสื่อมวลชนให้ไปติดตามการแถลงรายละเอียดที่ด้านหน้าประตูทางเข้าอาคารรัฐสภา ปรากฏว่า นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร เขต 28 พรรคก้าวไกล แจ้งว่าจะเป็นผู้รับเรื่องและร่วมแถลงข่าวเอง ทำให้ทางกลุ่มกลับมาใช้พื้นที่จุดรับเรื่องร้องทุกข์ในการแถลงข่าวได้
นายธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือ ปูน แกนนำกลุ่มทะลุฟ้า อธิบายรูปแบบกิจกรรมทางการเมืองครั้งนี้ว่า จะมีการจัดวงดนตรี เสวนา และงานวัฒนธรรม พร้อมทั้งแคมเปญ “โหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ โดยประชาชนจ้าาา” ผ่านคูหาทั่วประเทศในวันอาทิตย์ที่ 17 ก.ค. 65 เวลา 15:00-19:00 น. ซึ่งสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมในเพจราษฎรได้
“ที่เราต้องมาขอพื้นที่บริเวณรัฐสภา เพราะเราเห็นว่า การลงถนนจะปิดกั้นและกีดขวางการจราจร เราเห็นว่าบริเวณรัฐสภาเหมาะสมต่อการตั้งแคมป์ปิ้งฟังสภา จับตาไม่ไว้วางใจประยุทธ์”
นายธนพัฒน์ กล่าวเรียกร้องว่า ขอสภาฯ พิจารณาการขอใช้พื้นที่ของพวกเรา พวกเราเพียงจะมาแคมป์ปิ้งเพื่อจับตาการทำงานของสภาผู้แทนราษฎร และเปิดให้ประชาชนที่สนใจเข้ามามีส่วนร่วมในครั้งนี้
ทางด้าน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้มาในฐานะ ส.ส. พรรคก้าวไกล แต่มาในฐานะสมาชิกรัฐสภา ที่อยากให้พื้นที่อาคารรัฐสภาใช้เป็นพื้นที่แถลงข่าวได้ ขอให้ทางสภาฯ รับหนังสือนี้ไป และรีบดำเนินเรื่องให้กลุ่มและภาคประชาสังคมที่ตื่นตัวทางการเมืองได้มีพื้นที่รัฐสภาในการจัดกิจกรรม โดยไม่ต้องลงถนน สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนคนอื่นที่สัญจรไปมา และได้ใช้เป็นพื้นที่ปลอดภัยด้วย