‘ทนายอั๋น’ ร้อง DSI สอบกรณีการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ทับซ้อนพื้นที่อุทยานเขาใหญ่
‘ทนายอั๋น’ ร้อง DSI สอบกรณีการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ทับซ้อนพื้นที่อุทยานเขาใหญ่ เชื่อ ที่ดินของชาวบ้าน 50% ทั่วประเทศ ตกอยู่ในมือนายทุน
วันนี้ (11 มี.ค. 67) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ ตัวแทนกลุ่มคนรุ่นใหม่ประชาธิปไตยบริสุทธิ์ ยื่นเอกสารขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ตรวจสอบกรณีการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 ที่มีการทับซ้อนและรุกล้ำที่ดินในแนวเขตของอุทยานแห่งชาติ บริเวณเขาใหญ่ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 5 แปลง ให้กับผู้ที่ไม่ใช่เกษตรกรและไม่ได้อยู่ในพืันที่เป็นคดีพิเศษ
ทนายอั๋น ระบุว่า พบข้อพิรุธและตั้งข้อสังเกตในการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 ตามวิธีการอยู่หลายประการ คือ
1.ที่ดินที่มีการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 พบรายชื่อที่ไม่ใช่ประชาชนในเขตตำบลหมูสี และพบว่าในรายชื่อไม่ใช่ผู้ที่ประกอบอาชีพเกษตรกร
2.ไม่มีการระบุที่อยู่ สถานที่ ตำแหน่ง เหตุผลที่ตั้งว่าสถานที่อยู่ที่ใด
ทนายอั๋น กล่าวว่า ในรายชื่อมีการออกเอกสารสิทธิ์ให้ถึง 2 ครั้ง ขณะที่เกษตรกรผู้ยากไร้ในพื้นที่กลับไม่ได้รับสิทธิ์ในที่ดินทำกิน จึงขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษ เพื่อตรวจสอบว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรืออยู่เบื้องหลังด้วยหรือไม่
ทนายอั๋น กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้รัฐมนตรีกระทรวงกระเกษตรและสหกรณ์ เคยประกาศในสภาว่าจะดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับเจ้าหน้าที่คนใด ทั้งที่มีข้อมูลหลักฐานจำนวนมาก และยังไม่มีการดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่เข้าไปทำโรงแรมในเขตปฎิรูปที่ดิน แต่ ส.ป.ก.ไปดำเนินคดีกับ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักงานอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ทนายอั๋น ยังฝากไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า วันนี้ไม่ต้องไปทะเลาะกับนกหนูปูปีกที่อุทธยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่ควรไปเรียกคืนที่ดินในพื้นที่อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย 6,000 ไร่ รวมถึงที่ดินที่อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี อีก 700 ไร่ ส่วนข้อพิพาทที่เขาใหญ่แม้จะไม่มีความชัดเจนเรื่องแนวเขตว่าอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานไหน แต่เมื่อพบว่ามีเจ้าหน้าที่ออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ ก็ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ตรวจสอบ และนำผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าที่มีความสมบูรณ์ มีรางวัดแนวเขตชัดเจน
ทั้งนี้ ทนายอั๋น ยังระบุว่า เคยมีอดีตผู้สมัคร สส.บุรีรัมย์ เล่าให้ตนฟังว่า มีการตั้งโต๊ะเปิดรับออเดอร์จากนายทุนต่างชาติ พร้อมวางเงินมัดจำเพื่อจับจองที่ดิน และออกใบเสร็จชัดเจน ดังนั้นต้องขอบคุณที่เจ้ากระทรวงฯ ลงไปแล้วทะเลาะกับนายชัยวัฒน์ ทำให้ประชาชนจับจ้องเรื่องนี้จนดีลไม่สำเร็จ เพราะเดิมทีมีการวางแผนตั้งโต๊ะจองที่ดินบนเขาในอุทธยานแห่งชาติภูพาน จังหวัดสกลนคร ตนมองว่าการที่ชาวบ้านจะได้เอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 เป็นเรื่องยาก และ ส.ป.ก.จับจ้องที่จะยึดที่ดินคืน จึงเชื่อว่ามากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ทั่วประเทศน่าจะตกไปอยู่ในมือของนายทุน
