POLITICS

ประธาน กกต.ยังไม่ฟันธง ‘ทักษิณ’ ใช้นโยบายรัฐหาเสียง อบจ.ผิดกฎหมายหรือไม่

ประธาน กกต.ยังไม่ฟันธง ‘ทักษิณ’ ใช้นโยบายรัฐหาเสียง อบจ.ผิดกฎหมายหรือไม่ มอง ต้องพิจารณาบริบทเป็นรายกรณี

วันนี้ (10 ม.ค.68) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงนายกฯ อบจ.ของพรรคเพื่อไทย ปราศรัยโดยหยิบยกนโยบายรัฐบาลมาหาเสียงในว่า อยากให้แยกเรื่องการพูดถึงนโยบายระดับชาติกับการหาเสียงระดับท้องถิ่นบางครั้งพูดโยงกันได้ในความเห็นส่วนตัว เพราะบริบทการเมืองมันไปกันได้ แต่จะเข้าข่ายเป็นการหาเสียงที่ผิดกฎหมายต้องเป็นการสัญญาว่าจะให้และการหลอกลวง นอกจากนี้การพูดเรื่องที่ไม่มีอำนาจหน้าที่ของ อบจ.นั้น ๆ ก็ถือเป็นการหลอกลวงเหมือนกัน จึงจะต้องจะต้องพิจารณาบริบทแต่ละอันเป็นรายกรณี

การจะหาเสียงคือการพูดในสิ่งที่ตนเองจะไปปฏิบัติ หากได้รับเลือก แต่ถ้าจะพูดเลยไปบ้างก็ไม่น่าจะเสียหาย ส่วนการหาเสียงที่เป็นการพูดถึงนโยบายรัฐบาลที่ทำไปแล้วหรือกำลังจะทำ เช่น โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต และการลดค่าไฟนั้น ถ้าเขาไม่พูดแบบหาเสียงมันก็ไม่ใช่การหาเสียง มันเป็นการช่วยผู้สมัครหาเสียงในนโยบายที่ผู้สมัครประสงค์จะนำไปปฏิบัติเมื่อได้รับตำแหน่ง ส่วนตัวมองว่าถ้าเป็นการหาเสียงแล้วไปพูดถึงเรื่องอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนโยบายที่จะทำเป็นการเสียคะแนนมากกว่า

ผู้สื่อข่าวจึงทำย้ำว่าเป็นการพูดถึงภาพใหญ่นโยบายรัฐบาล ยกตัวอย่างนายทักษิณที่ไปปราศรัย สามารถทำได้หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่าการพูดถึงนโยบายกับการหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น เป็นสิ่งที่เกี่ยวพันกันได้ แต่จะถึงขั้นผิดหรือไม่คงจะตอบตอนนี้ไม่ได้ เพราะอาจจะทำให้เกิดความสับสน หากใครมีข้อสงสัยกับการหาเสียงสามารถสอบถามมาอย่าง กกต.ได้ แต่เชื่อว่าผู้สมัครและผู้ช่วยหาเสียงตระหนักดีว่า ทำได้มากน้อยแค่ไหน และมีคำวินิจฉัยที่เคยพูดถึงการหาเสียงไว้แล้ว

การหาเสียงอาจไม่ตรงประเด็น 100% แต่ถ้ามันเชื่อมโยงกันได้ก็อย่าเพิ่งไปรีบตัดสินว่าถูกหรือผิด ถ้ามีพยานหลักฐานก็ต้องดูเป็นรายกรณีไป ส่วนการเลือกตั้งท้องถิ่นได้นำนโยบายของรัฐบาลไปหาเสียง เช่นการลดค่าไฟเกี่ยวกับท้องถิ่นอย่างไรนั้น ท้องถิ่นมีหน้าที่ในการทำนุบำรุงสาธารณูปโภค ซึ่งค่าไฟก็ถือเป็นสาธารณูปโภค แต่อย่างที่บอกว่ายังไม่สามารถฟันธงได้ เพราะเราทำงานในรูปแบบของคณะกรรมการ การกระทำที่เข้าข่าย เป็นการหาเสียงหลอกลวงยังไม่สามารถตอบได้ ต้องเอาข้อเท็จจริงที่พูดกันแต่ละอันมาดู

เมื่อถามว่ากำลังจะเข้าสู่ช่วงเข้มข้นของการหาเสียงเลือกตั้ง อบจ.จะต้องมีการเตือนให้หาเสียงอยู่ในขอบเขตหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า เคยพูดไปแล้วว่าอะไรที่ทำได้ หรือทำไม่ได้จะมีเส้นของมันอยู่เสมอ ต้องดูข้อเท็จจริงมาประกอบ และถ้าเป็นไปได้การหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นควรจะเป็นไปตามนโยบายของผู้สมัคร หากเกินขอบเขตไปแล้วมีผู้มาร้องเรียนก็ต้องนำเรื่องทั้งหมดมาดู คงไม่ต้องถึงขนาดออกหนังสือเตือน เพราะผู้สมัครทราบกันดีอยู่แล้ว จะถือว่าตนเองไม่ทราบคงไม่ได้ว่า ตนเองมีหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย พรรคการเมืองก็ต้องดูแลสมาชิกให้เป็นไปตามกฎหมายเช่นกัน ถ้าทุกคนตระหนักในหน้าที่ก็จะไม่เกิดปัญหาอะไร แต่หากเกิดประเด็นก้ำกึ่งก็จะกลายเป็นปัญหาขึ้นมา และเข้าสู่การพิจารณาของ กกต. อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่พบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการช่วยหาเสียงของนายทักษิณ

นายอิทธิพร ระบุว่าการเลือกตั้ง อบจ.จะต้องดูทุกจังหวัดดูแลอย่างเข้มข้นอยู่แล้ว และตระหนักในสถานการณ์ของตัวเองดีอยู่แล้ว อาจจะมีบางจังหวัดที่ต้องเพิ่มกำลังเป็นพิเศษเพื่อให้การแข่งขันเป็นไปตามกฎกติกา เช่น ปราจีนบุรี ทีมสืบสวนและไต่สวนของ กกต.จะลงพื้นที่ในช่วงสองสัปดาห์ก่อนวันเลือกตั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าการแข่งขันจะเป็นไปตามกติกา ส่วนจังหวัดอื่นจะพูดคุยกับผู้บังคับการตำรวจภูธร โดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันก่อนวันเลือกตั้ง จะขอให้ช่วยผนึกกำลังเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

Related Posts

Send this to a friend