ส.ก. แนะฝ่ายบริหาร กทม.จัดงบฯ ปี66 ให้สอดคล้องกับปัญหา ลดภาระผู้ว่าฯ
ส.ก. แนะฝ่ายบริหาร กทม.จัดงบฯ ปี66 ให้สอดคล้องกับปัญหา ลดภาระผู้ว่าฯ หลังพบงบบรรเทาสาธารณภัยมีน้อย อาจดูแล ปชช.-จนท.ไม่ทั่วถึง
วันนี้ (22 ก.ค.65) นางสาวนฤนันมนต์ ห่วงทรัพย์ โฆษกสภากรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายจิรเสกข์ วัฒนมงคล ส.ก.เขตธนบุรี นายประพฤทธ์ หายกิจจะกุล ส.ก.เขตห้วยขวาง นายอนุรักษ์ เลิศวัฒนาไพบูลย์ ส.ก.เขตวังทองหลาง และ นายตกานต์ สุนนทวุฒิ ส.ก.เขตหลักสี่ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 สภากรุงเทพมหานคร
นายจิรเสกข์ กล่าวว่า ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณางบประมาณสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) จากการประชุมและลงพื้นที่ติดตามข้อเท็จจริงร่วมกับ สปภ.พบว่า ภายหลังกรุงเทพมหานครได้รับถ่ายโอนภารกิจด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาแล้วกว่า 20 ปี แต่ยังไม่ได้รับการพัฒนาเครื่องมืออุปกรณ์เท่าที่ควร ปีนี้ก็ได้รับงบประมาณในจำนวนที่ไม่มาก ไม่เพียงพอต่อการดูแลประชาชนทั้ง 50 เขต ตลอดจนคุณภาพชีวิตของเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย กทม.ยังไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร ฝ่ายบริหารจึงควรให้ความสำคัญกับการจัดสรรงบประมาณของ สปภ.ให้มากกว่านี้
“จากเหตุเพลิงไหม้ที่ผ่านมา จะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ของ กทม.มีปัญหาทั้งเรื่องเครื่องแบบ อุปกรณ์และยังไม่ได้รับการฝึกอบรมให้มีความรู้ความเข้าใจอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายบริหารจึงควรพิจารณางบประมาณสนับสนุนให้ถี่ถ้วนมากขึ้นเพื่อให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าอยู่อย่างปลอดภัย”
นายอนุรักษ์ กล่าวว่า ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณางบประมาณสำนักงานเขตวังทองหลาง งบประมาณของเขตส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายประจำปี งบสำหรับแก้ปัญหาในชุมชนมีน้อยมาก ดังนั้นการพิจารณางบประมาณของฝ่ายบริหาร จึงควรพิจารณางบประมาณให้สอดคล้องกับปัญหาของแต่ละพื้นที่
นายประพฤทธ์ มองว่า งบประมาณของเขตห้วยขวาง 354 ล้านบาท เป็นงบลงทุนน้อยมาก หากเทียบกับงบประเภทอื่น ๆ ในขณะที่เขตห้วยขวางมีปัญหาหลากหลาย จึงควรมีการตั้งงบประมาณสำหรับการแก้ไขปัญหาด้านกายภาพของพื้นที่ด้วย
นายตกานต์ กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณของสำนักงานเขต แต่ละเขตมีงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท แต่ 30% เป็นงบประมาณเงินเดือนบุคลากร อีกส่วนเป็นรายการค่าใช้จ่ายปกติ ทำให้เหลืองบประมาณที่จะใช้บรรเทาปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าไม่มาก
โฆษกสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ส.ก.ทำหน้าที่ใกล้ชิดกับพื้นที่เขต ดังนั้นจึงมีความเชี่ยวชาญในการติดตามปัญหาของเขต งบประมาณที่ตั้งเพื่อชดใช้เงินยืมมีจำนวนมากกว่างบลงทุน ทำให้มีอุปสรรคในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประชาชน ซึ่งการดูแลประชาชนยังคงต้องทำต่อเนื่อง 365 วัน ทั้งนี้ขอให้ฝ่ายบริหารพิจารณาความเหมาะสมของการตั้งงบประมาณของทุกหน่วยงาน ทั้งงบประมาณทั่วไปและงบประมาณสำหรับการดูแลสาธารณภัย เพื่อดูแลประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ และแบ่งเบาภาระให้กับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครด้วย
ทั้งนี้คณะกรรมการวิสามัญฯ ได้เริ่มประชุมพิจารณาร่างข้อบัญญัติฯ ของหน่วยงานตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค.เป็นต้นมา โดยจะพิจารณางบประมาณของสำนักงานเขตระหว่างวันที่ 21–27 ก.ค.65 จากนั้นจะพิจารณาร่างข้อบัญญัติฯ ของหน่วยงานระดับสำนัก ระหว่างวันที่ 1–8 ส.ค.65 จากนั้นจะเป็นการพิจารณารายการแปรญัตติ และคณะกรรมการวิสามัญฯ จะเข้ารายงานผลการพิจารณาต่อสภากรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณาในวาระที่สองและวาระที่สามในวันที่ 17 ส.ค.65
