‘ศรีนวล’ จ่อแจ้งความ ‘ปิยบุตร’ ใส่ร้ายไม่เลิก เชื่อ “กาลเวลาพิสูจน์คน”

‘ศรีนวล’ จ่อแจ้งความ ‘ปิยบุตร’ ใส่ร้ายไม่เลิก ถามกลับ คิดรื้อส่วนภูมิภาค ใครเนรคุณกันแน่ เชื่อ “กาลเวลาพิสูจน์คน” หวัง ‘อนุทิน-ศักดิ์สยาม’ ปลุกชาวเชียงใหม่ เลือกคนทำเพื่อบ้านเมืองสมัยหน้า

วันนี้ (7 ธ.ค. 65) นางสาวศรีนวล บุญลือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงใหม่ เขต 8 พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว The Reporters ที่อาคารรัฐสภา ภายหลัง นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ชี้แจง ร่างรัฐธรรมนูญ (แก้ไขเพิ่มเติม) หรือร่างปลดล็อกท้องถิ่น กล่าวถึงในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา

นางสาวศรีนวล กล่าวว่า นายปิยบุตร เสียดสีและกล่าวร้ายให้เป็นที่อับอายถึงวงศ์ตระกูลและเสียหายเป็นอย่างมาก ภายหลังจากที่นางสาวศรีนวลได้อภิปรายไม่เห็นด้วยต่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว เนื่องจากราชการส่วนภูมิภาค จัดตั้งขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2537

ดังนั้น ทั้งส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่นเป็นเหมือนพี่กับน้อง ทำงานกันมาด้วยดี ไม่เคยมีความแตกแยก จึงไม่อยากให้เกิดร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้เพราะจะเกิดผลกระทบต่อราชการส่วนภูมิภาค

“ถ้าอยากจะช่วยท้องถิ่นให้ใหญ่โตขึ้นมา อยากให้ผลักดันงบประมาณไปช่วยเหลือมากกว่า แต่เมื่ออ่านและทบทวนมาตรา 4-7 ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็กระทบผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ปลัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จึงไม่เห็นด้วย” นางสาวศรีนวล ยืนยันจุดยืนว่าไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้

สำหรับกรณีเลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวหานางสาวศรีนวลว่า เป็นคนอกตัญญู ไม่รู้บุญคุณคนนั้น นางสาวศรีนวล ตอบโต้ว่า เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 62 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีการพิจารณาลงมติร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562 นายปิยบุตรกลับลงคะแนนเสียงไม่เห็นด้วย แต่นางสาวศรีนวลมองว่า หากไปทำตามนายปิยบุตร เท่ากับเป็นคนเนรคุณประเทศชาติบ้านเมืองและแผ่นดินที่เราเกิด เพราะเราเป็นคนจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงงดออกเสียงไป

“มาได้ 3 ปีกว่า นายปิยบุตรเนี่ย มีอคติต่อ ส.ส. (ศรีนวล) มาตลอด ถ้ามีโอกาสก็จะเสียดสี ใส่ร้ายป้ายสี กล่าวหา เพื่อทำให้ ส.ส. อับอายขายหน้า ส.ส. ก็จะไปแจ้งความดำเนินคดี ในข้อหาหมิ่นประมาท”

นางสาวศรีนวล กล่าวว่า เราทำงานอะไรตรงไปตรงมา สิ่งไหนทำแล้วเกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็ยินดีทำเป็นอย่างยิ่ง สิ่งไหนที่ให้ทำแล้วเสียหาย เราก็ไม่ทำ จนเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 62 ก็ถูกขับออกจากพรรค จนต้องหาพรรคใหม่คือพรรคภูมิใจไทย จากคะแนนเสียงที่ประชาชนไว้วางใจกว่า 75,000 คะแนน ก็ตั้งใจทำงาน บำบัดทุกข์ บำรุงสุข มาโดยตลอด

“ฝากประชาชนที่อยู่ทางบ้าน พิจารณาด้วยว่า ใครเป็นผู้อกตัญญู ใครเป็นผู้ไม่สำนึกบุญคุณ ใครเป็นผู้เนรคุณ … หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน หิ่งห้อยมันมีแสงในสีอยู่แล้ว แต่เมื่อมีไฟส่องทางมา ถึงระหว่างทาง ไฟหลอดนั้นมันดับ หิ่งห้อยยังมีแสงสีในตัวของมัน เพื่อจะทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองต่อไปได้”

ผู้สื่อข่าวยังถามถึงอนาคตทางการเมืองว่า จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เชียงใหม่ เขต 8 อีก หรือจะขึ้นเป็นหนึ่งในบัญชีรายชื่อของพรรคภูมิใจไทย นางสาวศรีนวล ตอบว่า ไม่ขึ้น จะต้องได้พิสูจน์ตัวเอง หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ขอให้ประชาชนได้ตัดสินว่า ถ้านางสาวศรีนวลทำงานให้บ้านเมืองนี้ ขอให้เทคะแนนอย่างท่วมท้น แต่ถ้านางสาวศรีนวลเป็นคนเนรคุณ ก็ไม่ต้องลงคะแนนให้แล้ว แต่จะยอมรับการตัดสินใจของประชาชน

“มันอยู่ที่ตัวเรา ถึงแม้หัวหน้า (นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย) และเลขาฯ (นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย) จะสนับสนุนอย่างไร ถ้าตัวเราประพฤติไม่ดี ชาวบ้านก็ไม่เลือก แต่ถ้าเราทำตัวดี ท่านหัวหน้า ท่านเลขาฯ สนับสนุนก็เป็นแรงดลใจให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในตัวเราอีก” ส.ส. เชียงใหม่ เขต 8 พรรคภูมิใจไทย กล่าวทิ้งท้าย