‘ธนาธร’ เสียดายรัฐสภาคว่ำ ‘ปลดล็อกท้องถิ่น’ ‘พิธา’ รับ ‘ก้าวไกล’ ดันต่อเป็นนโยบาย

‘ธนาธร’ เสียดายรัฐสภาคว่ำ ‘ปลดล็อกท้องถิ่น’ ย้ำ ไม่สุดโต่ง แต่จะให้ประเทศช้าไปถึงไหน หวัง ‘ก้าวไกล’ สืบทอดต่อ ‘พิธา’ รับดันเป็นนโยบาย นำไปปราศรัยทุกเขต
วันนี้ (7 ธ.ค. 65) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังจากที่รัฐสภาลงมติไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 14
นายธนาธร ระบุว่า หลังรัฐสภาลงมติไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 14 นี้ เสียดายแทนประชาชนที่ร่วมลงชื่อกว่า 80,000 รายชื่อ การเริ่มต้นในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ซึ่งไม่ง่ายที่จะเปลี่ยนโครงสร้างขนาดใหญ่ ต้องขับเคลื่อนกันต่อไป โดยเร็ว ๆ นี้ คงมีการเลือกตั้ง และมั่นใจว่าประเด็นเกี่ยวกับการกระจายอำนาจ ปกครองท้องถิ่นจะถูกนำมาชูหาเสียง ซึ่งผลจากการลงมติในวันนี้กับสิ่งที่นำเสนอในอนาคตของพรรคการเมืองจะขัดแย้งกันหรือไม่ อย่างไร ฝากพี่น้องประชาชนติดตามด้วย
“ส่วนใครที่ว่าแนวคิดของเราสุดโต่งเกินไป เร็วเกินไป แล้วไม่กลัวว่า ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงประเทศตอนนี้ เราจะช้าไปถึงไหน ประชาชนต้องเดือดร้อนไปถึงเมื่อไหร่ ความกลัวนี้กักขังอนาคตคนรุ่นต่อไป สิ่งที่เป็นอยู่ปัจจุบันต่างหากที่สุดโต่งเกินไปหรือเปล่า เราไม่ได้สุดโต่งเกินไป คนที่กักขังประเทศไว้ต่างหากที่สุดโต่ง ย้ำว่าร่างฉบับนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้าน มีแต่จะทำประชามติร่วมกันในอีก 5 ปีข้างหน้าหลังประกาศใช้ร่างฯ ซึ่งก็ขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน”
นายธนาธร กล่าวว่า ความตั้งใจของเราไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่ต้องการให้การทำงานของภาครัฐมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หลายข้อสงสัย หรือข้อกล่าวหาไม่ได้อยู่บนความจริง อยู่ในความเชื่อที่ผิด ๆ หรือการอคติ ซึ่งก็เสียดายที่ถูกปัดตกไป แต่ถ้าดูแต่เสียงจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรเพียงอย่างเดียว มีคะแนนเสียงรับหลักการมากกว่าไม่รับหลักการ ที่ไม่ผ่านเพราะไม่สามารถหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภาได้ 1 ใน 3 ตามที่กำหนด เสียดายโอกาสของประเทศเป็นอย่างยิ่งที่เราเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศ จริง ๆ ถ้าไม่เห็นด้วยสามารถแก้ไขในรายละเอียด จากคณะกรรมาธิการได้
“ขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ถึงแม้วันนี้จะยังทำไม่สำเร็จ แต่ทางคณะก้าวหน้าก็พร้อมสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในเรื่องการกระจายอำนาจต่อไป ทำการพิสูจน์ให้เห็นว่าท้องถิ่นมีประสิทธิภาพ และเชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะสานต่อภารกิจนี้ ซึ่งเป็นภารกิจที่เราไม่ใช่คนเริ่มต้นขึ้น แต่มีนักวิชาหลายท่านเป็นผู้เริ่มต้น เราเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น”
นายพิธา ระบุว่า การกระจายอำนาจที่แท้จริง กระจายอำนาจจากส่วนกลาง กระจายรายได้ เป็นหนทางเดียวของประเทศไทย และจะเป็นนโยบายเดียวที่พรรคก้าวไกลใช้ปราศรัยทุกเขต ซึ่งนโยบายการปลดล็อกท้องถิ่นได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ถ้าหากไม่มีการแก้ไขกฎหมายในอนาคต ไม่มีพรรคที่เอาด้วย ประเทศไทยก็จะกระจุกตัวต่อไป ถ้าถูกล็อคดาวน์ก็จะไม่สามารถทำอะไรได้ และยืนยันว่าคนที่มีโอกาสใกล้ชิดกับปัญหาควรได้งบในการแก้ไขปัญหา และพรรคก้าวไกลจะผลักดันเป็นนโยบายต่อในการเลือกตั้งครั้งหน้าต่อไป
