‘เพื่อไทย’ – ‘ก้าวไกล’ จับมือแถลงสยบดราม่า ให้สิทธิพรรคร่วมโหวต
ใช้วงคุยวิปเคาะยื่นญัตตินับองค์ประชุม ยันฝ่ายค้านทำงานเข้มข้น-ราบรื่น เตรียมซักฟอกรัฐบาล 17-18 ก.พ.
วันนี้ (7 ก.พ. 65) เวลา 13.30 น. ณ อาคารรัฐสภา นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ดร. ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส. พรรคเพื่อไทย นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส. พรรคก้าวไกล และ น.ส. เกศปรียา แก้วแสนเมือง ตัวแทนพรรคเพื่อชาติ แถลงข่าวเกี่ยวกับผลการประชุมตัวแทนพรรคฝ่ายค้านในวันนี้ ซึ่งพิจารณาเกี่ยวกับกรอบเวลาการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 152 เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 17 – 18 ก.พ. 65 โดยมีเวลาการอภิปรายรวมทั้งสิ้น 30 ชั่วโมง เป็นของฝ่ายค้าน 22 ชั่วโมง และรัฐบาล 8 ชั่วโมง
“ที่ประชุมได้พิจารณากรอบในการจัดสรรเวลา เนื้อหาสาระ และลำดับของการอภิปราย โดยแต่ละพรรคมีการเสนอรายชื่อผู้อภิปรายอย่างหลากหลาย เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านได้ให้ความสำคัญกับวาระนี้แม้ว่าจะเป็นการอภิปรายแบบไม่ลงมติ แต่ข้อมูลที่นำเสนอใน 4 กลุ่มหลักนั้นจะเสมือนเป็นการซักฟอกรัฐบาลในสภาวะที่รัฐบาลมีความล้มเหลวและไร้ความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดินอย่างสิ้นเชิงในทุกมิติ” นายแพทย์ชลน่าน กล่าว
นอกจากนี้ นายแพทย์ชลน่าน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยังกล่าวถึงแนวทางการทำงานร่วมกันของพรรคฝ่ายค้าน ภายหลังเป็นกระแสที่สื่อมวลชนให้ความสนใจ โดยระบุว่า ฝ่ายค้านมีเจตจำนงที่ชัดแจ้งร่วมกันว่า ในสถานการณ์การเมืองที่ผิดปกติ รัฐบาลไร้เสถียรภาพ มีการแบ่งฝ่ายในพรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลไม่เคยเข้าร่วมประชุมเกินกึ่งหนึ่งมาตลอด ทำให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งเป็นการทำหน้าที่ที่ขัดต่อหลักประชาธิปไตยพื้นฐานที่ว่ารัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยต้องปกครองด้วยเสียงข้างมาก
“พรรคฝ่ายค้านจึงจะทำหน้าที่อย่างเข้มข้นในการตรวจสอบองค์ประชุมในทุกสัปดาห์ และหากจะนับองค์ประชุมก็จะเสนอเป็นญัตติโดยไม่ใช้วิธีการเสียบบัตร เพื่อต้องการให้ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลมาทำหน้าที่ในสภา โดยพรรคฝ่ายค้านจะทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน” นายแพทย์ชลน่าน กล่าว
ด้าน นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ฝ่ายค้านทุกพรรคร่วมมือกันด้วยดีแน่นอน บรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างชื่นมื่น ได้ข้อสรุปที่เป็นรูปธรรมอย่างที่ผู้นำฝ่ายค้านได้ชี้แจง
“เราจะใช้ที่ประชุมวิปซึ่งเป็นตัวแทนจากทุกพรรค มาเจรจากันว่าจะเช็คองค์ประชุมกันในจังหวะเวลาใดตามที่มติวิปพรรคร่วมฝ่ายค้านกำหนด ส่วนการโหวต จะขึ้นอยู่กับมติของแต่ละพรรคว่าจะโหวตอย่างไร แต่ก็จะคุยถึงมติพรรคว่าจะโหวตอย่างไรกันก่อนในวิป และก่อนจะโหวตก็แสดงตนทุกครั้งเพื่อยืนยันการทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร นี่ก็น่าจะเคลียร์ความชัดเจนและทำให้การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านเป็นไปอย่างราบรื่น” นายสุรเชษฐ์ กล่าว
