POLITICS

‘ภูมิธรรม’ ย้ำ ดีลตั้งรัฐบาล ‘เพื่อไทย’ ไม่มีต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี จนกว่าได้นายกฯ

‘ภูมิธรรม’ ย้ำ ดีลตั้งรัฐบาล ‘เพื่อไทย’ ไม่มีต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี จนกว่าได้นายกฯ ชี้ไว้คุยกันหลังโหวต ‘เศรษฐา’ เสร็จ ขอเอาผลประโยชน์ประเทศ และประชาชนเป็นตัวตั้ง เชื่อ บุคลากรของพรรคมีประสบการณ์ สามารถช่วยประเทศฝ่าวิกฤตได้

วันนี้ (4 ส.ค. 66) ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน กล่าวถึงกรณีที่มีข้อสังเกตว่านายเศรษฐา ทวีสิน และแพทองธาร ชินวัตร 2 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ไม่ปรากฏตัว หรือให้สัมภาษณ์ โดยระบุว่า ทั้ง 2 คนยังคงมาทำงานที่พรรคเพื่อไทยตามปกติ

สำหรับกรณีจุดยืนของนายเศรษฐา เรื่องแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 และการถูกนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาแฉเรื่องที่ดินนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องปกติของคนที่จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะได้สบายใจกันทุกฝ่าย พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีอะไรปิดบังอำพราง และเราได้ตรวจสอบคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรีก่อนเสนอชื่ออยู่แล้ว

ส่วนกรณีเรื่องการดีลตำแหน่งรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลที่ถูกกดดันอย่างหนักนั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า เป็นข่าวลือ และข่าวทิพย์ เพราะที่ผ่านมาเรายังไม่ได้พูดคุยเรื่องตำแหน่งใดๆ เรามีเพียงแต่การพูดคุยว่า ในเมื่อพรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยมีนายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี ว่าทุกฝ่ายมีความเห็นอย่างไร และถ้ายอมรับในตัวนายเศรษฐา และพรรคเพื่อไทยให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็ให้มาช่วยสนับสนุนนายเศรษฐา วันนี้เรากำลังเลือกนายกรัฐมนตรีในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ และเป็นวิกฤตมาพอสมควร ยิ่งปล่อยให้ช้า ประเทศจะวิกฤตมากขึ้น

โดยเมื่อวานนี้ มีข่าวเรื่องการเลื่อนโหวตนายกฯ ตลาดหุ้นก็แดงทั้งกระดาน แสดงให้เห็นว่าคนต้องการความมั่นใจ และรัฐบาลใหม่โดยเร็ว ที่จะสามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งในข้อเท็จจริงเหตุผลของการเลื่อนประชุมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก เพราะเราได้ประสานงานกับทุกฝ่ายอย่างชัดเจน เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้ตัดสิน เราก็ยังไม่อยากทำอะไรที่ให้รู้สึกว่าเราไม่สนใจคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ และเรามีเวลาเพิ่มมาอีกกว่า 10 วัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี

“เราอยู่ในช่วงเวลาประเทศที่เป็นวิกฤต ทั้งกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ ปัญหาโครงสร้างภายในประเทศ ดังนั้นมีความขัดแย้งที่เป็นพื้นฐานที่ยังดำรงอยู่ การที่จะได้นายกรัฐมนตรีที่ทุกฝ่ายสบายใจจนสามารถเลือกมาได้ ก็จะเป็นกระบวนการสร้าวความเชื่อมั่นได้ดีที่สุด เมื่อเช้าผมคุยกับโทรศัพท์กับคุณอนุทิน ก็ยังไม่มีปัญหาอะไร” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า มีการพูดคุยถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกับพรรคที่จะเข้ามาร่วมจัดสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลแล้วหรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า เป็นเรื่องที่จะคุยในขั้นตอนสุดท้าย เราจะไม่คิดบนพื้นฐานแบบเดิมๆ คือเมื่อคุยกันเสร็จแล้วแบ่งตำแหน่งรัฐมนตรี และค่อยไปว่ากัน แต่ขณะนี้เรื่องแรกที่เราคุย คือการถามกันว่าเห็นชอบหรือไม่ ที่จะโหวตนายเศรษฐาเป็นนายกฯ ซึ่งหลังจากใครเห็นชอบหลังการโหวตแล้วก็มาคุยกัน แต่ถ้าไม่เห็นชอบก็ทำงานร่วมกันยาก และตอนนี้เรายังไม่สามารถตกลงแบ่งกระทรวงกันได้ เพราะยังไม่รู้ยอดจำนวนทั้งหมดที่จะตั้งรัฐบาลว่ามีเท่าไหร่ ถ้าได้ 280 เสียง ก็อีกแบบนึง แต่ถ้าได้ 300 เสียงก็จะเป็นอีกแบบ ถ้ามีพรรคร่วมรัฐบาล 8 – 12 พรรคก็จะเป็นอีกแบบ

อีกทั้ง เราจะแบ่งกระทรวงตามความถนัดของการทำงาน ซึ่งการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ สิ่งสำคัญที่สุด คือ นโยบายพรรคเพื่อไทยต้องเป็นหลัก และค่อยนำมาปรับให้เข้ากับนโยบายส่วนอื่นๆ แต่ถ้าหากนโยบายของใครไม่สอดคล้องกับพรรคเพื่อไทย จะยิ่งทำให้การทำงานร่วมกันยากยิ่งขึ้น รอให้ได้ตัวนายกฯ ก่อนเรื่องถึงจะตอบได้ และการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้ง่าย ซึ่งเราเป็นแกนนำจะต้องหนักแน่น มีความเป็นผู้นำ มิเช่นนั้นเราจะไม่สามารถนำพาประเทศ และความแตกต่างของพรรคการเมืองต่างๆ ช่วยกันพาพ้นวิกฤตของประเทศไปได้ ถึงที่สุดเราตัดสินใจบนความเป็นจริงของการเมืองไทย และความต้องการของประชาชน และพรรคการเมืองอื่นก็มาจากการเลือกตั้ง เราควรที่จะเคารพเหมือนกัน

เมื่อถามว่าการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยที่ไม่มีก้าวไกล และพรรค 2 ลุง จะยากขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า เราเอาปัญหาประเทศชาติเป็นตัวตั้ง และใครยินดีที่จะให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งเป็นรัฐบาล ก็มาสนับสนุนพรรคยกมือโหวตสนับสนุน และวันนี้รายืนยันอีกครั้งว่า เราจะทำการเมืองในรูปแบบใหม่ เอาปัญหา และผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่เอาปัญหา และผลประโยชน์ของพรรคการเมืองเป็นตัวตั้ง ซึ่งอะไรที่จะกำหนดร่วมกัน ก็ต้องมองเห็นความสำคัญของปัญหาของประชาชน และเราย้ำอีกว่า นโยบายที่เราหาเสียงไปแล้ว เราจะทำให้สำเร็จในอายุรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ต้องเชื่อมั่นว่า ประเทศนี้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ประชาชน และนักการเมืองก็เปลี่ยนไปแล้วเช่นกัน ใครจะเปลี่ยนแปลงมากหรือน้อยกว่ากัน ก็เป็นอีกเรื่อง ทุกคนรู้ว่าปัญหาของประเทศ 8-9 ปีที่ผ่านมา รวมถึงวิกฤตการณ์นอกประเทศมากมาย เป็นปัญหาที่ไม่สามารถจะนำเรื่องส่วนตัวมากำหนดได้ง่ายนัก เราต้องกำหนดปัญหาของประเทศเป็นหลัก ถ้าประเทศรอด ประชาชนรอด ทุกคนก็จะรอดหมด ซึ่งนักการเมืองทุกคนรู้อยู่แก่ใจ เราต้องมาหาทางออกร่วมกัน วันนี้ไม่ใช่เรื่องว่าเราจะร่วมรัฐบาลอย่างไร แต่เป็นเรื่องที่ยินดีที่จะให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ หรือ ให้แคนดิเดตนายกฯ ของเราเป็นนายกฯ หรือไม่ ถ้าเห็นชอบก็โหวต หรือ โหวตแล้วไม่ร่วมรัฐบาลเป็นฝ่ายค้านก็ได้ วันนี้ขอเอาวาระประเทศ และประชาชนเป็นตัวตั้ง

“เรามั่นใจในบุคลากรของพรรคเพื่อไทย รวมถึงประสบการณ์การทำงาน เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศที่วิกฤตอยู่ในขณะนี้ ที่มีความขัดแย้งสะสมมากว่า 20 ปี เราเชื่อว่าจุดยืนของพรรคเพื่อไทย ที่ยืนอยู่บนความเป็นจริง ใช้วิธีการปัญหาแบบละมุนละม่อม แสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่าย จะช่วยให้เราฝ่าวิกฤตนี้ไปได้ และทุกอย่างจะดีขึ้นเรื่อยๆ “ นายภูมิธรรม กล่าว

Related Posts

Send this to a friend