POLITICS

‘อนุทิน’ ลุยหาเสียงนครนายก ประกาศคว้า ส.ส.ยกจังหวัด

‘อนุทิน’ ลุยหาเสียงนครนายก ประกาศคว้า ส.ส.ยกจังหวัด ขอประชาชนวางใจ นโยบายที่พูดไว้ ทำได้จริง

วันนี้ (4 มี.ค. 66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมผู้บริหารพรรค เดินทางไปที่ วัดประสิทธิเวช อ.องครักษ์ จ.นครนายก ช่วยนายวุฒิชัย กิตติธเนศวร หาเสียงสู้ศึกเลือกตั้ง บรรยากาศการหาเสียงเป็นไปอย่างคึกคัก

นายอนุทิน กล่าวกับผู้มาฟังการปราศรัยว่า ขอให้เชื่อมั่นว่าพรรคภูมิใจไทยเราคือพรรคปฏิบัติการ เราพูด แล้วทำ สิ่งที่บางคนว่ายากนัก ยากหนา เราทำมาหมดแล้ว ที่ภาคใต้ สะพาน ถนน ทางเชื่อมเกาะเชื่อมแผ่นดิน หลายที่ ก็เดินหน้าในยุคนี้ ตอนโควิด-19 ระบาด มีแต่คนปรามาสตน แต่ประเทศไทย ก็ฝ่าฟันมาได้ โดยที่ระบบสาธารณสุขของไทย ยังได้รับคำชื่นชมระดับนานาชาติ การท่องเที่ยว ตอนนี้ ไทยคือจุดหมายปลายทางของคนทั่วโลก ประชาชนเชื่อมั่นได้เลย ว่าเราพูดจริง ทำจริง พูดจริง ทำเป็น

จากนั้น นายอนุทิน ได้นำเสนอนโยบายของพรรค สำหรับการเลือกตั้งปี 2566 ประกอบไปด้วย การให้สิทธิพักหนี้คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นการพักหนี้แบบ หยุดต้น ปลอดดอก เป็นเวลา 3 ปี เฉพาะหนี้ถูกกฎหมาย ทั้ง หนี้ธนาคาร หนี้สหกรณ์ หนี้บัตรเครดิต หนี้ผ่อนรถยนต์ หนี้ผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ หนี้กองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ ยกเว้นหนี้นอกระบบ ใช้สิทธิไม่ได้

“ไม่ใช่แค่หนี้ในระบบ แต่หนี้นอกระบบ เราก็จะดูแลด้วย โดยคนที่จะเข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ ชื่อ ชาดา ไทยเศรษฐ์”

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า พรรคภูมิใจไทย เรามีนโยบายไฟฟ้าประชาชน คนไทยทุกครัวเรือน มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ การไฟฟ้าประชาชนสนับสนุนให้ทุกครัวเรือนใช้พื้นที่บ้านของตัวเอง หรือพื้นที่ส่วนกลางในชุมชน ติดตั้งโซล่าเซลล์ ผลิตกระแสไฟฟ้าขายให้กับรัฐบาล ลดค่าไฟฟ้าได้ไม่น้อยกว่า 450 บาทต่อเดือน และสิทธิซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าบ้านละ 1คัน ในราคา 6,000 บาท ด้วยระบบผ่อนชำระ เดือนละ 100 บาท เป็นเวลา 60 เดือน

นโยบายฟอกไตฟรี ตั้งศูนย์ไตเทียมทุกอำเภอ การจัดหาเครื่องฉายรังสี รักษามะเร็ง ติดตั้งไว้ในทุกจังหวัด ให้สอดคล้องกับนโยบาย มะเร็งรักษาทุกที่เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน พัฒนา อสม. เป็น สมาร์ท อสม. เพิ่มค่าตอบแทนให้ อสม. เป็นเดือนละ 2,000 บาท ให้ อสม.เป็นฐานรากที่เข้มแข็งของระบบสาธารณสุขไทย สร้างสุขภาพที่แข็งแรงให้คนไทย ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วย นำเงินที่ลดได้มาพัฒนาการทำงานของ อสม.

และนโยบายล่าสุดของเรา นโยบายผู้สูงอายุ ให้สิทธิ เป็นสมาชิกกองทุนประกันชีวิต และมีกรมธรรม์ประกันชีวิต ทันที โดยไม่ต้องสมัคร และไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต ผู้สููงอายุ 60 ปีขึ้นไป ให้สิทธิกู้เงินดูแลตัวเอง และ ประกอบอาชีพ หาเลี้ยงตัวเองได้ ในวงเงิน 20,000 บาท โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน แต่จะใช้กรมธรรม์ประกันชีวิต ที่รัฐบาล จัดทำให้ ค้ำประกันตัวเอง ในวันที่เสียชีวิต ทุกคนจะมีมรดกให้ลูกหลาน ทายาท และครอบครัว รายละ 100,000 บาท

Related Posts

Send this to a friend