POLITICS

‘พิธา’ ยินดีร่วมงาน ‘เศรษฐา’ ย้ำชัดไม่มีวันอยู่ ครม.เดียวกับ ประยุทธ์-ประวิตร

‘พิธา’ ยินดีร่วมงาน ‘เศรษฐา’ มองฝ่ายค้านเป็นส่วนผสมที่กลมกล่อม ไม่หวั่นฐานเสียงทับกัน ย้ำชัดไม่มีวันอยู่ ครม.เดียวกับ พลเอกประยุทธ์-พลเอกประวิตร

วันนี้ (4 มี.ค.66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายปิยุบตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นายวีรนันท์ ฮวดศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จังหวัดขอนแก่น ขึ้นขบวนรถแห่ซาเล้งหาเสียงมุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์พระนครศรีบริรักษ์

นายพิธา กล่าวว่าการเลือกตั้งที่จะถึงนี้อยากให้พรรคก้าวไกลได้เก้าอี้ ส.ส.เขต มากกว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อหวังว่าจะได้ทุกเขต และทุกภูมิภาคจากคราวที่แล้วไม่ได้ที่ภาคใต้ หวังได้คะแนนความนิยมมากกว่าเมื่อครั้งพรรคอนาคตใหม่ สำหรับสิ่งที่ควบคุมได้ก็วางแผนไว้ทุกโค้งจนถึงวันเลือกตั้ง เช่นการลงพื้นที่ หรือการเปิดตัวบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่ยังมีข้อกังวล เช่นการแบ่งเขตที่ไม่ชัดเจนของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) การไม่รายงานผลเลือกตั้งแบบเรียลไทม์ การใช้เวลาราชการมาหาเสียง การโยกย้ายข้าราชการเพื่อประโยชน์ของพรรคตนเอง

จากกรณีล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า คำว่า “ราษฎร” ไม่นับรวมผู้ไม่ถือสัญชาติไทย ประเด็นคือบรรทัดฐานของการแบ่งเขตที่ไม่สม่ำเสมอ ส่งผลกระทบต่อการทำงานของ ส.สในพื้นที่ อาจนำไปสู่การที่ประชาชนละเลยไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เนื่องด้วยความสับสน ระบบจึงต้องมีความชัดเจน

“เราคาดไว้แล้วว่า จะมีการแบ่งเขตให้ผู้มีอำนาจได้ประโยชน์ เช่น ขอนแก่นที่ยังมีความไม่ชัดเจนเรื่องการแบ่งเขต จึงใช้วิธีให้ผู้สมัครเดินกันเป็นทีม โดยเฉพาะในพื้นที่สีเทา เดินพร้อมกัน 3 คน เมื่อถึงเวลาแบ่งเขตชัดเจนค่อยแบ่งต่อ เพื่อจะได้ไม่เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ จะได้ทำงานให้ชาวบ้านเห็น และออกไป 3 คนมีพลังมากกว่าออกไป 1 คน”

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย ทยอยเปิดตัวทีมเศรษฐกิจ รวมถึงนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมที่จะทั้งแข่งขันและร่วมมือกับพรรคเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ต้องมีการแข่งขันกันด้วยนโยบาย ว่าจะแก้ปัญหาในแต่ละด้านอย่างไร หากผลการเลือกตั้งออกมา หากมีโอกาสได้ร่วมมือกันก็ยินดี

ผู้สื่อข่าวถามถึงปัญหาเรื่องเสียงที่ทับซ้อนกับพรรคเพื่อไทย นายพิธา มองว่า ระบบรัฐสภาในฝ่ายประชาธิปไตย เป็นไปได้ว่าจะต้องมีพื้นที่ทับซ้อนกัน แต่ตนเองมองว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบันเป็นส่วนผสมที่กลมกล่อม แต่ละคนมีจุดเด่นคนละด้าน เชื่อว่าหากรวมกันเป็น ครม.แล้วจะเป็นส่วนผสมที่ดี เช่นพรรคก้าวไกลที่มีความเข้าใจเรื่องของเศรษฐกิจใหม่ และความทันสมัย

นายปิยบุตร มองว่า สนามเลือกตั้งทุกพรรคการเมืองล้วนเริ่มต้นจากศูนย์ ส่วนเสียงที่ทับซ้อนกัน ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน จากที่ติดตามผลโพล 2 ปีล่าสุดเห็นได้ว่าคะแนนความนิยมของทุกพรรคร่วมฝ่ายค้านรวมกันเกิน 60% ถ้าตีเป็นที่นั่งคือ 300 ที่นั่งในสภาฯ เห็นได้ว่าไม่มีทางเลือกใดดีกว่าการจับมือ ปิดสวิตช์ ส.ว. และ 3 ป.

นายพิธา ยืนยันถึงจุดยืนทางการเมือง ระบุว่าพรรคทหารจำแลงคือพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ ไม่มีพรรคก้าวไกลอยู่ในนั้น และไม่มีวันที่จะอยู่ใน ครม. เดียวกันกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประธานยุทธศาสตร์ของพรรครวมไทยสร้างชาติ

Related Posts

Send this to a friend