POLITICS

‘เพื่อไทย’ ชู ‘แพทองธาร’ เป็นนารีขี่ม้าขาว ปักธงแลนด์สไลด์ที่ ปักธงชัย

‘เพื่อไทย’ ประเดิมเวทีปักธงแลนด์สไลด์ที่ปักธงชัย ชู ‘แพทองธาร’ เป็นนารีขี่ม้าขาวกลางเมืองหญิงกล้า ซัด ‘ประยุทธ์’ อยู่บ้านหลวง แต่แอบอ้างอยู่โคราช ‘อุ๊งอิ๊ง’ โอดเสียดายโอกาสหลังรัฐประหาร ลั่น ทนไม่ได้ ขอเข้ามาฟื้นฟูให้อยู่ดีกินดี

วันนี้ (4 มี.ค. 66) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นำพรรคเพื่อไทย หาเสียงในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 3 จังหวัด คือ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ และครั้งนี้ นายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชาย ร่วมลงพื้นที่ให้กำลังและดูแลน้องสาวท้องแก่เข้าสู่เดือนที่ 8 แล้ว

โดยเริ่มเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่เทศบาลเมืองปักธงชัย อ.ปักธงชัย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ต้องการปักธงแลนด์สไลด์เพื่อไทยเท่านั้น จึงเริ่มที่ อ.ปักธงชัย แล้วปักธงให้มั่นคงที่ อ.คง จากนั้นปักธงยกทั้งจังหวัดที่อำเภอเมืองย่าโม และจากการสำรวจของทุกสำนักโพลพบว่าพรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่ผลสำรวจของหน่วยงานราชการเมื่อเดือนที่ผ่านมาก็พบว่าพรรคเพื่อไทยจะสามารถคว้าคะแนนได้ 270 ที่นั่ง ทำให้สร้างความมั่นใจให้กับพรรคเพื่อไทยที่จะทำเพื่อประชาชน แต่ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับประชาชนจึงขอสัญญาใจกับพี่น้องชาวโคราชว่า ขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยเเลนส์สไลด์ยกจังหวัด

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวปราศรัยว่า ส่วนตัวเป็นลูกหลานคนโคราชตั้งแต่กำเนิด ไม่เหมือนนักการเมืองบางคนที่ไม่ได้อยู่โคราช แต่แอบอ้างว่าอยู่โคราช และใช้ยังบ้านหลวง ก่อนบอกว่า โคราชเป็นเมืองหญิงกล้า และวันนี้นางสาวแพทองธาร เป็นอีกหนึ่งหญิงกล้า ที่เปรียบเป็นนารีขี่ม้าขาวมาอาสาทำงานกอบกู้วิกฤติประเทศ เพราะที่ผ่านมาคนโคราชเสียโอกาส ทั้งจากโครงการรถไฟความเร็วสูง ที่โดนปฏิวัติ ปล้นอำนาจ ทำให้คนโคราชไม่ได้ใช้ ดังนั้น 8 ปีที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย เช่น ที่บอกว่าจะปฏิรูปประเทศหลายอย่าง โดยเฉพาะปฏิรูปการเมือง แต่กลับทำลายระบอบการเมือง เอา ส.ว. ที่ตัวเองแต่งตั้งมา เลือกตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างหน้าด้าน

นายประเสริฐ ยังกล่าวว่า ขณะเดียวกัน 4 ปี แรก สร้างพรรคพลังประชารัฐ มาสืบทอดอำนาจอยู่ต่ออีก 4 ปี และ 4 ปี หลังจะมีพรรครวมไทยสร้างชาติ มาสืบอำนาจต่อ ดังนั้น ถ้าประชาชนจะให้อยู่อีก 4 ปี ก็จะได้แค่พรรคการเมืองที่สืบทอดอำนาจ วันนี้ ถือฤกษ์ถือชัย จัดเวทีที่อำเภอปักธงชัย เพราะจะมาปักธงกวาด ส.ส. ทั้ง 16 เขต พร้อมย้ำว่า หากเพื่อไทยเข้ามา จะทำให้ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น จะจัดสรรที่ดินทำกินให้ประชาชน ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่ยังเป็นอุปสรรค เพื่อทำให้โคราชเป็นที่ 1 แต่การจะเป็นได้ ต้องแลนด์สไลด์ยกจังหวัด เพื่อรวมพลังกันชนะ 250 ส.ว. ไม่เช่นนั้นจะทำให้คนที่เราไม่อยากให้เป็นนายกรัฐมนตรีกลับมาเป็นอีกครั้ง

นางสาวแพทองธาร ขึ้นปราศรัยโดยเริ่มทักทายว่า “ถึงมาโคราชไม่มีเพลงมาฝาก แต่หลังจากนี้จะไปกราบย่าโมทั้งพรรคเลยค่ะ วันนี้ดีใจที่ได้มาถึงโคราช ได้เจอหน้าพ่อแม่พี่น้องที่แม้จะร้อนก็ยังอยู่ เราท้อง 7 เดือนกว่า ลืมไปแล้วล่ะ เจอพี่น้องมาขนาดนี้ แรงมันมา เห็นหน้าพี่น้องและได้ยินเสียงปรบมือ พรรคเพื่อไทยใจฟูทุกคน”

นางสาวแพทองธาร เท้าความว่า ครอบครัวชินวัตรมีความผูกพันกับโคราชตั้งแต่ 60 ปีก่อน เพราะสมัยก่อนคุณพ่อและคุณอามีร้านทอไหมไทยชินวัตรในอำเภอปักธงชัยตั้งแต่ยุคคุณย่า ถือเป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจครอบครัว ก่อนรับไปขายย่านถนนสุขุมวิทในกรุงเทพมหานคร ดังนั้น เมื่อโทรศัพท์หาคุณพ่อว่าจะไปปักธงชัยเป็นที่แรก คุณพ่อเล่าเรื่องยาวเลย ให้นำผ้าไหมปักธงชัยไปขายด้วย ดังนั้น หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะนำผ้าไหมปักธงชัยไปจำหน่ายไกลระดับโลก ตรงตามนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์

นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวว่า สมัยพรรคไทยรักไทย มีการตั้งศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาชนบทตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแห่งแรก ในจังหวัดนครราชสีมา สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็จะเริ่มโครงการรถไฟความเร็วสูงที่โคราช เพราะโคราชเป็นประตูสู่ความเจริญของภาคอีสาน แต่แล้วรัฐประหารก็เกิดขึ้นจนหยุดประเทศ อยู่ความกินดีอยู่ดีและศักดิ์ศรีของพี่น้อง พรรคเพื่อไทยทนไม่ได้แล้วจึงจะกลับมาทำให้พี่น้องกินดีอยู่ดีอีกครั้ง ยกตัวอย่างนโยบายที่ดินทำกิน จะมีการใช้เทคโนโลยีพิสูจน์สิทธิที่ดิน จัดที่ดินสำหรับผู้ไม่มีที่ดิน แก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากินของประชาชน และนำที่ดินของรัฐที่ไม่ได้ใช้มากระจายให้ประชาชน

“ขอชาวโคราชทั้ง 16 เขตได้ไหมคะ ขอแลนด์สไลด์ที่โคราชยกจังหวัดได้ไหมคะ” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับจังหวัดนครราชสีมาพรรคเพื่อไทยมี ส.ส. ทั้งหมด 4 คน จากทั้งหมด 14 เขต แต่การเลือกตั้งครั้งนี้เพิ่มเขตเลือกตั้งมาเป็น 16 เขต และพรรคเพื่อไทยได้บ้านใหญ่ จากนายกลุ่มนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมที่ย้ายมาจากพรรคภูมิใจไทย มาช่วยเสริมทัพในการเลือกตั้งครั้งนี้ทำให้พรรคเพื่อไทยหมายมั่นปั้นมือจะได้ ส.ส. เพิ่มไม่น้อยกว่า 10 ที่นั่งขึ้นไป โดยมีรายชื่อผู้ซึ่งประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยไม่เรียงตามลำดับเขตเลือกตั้ง ดังนี้

1 ร.ต.อ. สุปชัย อินทรักษา
2 นายวัฒนะชัย สืบศิริบุษย์
3 น.ส.ณัฐจิรา อิ่มวิเศษ
4 นายธวัชชัย ยืนยง
5 นายสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล
6 นายโกศล ปัทมะ
7 นายพงษ์พันธุ์ พันธุ์ศรีนคร
8 นางนารดา อึ้งสวัสดิ์
9 นายธีระยุทธ ตันติกุล
10 นายอภิชา เลิศพชรกมล
11 นายอาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล
12 นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล
13 นายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ
14 นายพชร จันทรรวงทอง
15 นายรชตะ ด่านกุล
16 นายชวาล พัฒนกำชัย
17 น.ส.ปิยะนุช ยินดีสุข
18 นายสุพงษ์พิธ รุ่งเป้า

ในวันนี้ พรรคเพื่อไทยจะตั้งเวทีปราศรัย ณ ลานข้างสถานีรถไฟ อ.คง เวลา 14:00 น. และสนามหน้าศาลากลาง อ.เมืองนครราชสีมา เวลา 17:00 น.

Related Posts

Send this to a friend