‘วิษณุ’ ชี้ ความคิดเห็นประชุม กรธ. ไม่มีน้ำหนัก สุดท้ายขึ้นอยู่กับศาลวินิฉัย

‘วิษณุ’ ไม่ทราบเอกสารมีชัยแจงศาลรัฐธรรมนูญ หลุด ชี้ ความคิดเห็นประชุม กรธ.ครั้งที่ 500 และ 501 ไม่มีน้ำหนัก เพราะเป็นแค่การแสดงความเห็น สุดท้ายขึ้นอยู่กับศาลวินิฉัย

วันนี้ (7 ก.ย. 65) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่เอกสารคำชี้แจงที่อ้างว่าเป็นของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ แต่ทั้งนี้เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญ ก็จะพิจารณาหลักฐานคำชี้แจงทั้งหมด รวมถึงอาจจะยกวาระการประชุมคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 500 และ 501 ขึ้นมาพิจารณาก็ได้ แต่ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่เคยเห็นวาระการประชุมครั้งที่ 500 และ 501 ของคณะกรรมาธิการในครั้งนั้น และ ได้ทราบจากข่าวเท่านั้น และมองว่า เอกสารการประชุม 500 และ 501 ก็ไม่มีน้ำหนัก เนื่องจากเป็นเพียงรายงานการประชุมที่เกิดขึ้น ก่อนที่ทั้งหมดจะถูกสรุปและจัดทำเป็นคู่มือ หลังจากที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว 1 ปี

ดังนั้น การประชุมครั้งที่ 500 และ 501 คือการที่ให้กรธ. มาแสดงความคิดเห็นเท่านั้น แต่ท้ายสุดแล้ว ต้องดูตัวหนังสือที่ออกมา เนื่องจากคือเจตนาหรือเป็นคู่มือในการตีความรัฐธรรมนูญ

“การประชุมนั้น เป็นการนั่งทำหนังสือ เมื่อปี 2561 ดังนั้นจึงเป็นจุดอ่อนข้อที่หนึ่ง ส่วนข้อที่สอง ก็มีเพียง 2-3 คนพูดคุยกัน ส่วนอีก 17 คนที่นั่งอยู่ด้วย ไม่ได้มีการแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ หรือลงมติ และนายมีชัยก็ได้ชี้แจงแล้ว ส่วนจะจริงหรือไม่จริงตนเองไม่ทราบ เพราะที่มีการจดบันทึกก็จดไม่ถูกต้อง ก็ถือเป็นจุดอ่อนอีกจุดหนึ่ง ที่สำคัญคือการพูดคุยวันนั้น เป็นการทำหนังสือและ หนังสือเล่มนั้นตนเองก็มี รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญก็มี ซึ่งเป็นหนังสือคำอธิบายรายมาตรา เมื่อถึงมาตรา 158 เรื่องวาระ 4 ปี ก็มีคำอธิบายและไม่มีคำอธิบายไหน พูดถึงเรื่องการนับวาระตั้งแต่เมื่อไหร่ ดังนั้น เป็นวงประชุมพูดคุย เพื่อนำไปสู่การทำหนังสือ”

นายวิษณุ กล่าวว่า ในส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ส่งคำชี้แจงเพื่อไปหักล้างโดยยืนยันว่า ไม่ได้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 ส่วนจะเป็นวันไหนก็อยู่ที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมได้ชี้แจงเหตุผล ไม่สามารถระบุวันได้ ว่าเป็นวันไหน หรือยึดในรัฐธรรมนูญปี 2560 หรือการเข้ารับตำแหน่งหลังการเลือกตั้งในปี 2562 แต่อย่างใด

พร้อมย้ำว่าไม่มีเหตุจำเป็น ที่จะต้องมีการยืดอายุ ของพล.อ.ประยุทธ์ เพราะจะมีการเลือกตั้งในเดือนมีนาคม 2566 นี้อยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับทิศทางของพล.อ.ประยุทธ์ที่จะอยู่ต่อ แต่ในหลักการศาลไม่ได้มาสนใจว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเล่นการเมืองต่อหรือไม่ แต่ศาลจะวินิจฉัยว่า จะสามารถอยู่ต่อได้ถึงเวลาไหนเท่านั้นเอง ขณะเดียวกันเชื่อว่าศาลจะหยิบคำชี้แจง ทุกอย่างมาวินิจฉัยทั้งหมด

ส่วนการประชุมของศาล รัฐธรรมนูญ ในวันที่ 8 กันยายนนี้ ส่วนตัวไม่ทราบว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการเรียกข้อมูลเพิ่มเติม หรือจะมีคำวินิจฉัยเลยหรือไม่ เท่าที่ทราบ รู้แค่เพียงว่าศาลจะมีการประชุมเท่านั้น ซึ่งศาลอาจจะกำหนดวัน ที่จะอ่านคำพิพากษาหรือ กำหนดวันที่จะหาข้อมูลเพิ่มเติมอีกก็ได้

นายวิษณุ กล่าวว่า เอกสารที่หลุดมา ส่วนตัวไม่รู้ว่า หลุดหรือตั้งใจหรือไม่ และไม่ทราบว่าจะส่งผลต่อคำวินิจฉัยหรือไม่ แต่เห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความลับ เพราะเมื่อยื่นต่อศาลแล้วก็ย่อมอยู่ในมือตุลาการ และเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งไม่ควรที่จะมีการนำมา เปิดเผยออกมาก่อนเช่นนี้ ยืนยันว่า ไม่ได้มีการพูดคุยหรือพบปะกับนายมีชัยนานกว่า 10 วันแล้ว และ ไม่ได้พูดคุยกับพลเอกประยุทธ์ เนื่องจาก พล.ต.วิระ โรจนวาศ ที่ปรึกษากฎหมายพลเอกประยุทธ์ ได้ประสานในเรื่องนี้ อีกทั้งมองว่าการที่เอกสารหลุด เป็นเรื่องที่มีทั้งคนรักและคนชัง รวมถึงคนที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ ซึ่งส่วนตัวมองว่าดี สังคมจะได้รับรู้สิ่งที่ไม่รู้

ส่วนกระแสข่าวพลเอกประยุทธ์ อยู่ในตำแหน่งจนถึงการประชุมเอเปคแล้วเสร็จ จะวางมือทางการเมืองนั้น นายวิษณุกล่าวว่าเรื่องนี้ไม่ทราบและไม่เคยพูดคุยกัน ขึ้นอยู่กับพลเอกประยุทธ์ แต่ ยืนยันตนเองจะจบทางการเมือง