‘จุรินทร์’ ย้ำจุดยืนประชาธิปัตย์ แก้รัฐธรรมนูญต้องเดินหน้า จับมือ 2 พรรคร่วมดันให้สำเร็จ ยกเลิก ส.ว.โหวตนายกฯ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราของพรรคพลังประชารัฐที่ยังให้อำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ รวมถึงการยกเลิกนับคะแนนแบบระบบจัดสรรปันส่วน และใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบว่า ยังไม่ทราบ สุดท้ายพรรคพลังประชารัฐจะมีมติอย่างไร ให้เสนอกี่ร่าง เพราะจากข่าวที่ออกมาเป็นเพียงการให้สัมภาษณ์ของบุคคลเพียวคนหนึ่งเท่านั้น แต่พรรคประชาธิปัตย์ มีจุดยืนชัดเจนว่าต้องนำประเทศไปสู่ความเป็นปนะชาธิปไตยยิ่งขึ้น ไม่ใช่แก้แล้วถอยหลัง
ดังนั้น ร่างของพรรคพลังประชารัฐที่จะเสนอเข้าที่ประชุมวิปรัฐบาล ต้องดูเป็นกรณีว่าร่างไหนเข้าเกณฑ์ หรือร่างไหนพาประเทศถอยหลัง โดยพรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือร่วมกับพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะพรรคร่วมจะเสนอแก้ไขเป็นรายมาตรา หรือรายประเด็น โดย 2 พรรค มอบให้ประชาธิปัตย์เป็นผู้ร่าง เช่น มาตรา 256 ว่าด้วยวิธีการแก้รัฐธรรมนูญ ไม่จำเป็นต้องใช้เสียง ส.ว. 1 ใน 3 ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ และไม่จำเป็นต้องใช้เสียงฝ่ายค้านร้อยละ 20 โดยให้ใช้เสียง 3 ใน 5 ของที่ประชุมร่วมรัฐสภาแทน ก็สามารถแก้ไขได้
นอกจากนี้ให้ยกเลิกอำนาจ ส.ว. โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ เพราะอำนาจโหวตนายกรัฐมนตรี ควรมาจาก ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง อีกทั้งจะเสนอแก้ไขการกระจายอำนาจ และสิทธิเสรีภาพประชาชน ส่วนเรื่องการใช้บัตรเลือกตั้งจากใบเดียว เป็น 2 ใบ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ขัดข้อง เพราะบัตรใบเดียวในการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีจุดอ่อนมาก นำไปสู่การเลือกตั้งแบบเบี้ยหัวแตก สุดท้ายทำให้ฝ่ายบริหารขาดเสถียรภาพ และไม่ส่งเสริมระบบพรรคการเมือง ที่มีความชัดเจนเหมือนบัตร 2 ใบ เพราะเป็นการเลือกคนและพรรค ซึ่งจะทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง เป็นกลไกสำคัญในระบอบประชาธิปไตย ส่วนการยกเลิกนับคะแนนแบบจัดสรรปันส่วนนั้น ยังไม่ขอออกความเห็น
พร้อมยืนยัน ขณะนี้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราของพรรคประชาธิปัตย์และอีก 2 พรรค เสร็จแล้ว โดยจะหารือกันภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อยื่นให้ประธานสภาให้ทันช่วงเปิดประชุมสมัยวิสามัญ 7-8 เมษายนนี้
ส่วนพรรคพลังประชารัฐ อ้างเหตุผลไม่แก้อำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะจะไม่ได้รับความร่วมมือจาก ส.ว.และแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้นั้น ไม่ขอตอบ ให้พลังประชารัฐตอบเอง แต่ย้ำหลักการพรรคประชาธิปัตย์ การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องเดินหน้า ไม่ใช่ถอยหลังเข้าคลอง
