LIFESTYLE

ของขวัญสำหรับเด็กเน้นความปลอดภัย ช่วยฝึกทักษะ เล่นแล้วแก้ปัญหาเป็น วิเคราะห์ได้

พ่อแม่ยุคใหม่ไม่อยากตกเทรนด์ ผู้เชี่ยวชาญเด็กแนะ เลือกของเล่นไม่อันตราย มีอยู่ใกล้ตัว ช่วยฝึกการคิดวิเคราะห์ ช่วยเด็กอยู่ในเข้าสังคมมีความสุข

ถ้านับนิ้วดูรายชื่อของขวัญวันเด็กแห่งชาติ เชื่อว่ามีให้เลือกนับไม่ถ้วน หนึ่งในโผของขวัญวันเด็กที่น้องๆหนูอยากได้ คงหนีไม่พ้นอุปกรณ์แท็บแล็ต หรือโทรศัพท์มือถือ แต่งานนี้ใครจะรู้ว่า “ของเล่นที่ไม่ใช่ของเล่น” ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ผู้ปกครองหลายคนควรรรู้ และสามารถเลือกเป็นของขวัญวันเด็กแห่งชาติได้ เพราะช่วยเพิ่มทักษะการเรียนรู้ การพูดคุย และรู้จักการเข้าสังคมได้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่แท็บแล็ตอันน้อย ที่เลือกเป็นของขวัญให้ลูก หากใช้อย่างถูกวิธีด้วยการที่คุณพ่อคุณแม่เล่นกับลูก ก็จะมีประโยชน์มากกว่าปล่อยให้เด็กเล่นเพียงลำพัง เพราะอุปกรณ์ดังกล่าว มักจะทำให้เด็กอยู่กับที่ โดยไม่เคลื่อนไหวร่างกาย

The Reporters ได้พูดคุยกับ “พี่แต้ว-ระพีพรรณ พัฒนาเวช” บรรณาธิการหนังสือภาพสำหรับเด็ก (อิสระ) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเลือกของเล่นเสริมทักษะ รับวันเด็กแห่งชาติที่จะมาถึงไว้น่าสนใจ ซึ่งมีทั้งของเล่นแนวใหม่ ที่สามารถประยุกต์ใช้ เพื่อให้เด็กมีทักษะการคิดวิเคราะห์ การมีเหตุมีผล การรู้จักการเข้าสังคม หรือแม้การเลือกของเล่น ที่เด็กๆคุ้นเคยดีอย่าง ตุ๊กตาผ้า หรือ ตุ๊กตากระดาษเป็นของขวัญ ก็ช่วยเสริมสร้างจินตนาการ ให้ลูกน้อยได้อย่างไม่ตกเทรนด์

ระพีพรรณ บอกว่า “ ต้องบอกว่าของเล่นที่เหมาะกับเด็ก คือของเล่นที่ไม่ใช่ของเล่นค่ะ แต่ทว่าช่วยเสริมทักษะให้กับเด็กๆได้ โดยเฉพาะเด็กเล็กวัยอนุบาล เช่น ของเล่นที่ไม่ตกแตกง่ายและไม่เป็นอันตรายกับเด็กๆ เช่น กระป๋องพลาสติก ,กระลังมังพลาสติก, แก้วและจานชามเมลามีน,จานและช้อนไม้ ,เขียงพลาสติก และเหตุผลที่สิ่งของเหล่านี้ เหมาะสำหรับเป็นของขวัญของเล่นเด็กนั้น เนื่องสิ่งของไม่ใช่ของเล่น แต่เมื่อใดที่เด็กได้เล่น เขาจะคิดว่าควรเล่นอะไรดี? หรือมันเล่นอะไรได้บ้างนะ? ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับเด็กตรงที่ว่า ช่วยฝึกทักษะของการแก้ปัญญา เพราะถ้าจะเล่นต้องทำอย่างไร? เป็นต้น ซึ่งบางครั้งเป็นสิ่งของที่มีอยู่ในบ้าน โดยที่ผู้ปกครองไม่ต้องซื้อหา หรือซื้อในราคาที่ย่อมเยา

“โดยสรุปนั้นของเล่นเด็ก ต้องช่วยพัฒนาทักษะกระบวนการคิดให้แก่เด็กด้วย ที่สำคัญต้องปลอดภัยเวลาเล่น นอกจากนี้ก็ต้องเลือกให้เหมาะกับช่วงวัย เช่น ต้องเป็นของเล่นที่ไม่ง่ายจนเกินไป เช่น ตัวต่อปริศนาอย่าง puzzle เพราะถ้ามันง่ายเกินไป เด็กที่เคยชินหรือเคยเล่น ก็จะไม่คิดแก้ปัญหาขณะเล่น ดังนั้นหลักการเลือกของเล่นที่สำคัญอีกอย่าง คือต้องเป็นของเล่นที่ทำให้เด็กได้จดจ่ออยู่กับของเล่นนั้นๆ หรือใช้เวลาคิดกับของเล่นดังกล่าวเช่นกัน เช่น ตัวต่อเลโก้ เป็นต้น”

สำหรับเด็กที่ไม่ค่อยมีของเล่น แนะนำว่าผู้ปกครองสามารถ ให้เด็กที่เป็นเพื่อนกันเล่นด้วยกันก็ได้ เพราะการที่เด็กนั่งเล่นด้วยกัน จะทำให้เด็กรู้จักการรอยคอย การพูดคุย การสื่อสารกับผู้อื่น หรือมีทักษะทางสังคม และการเล่นกับเพื่อนยังทำให้เด็กมีสติปัญญาที่ดี และมีจินตนาการในเรื่องต่างๆ เช่น การที่เด็กพูดคุยกันว่าตัวเอง อยากจะเป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ สอดคล้องกับการที่เด็กมีของเล่น ถ้าจะให้ดีที่สุดนั้น แนะนำว่าผู้ปกครองควรเล่นกับเด็ก หรือ ให้เด็กเล่นของเล่นกับเพื่อน เพราะถ้าหากมีคนชวนพูดคุย จะทำให้เด็กรู้จักการคิดแก้ปัญหา ซึ่งนั่นจะเป็นการกระตุ้นให้เด็กคิด ขณะที่เล่นของเล่น เช่น เด็กนั่งเล่นตัวต่อเลโก้ หรือเล่นรถแข่งที่ต้องประกอบเองด้วยกัน

“ขณะที่ “แท็บแล็ต” นั้น หากผู้ปกครองจะซื้อให้ลูกเล่น โดยส่วนตัวคิดว่าไม่แนะนำให้ซื้อ เพราะแท็บแล็ตไม่ใช่ของเล่นเด็ก เพราะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการเล่น แต่มันเครื่องมือใช้งานชนิดหนึ่ง ที่คนนิยมนำมาเล่นเกม จริงอยู่ที่การเล่นเกมบนแท็บแล็ตหรือสมาร์ทโฟน ทำให้มีทักษะการคิด แต่เด็กๆจะเสียเรื่องการสื่อสาร และทักษะการเข้าสังคม เพราะเด็กที่เล่นแท็บแล็ตนั้น จะนั่งอยู่กับที่ไม่ได้ขยับร่างกาย และไม่ได้คุยกับเพื่อน ซึ่งเด็กเล็กตั้งแต่อนุบาลถึงอายุ 10 ปีนั้น เป็นวัยแห่งการเรียนรู้ และต้องออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง ทางด้านร่างกายและจิตใจ อีกทั้งต้องเรียนรู้ทักษะทางสังคม หรือหากผู้ปกครองยุคใหม่ จะซื้อแท็บแล็ตให้ลูกเป็นของขวัญวันเด็ก ก็แนะนำว่าต้องเล่นเป็นเพื่อนกับลูก เพราะหากผู้ปกครองเล่นด้วย ก็จะกระตุ้นให้เด็กรู้จักการคิดวิเคราะห์ และแก้ปัญหาในเกมที่เด็กเล่น ที่สำคัญต้องจำกัดเวลาในการเล่น วันละไม่เกิน 30 นาที และวัยที่ควรซื้อแท็บแล็ตให้เด็ก เน้นว่าอายุประมาณ 8 ปีขึ้นไป หรือเรียนอยู่ในวัยประถมศึกษาตอนต้น ทั้งนี้วัยเด็กเล็ก หรือเด็กอนุบาลยังไม่ควรให้เด็กเล่นแท็บแล็ต หรือหากต้องการซื้อของขวัญให้เด็กวัย 8-10 ปี แนะนำว่าให้ซื้อ จักรยาน หรือ ลูกฟุตบอล กางเกงว่ายน้ำ ชุดว่ายน้ำ หรืออุปกรณ์กีฬาชนิดอื่น  เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้ออกกำลังกาย”

ของเล่นวันเด็กแห่งชาติ คนเล่นดีใจคนให้มีความสุข

อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า หลักการเลือกของเล่นเด็กที่ดี ต้องฝึกทักษะการคิดการแก้ปัญหาเป็น และช่วยส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ และของเล่นต้องไม่เกิดอันตรายกับเด็ก เช่น “ของเล่นกลุ่มของเล่นที่ไม่ใช่ของเล่น” อาทิ จานชามเมลามีน (ตกไม่แตก) หรือ กรรไกรปลายมน ที่สามารถซื้อให้เด็กเล่นได้ (ผู้ปกครองควรอยู่ด้วย) เพราะหลายคนมองว่าอันตราย แต่อันที่จริงแล้วเป็นของเล่น ที่ช่วยฝึกให้เด็กสามารถบังคับนิ้วมือ และรู้จักการกะระยะสิ่งต่างๆเป็น ซึ่งจะสัมพันธ์กับการสั่งการของสมอง ทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้จากการตัดกระดาษ และเด็กยังได้ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก การรู้จักเกร็งนิ้วเป็น ซึ่งเป็นของเล่นที่อยู่ในหลักสูตร การเรียนการสอนในระดับอนุบาล ซึ่งเราจะเห็นว่าคุณครูมักให้เด็ก เรียนตัดกระดาษและนำมาแปะ เรียนฉีกกระดาษด้วยมือและนำมาแปะ เพื่อฝึกทักษะดังกล่าวค่ะ

นอกจากนี้ “ตุ๊กตา” ของเล่นที่เด็กคุ้นเคยกันดี ที่สำคัญเป็นของเล่นที่ช่วยส่งเสริมจินตนาการ เช่น การที่เด็กเล่นตุ๊กตากับเพื่อน และสมมุติให้ตัวเองเป็นพ่อแม่ตุ๊กตา ตรงนี้เด็กจะได้ทักษะการสื่อสารอย่างชัดเจน ขณะที่เด็กพูดกับตุ๊กตา และยังได้ทักษะทางสังคม เพราะเด็กคุยกับเพื่อน ซึ่งสามารถซื้อให้เด็กเล็ก และเด็กโตอายุ 7-8 ปี เล่นได้เช่นเดียวกัน หรือแม้แต่ “ตุ๊กตากระดาษ” ก็ช่วยฝึกทักษะของการระมัดระวังขณะที่เด็กเล่น เพราะตุ๊กตากระดาษจะขาดง่าย ถ้าเด็กๆจับแรง ดังนั้นเด็กจะจับตุ๊กตาเบามือ หรือค่อยๆเรียนรู้ที่จะเล่นตุ๊กตาให้ขาดยากมากที่สุด หรือแม้แต่ของเล่นชวนแก้ปัญหาและขบคิดอย่าง “บัตรโจทย์” คือจะมีโจทย์มา 1 ใบ เพื่อให้เด็กได้เลือกจับคู่สีอะไรกับสีอะไร เป็นต้น ก็จะช่วยทำให้เด็กรู้จักการคิดวิเคราะห์ และพัฒนาสมองไปพร้อมๆกัน”

ของเล่นอันตรายเด็กๆเลี่ยงได้เป็นดีที่สุด

“ลูกโป่งวิทยาศาสตร์” ของเล่นในตำนานที่ปัจจุบันยังมีให้เห็นกันอยู่ ไม่แนะนำให้ผู้ปกครอง ซื้อของเล่นดังกล่าวให้เด็กๆเล่น เพราะมีสารอันตรายต่อสุขภาพ ถ้าเด็กอมหรือกลืนโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะถูกตรวจพบว่า มี “สารระเหย” ที่นับเป็นยาเสพติดชนิดหนึ่ง เมื่อสูดดม หรือเป่าเข้า-ออก นานๆ จะส่งผลให้อวัยวะในร่างกายเสื่อมสภาพ อาจถึงตายได้ หรือแม้ “ดินน้ำมันสไลม์” แม้ว่าจะไม่อันตราย แต่เป็นของเล่นที่ฉาบฉวย เด็กจะเบื่อได้ง่าย หรือเป็นของเล่นที่อยู่ในเทรนด์ของเล่นเท่านั้น เพราะเวลาเล่นแล้วเด็กๆรู้สึกสนุก เพราะเป็นดินน้ำมันที่ไม่จำกัดรูปทรง

“นอกจากนี้ของเล่นธรรมชาติ ที่มีผู้ปกครองพาเด็กเล่นอย่าง การพาเดินชมสวน หรือการลงมือปลูกผัก การช่วยรดน้ำต้นไม้ การช่วยถูบ้าน โดยผู้ปกครองพูดกับเด็กว่า ไปเล่นปลูกผักกันดีกว่า? ไปเล่นรดน้ำต้นไม้กันดี? หรือไปเล่นถูบ้านกัน? นั่นจะทำให้เด็กรู้สึกว่ากิจกรรมดังกล่าว คือการเล่น และจะทำให้เด็กมีแนวโน้ม ที่จะออกไปเล่นนอกบ้าน หรือเล่นกลางแจ้ง ซึ่งจะช่วยพัฒนการทางด้านร่างกาย และจิตให้กับเด็กได้เช่นเดียวกัน ผ่านการเรียนรู้ จากการพาเด็กเล่นนั่นเองค่ะ

Related Posts

Send this to a friend