LIFESTYLE

แฟชั่นมาแรงปี 2023 แฟชั่นยีนส์เซ็ท เทรนด์เลื่อมวิบวับ

ดีไซน์เนอร์ไทย เผย แฟชั่นไทยไร้กฎตายตัว สไตล์ช่วงกลางและปลายปี มิกซ์แอนด์แมทซ์สไตล์ที่ชอบ เน้นใส่สบายเข้ากับอากาศร้อนเมืองไทย แนะไอเดียแต่งฉลองปีใหม่ แฟชั่นโอเวอร์ไซส์ข้างในซีทรู เติมเสน่ห์สาวมั่นเพิ่มความมั่นใจรูปร่าง

The Reporters ได้สอบถามไปยัง กีต้าร์-ปฏิญญา เกี่ยวข้อง ดีไซน์เนอร์แบรนด์ และเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า “PATINYA” ที่กำลังจะเปิดตัวคอลเลคใหม่ที่ใช้ชื่อว่า “PATINYA (PARTY)” ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทรนด์แฟชั่นรับปีใหม่ 2023 ว่าสไตล์ไหนที่รอดและสไตล์ไหนที่ร่วง อาทิ แฟชั่นเสื้อโอเวอร์ไซส์ (oversize) ที่ฮิตสุดๆในปีนี้จะไปได้สวยในปีหน้าหรือไม่นั้น หรือแม้แต่แฟชั่นรักษ์โลก ที่หลายคนให้ความสนใจมากขึ้น เพราะกระบวนการนั้น ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี แต่ในแง่ของการนำมาใช้จริงนั้น จะเหมาะกับคุณสาวๆทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการความคล่องตัว หรือไม่มีคำตอบมาบอกกัน

ปฏิญญา ให้ข้อมูลว่า “ สำหรับแฟชั่นที่มาแรงในช่วงต้นปีนั้น โดยส่วนตัวมองว่าแฟชั่น สไตล์กลิตเตอร์เลื่อมระยับ และประดับเพชรเป็นดีเทล เพื่อให้ส่องประกายวิบวับเล็กน้อยๆ ก็น่าจะมาแรงเพราะส่วนหนึ่ง มาจากบรรยากาศที่ทุกคน ยังอยู่ในช่วงเวลาของการเฉลิมฉลองปีใหม่ค่ะ นอกจากนี้แฟชั่นเสื้อดีไซน์โอเวอร์ไซส์ บวกกับข้างในเป็นแบบซีทรู หรือเสื้อผ้าไตล์หลวมนิดหนึ่ง แต่ว่าเห็นข้างใน หรือข้างในเป็นแบบซีทรู ก็น่าจะมาแรงเช่นเดียวกัน เพราะช่วยเสริมเสน่ห์ ให้กับคุณสาวๆได้แบบที่ไม่โป๊ะ หรือโชว์รูปร่างมากจนเกินไป

นอกจากนี้แฟชั่นเดนิมส์ หรือ แฟชั่นยีนส์ ก็จะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ในช่วงต้นปีอีกครั้ง อาทิ ชุดยีนส์ที่จับคู่แบบเซ็ท ไม่ว่าจะเป็นเซ็ทกางเกง หรือเซ็ทกระโปรงยีนส์ ส่วนหนึ่งเพราะแฟชั่นยีนส์ช่วยเพิ่มความคล่องตัว เวลาที่จะเดินทางไปไหนมาไหนในช่วงต้นปี ที่สำคัญแฟชั่นยีนส์ช่วยทำให้ลุคของผู้สวมใส่ดูทะมัดทะแมง ที่สำคัญก็มีความคลาสสิคอยู่ในตัวเอง

ส่วนสีสันของเสื้อผ้าในปีหน้า สีจะไม่เน้นสดใสมาก แต่ทว่าเป็นกลุ่มโทนสีที่สามารถใส่ได้เรื่อยๆ หรือสีเรียบแต่ดูดี เช่น โทนสีดำ โทนสีม่วงสไตล์ baby purple หรือสีม่วงบนสีขาว หรือแม้แต่แฟชั่นโทนสีขาว WHITE OFF-WHITE หรือ โทนสีขาวนวล หรือสีขาวงาช้าง ก็ยังคงมาอยู่ตลอดทั้งปีค่ะ

ส่วนเนื้อผ้าที่นิยมในปีหน้า เน้นสวมใส่สบาย เช่น เนื้อผ้าที่มีความพลิ้วไหว เหมาะกับอากาศร้อนในบ้านเรา และเนื่องจากปัจจุบันคนทั่วไป มีการเปิดกว้างในเรื่องของการสวมใส่เสื้อผ้า ที่เน้นความสบายมากขึ้น

ดังนั้นแฟชั่นจากผ้าฝ้าย ก็อาจจะยังได้รับความนิยมอยู่ แต่ขณะเดียวกันเนื้อผ้า ที่มีความพลิ้วไหวช่วยให้คล่องตัว ที่สำคัญเมื่อใส่แล้ว ทำให้ผู้หญิงดูมั่นใจมากขึ้น น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิง เลือกใส่เสื้อผ้าจากเนื้อผ้า ที่มีความหลากเช่นเดียวกัน ไม่จำเพราะเจาะจงเนื้อผ้าชนิดใดชนิดหนึ่ง เหมือนเช่นที่ผ่านมาค่ะ

“สำหรับแฟชั่นที่เอ้าท์ในปี 2023 คือแฟชั่นที่แน่นและดูเข้ารูปมากๆ นอกจากนี้คือเสื้อผ้าโทนสีสดใสและสะท้อนแสง แต่ทั้งนี้แฟชั่นโอเวอร์ไซส์ที่ฮิตในปี 2022 นั้น ก็คาดว่าจะยังคงได้รับความนิยม ในปีหน้าเช่นเดียวกัน ส่วนใครที่มองว่าแฟชั่นโอเวอร์ไซส์ หรือเสื้อผ้าสไตล์หลวมนิดหน่อย จะทำให้ดูมีอายุนั้น โดยส่วนตัวของต้าร์ มีรูปร่างสูงประมาณ 168-170 เซนติเมตร ดังนั้นหากจะใส่เสื้อผ้าสไตล์โอเวอร์ไซส์ ก็จะมิกซ์แอนด์แมทซ์ เช่น ถ้าหากวันไหนใส่กระโปรงสั้นเข้ารูป ก็จะใส่คู่กับเสื้อตัวหลวมทรงโอเวอร์ไซส์ หรือหากวันไหนใส่กางเกงหลวม ก็จะใส่เสื้อข้างบนแบบเอวลอยไปลอย ซึ่งก็จะเป็นแฟชั่นที่แมทซ์เข้ากันได้ดี แต่ถ้าใครที่ใส่เสื้อผ้าสไตล์โอเวอร์ไซส์ทั้งตัว และมีรูปร่างที่สูงเพรียวอยู่แล้ว ก็จะยิ่งทำให้ลุคที่ออกมาดูรุงรัง และดูเป็นผู้ใหญ่ได้ค่ะ”

ทั้งนี้แฟชั่นซัมเมอร์ในปีหน้าที่หลายคน มองหาเสื้อผ้าดอกดวงสีสันคัลเลอร์ฟูล และช่วงปลายปีที่เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว แฟชั่นโทนสีเข้มก็จะเป็นที่นิยม เพื่อขับไล่อากาศหนาวนั้น เนื่องจากยุคนี้แฟชั่นไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว เหมือนเช่นที่ผ่านมา และไม่มีมาสักพักแล้ว พูดง่ายๆว่าแฟชั่นซัมเมอร์ไม่จำเป็น ต้องเป็นแฟชั่นลายดอก หรือสีสันสดใส แต่ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละแบรนด์ที่ออกแบบนั้น จะดีไซน์แฟชั่นหน้าร้อนให้เป็นอย่างไร เพื่อให้ดูสดใสในแบบของตัวเอง หรืออาจจะไม่เป็นต้องเน้นโทนสีฉูดฉาดมาก แต่อาจจะดีไซน์ให้เป็นโทนสีหวานเรียบๆ เพื่อให้เสื้อผ้าดูซอฟต์ลง เพื่อใส่ได้ง่ายขึ้นก็ได้เช่นกันค่ะ หรือแฟชั่นช่วงปลายปี ก็ไม่จำเป็นต้องใช้โทนสีวินเทจ หรือโทนสีอึมครึม และใช้ผ้านิตหรือผ้าถักมาดีไซน์เสื้อผ้า เหมือนเช่นที่ผ่านมา ดังนั้นการเลือกเสื้อผ้าจากแบรนด์ที่ตัวเองชอบ และเหมาะกับสไตล์ของตัวเอง ที่สำคัญต้องใส่แล้วสบายค่ะ เพราะบ้านเราอากาศค่อนข้างร้อน ก็เป็นอีกสไตล์ที่ทุกคนสามารถเลือกใส่ได้เช่นกัน

“ขณะที่แฟชั่นใส่ใจสิ่งแวดล้อม เช่น ไม่ใช้เคมีในการย้อม หรือทำจากเส้นใยธรรมชาตินั้น เป็นสิ่งที่ดีมากค่ะ แต่เนื่องจากเวลาใช้งานจริงนั้น เสื้อผ้าสไตล์นี้จะให้ความสบาย และความคล่องตัวค่อนข้างน้อย และบางครั้งจะมีราคาค่อนข้างสูง เพราะกระบวนผลิตที่หลายขั้นตอน และอาจต้องใช้แรงงานคนในการทำด้วยมือ ดังนั้นคนที่นิยมแฟชั่นรักษ์โลกสไตล์นี้จริงๆ ก็จะต้องเป็นกลุ่มคนที่ชอบ หรือตระหนักต่อการใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมจริงๆ ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ และเป็นเรื่องที่ดีมากๆค่ะ สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน และงบประมาณค่ะ ส่วนข้อดีของการใช้เสื้อผ้า ที่ออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ไทย ตาร์คิดว่าช่วยส่งเสริมดีไซน์เนอร์ในบ้านเรา ให้สามารถต่อยอดผลงานไปได้เรื่อยๆ และที่สำคัญดีไซน์เนอร์ไทยค่อนข้างเก่ง โดยเฉพาะหลายแบรนด์ที่ได้โกอินเตอร์ และมีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ และหลากหลายแบบ พูดง่ายๆว่าเป็นการซัพพอร์ตกันและกันค่ะ ส่วนราคานั้นก็เหมาะกับฝีมือ ของแต่ละดีไซน์เนอร์ ไม่ได้แพงหรือถูกจนเกินไปค่ะ เพราะทุกอย่างมีต้นทุนในการผลิตชิ้นงานค่ะ ดังนั้นทุกอย่างก็ต้องเป็นไปอย่างสมเหตุสมผลค่ะ”

Related Posts

Send this to a friend