HUMANITY

ยังรอคำตอบ สมรสเท่าเทียม ธัญวัจน์ ชี้ไม่กระทบ แม้ศาลเลื่อนวินิจฉัยขัด รธน.หรือไม่

ธัญวัจน์ ชี้ ร่างแก้ไข ป.พ.พ. 1448 คือ กุญแจดอกสำคัญเพื่อปลดแอกความเสมอภาคทางเพศ เผย ศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนวินิจฉัยปมขัดรัฐธรรมนูญไม่กระทบเพราะไม่ผูกพันการแก้ไขกฎหมายในอนาคต

วันนี้ (28 กันยายน 2564) ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ริเริ่มเเละผลักดันร่างพระราชบัญญัติแก้ไขประมวลกฎหมายเพิ่มเติมเเพ่งเเละพาณิชย์ ( ป.พ.พ. 1448 ) กล่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนการอ่านคำวินิจฉัยมาตรา 1448 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากวันนี้เป็นวันที่ 14 ธันวาคม 2564 ว่า การยื่นตีความในกรณีนี้สืบเนื่องมาจากข้อสงสัยว่า การสมรสที่กระทำได้ระหว่างชายและหญิงเท่านั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากกรณีที่ เพิ่มทรัพย์ แซ่อึ๊ง และพวงเพชร เหงคำ หญิงรักหญิงที่อยู่ร่วมกันกว่าสิบปี ยื่นขอจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานเขตภาษีเจริญ แต่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าการที่ทั้งคู่มีเพศกำหนดเป็นหญิงและหญิงเหมือนกัน ไม่สามารถจดทะเบียนสมรสให้ได้ จึงนำไปสู่การยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วินิจฉัยถึงความเสมอภาคที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 27 ที่รับประกันความเสมอภาคระหว่างชายหญิงและการไม่เลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ

หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามาตรา 1448 ที่กำหนดให้สมรสกันได้เฉพาะระหว่างชายและหญิง ‘ขัด’ ต่อรัฐธรรมนูญก็จะนำมาสู่กระบวนการแก้กฎหมายว่าด้วยการสมรสมาตรานี้ แต่ในทางกลับกัน หากวินิจฉัยว่า ‘ไม่ขัด’ ต่อรัฐธรรมนูญ ก็จะถือว่าการสมรสระหว่างชายและหญิงเป็นสิทธิเท่าเทียมแล้ว

“คำถามที่เกิดขึ้นมากมายต่อมาคือคำถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ขัดจะส่งผลอย่างไรต่อกฎหมาย #สมรสเท่าเทียม หรือการแก้ไขเพิ่มเติม ป.พ.พ.1448 ที่ธัญและพรรคก้าวไกลที่ยื่นสู่สภา เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นย่อมผูกพันทุกองค์กร และคำวินิจฉัยของศาลก็จะถูกนำมาพูดหรืออ้างถึงในสภาที่อาจจะส่งผลด้านใดด้านหนึ่งต่อร่างสมรสเท่าเทียมของพรรคก้าวไกล

“อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยว่าอย่างไร ในฐานะผู้แทนราษฎรมีอำนาจในการยื่นเสนอกฎหมายและผ่านกฎหมาย ต้องถือว่าเป็นคนละเรื่องกับกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจากกฎหมายที่บัญญัติขึ้นมาแล้ว แต่ผู้แทนราษฎรกำลังจะเปลี่ยนแปลงกฎหมายสู่อนาคต ผ่านกลไกรัฐสภาและตัวแทนจากประชาชน” ธัญวัจน์ กล่าว

นอกจากนี้ ธัญวัจน์ ยังย้ำว่าในฐานะผู้แทนราษฎรที่ยื่นกฎหมายสมรสเท่าเทียม เป็นสิ่งที่เราเชื่อว่านี่คือความเสมอภาคและคนทุกเพศต้องสามารถสร้างครอบครัวของตนเองได้ ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ดังนั้น ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินอย่างไร ก็จะเดินหน้าผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างสุดความสามารถผ่านกลไกของสภา

Related Posts

Send this to a friend