HEALTH

โฆษก สธ. ตอบ ‘สุดารัตน์’ หลังถูกกล่าวหาเน้นรักษา มากกว่าป้องกัน

ย้ำชัดไม่เคยละเลย รณรงค์ต่อเนื่องเพื่อสุขภาพประชาชน ชี้ การบริจาคเป็นจิตศรัทธาของประชาชน กระทรวงไม่เคยเรียกร้อง หรือ บังคับ

จากกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ออกมาให้ความเห็นเชิงผิดหวังกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ที่เน้นการรักษาโรค มากกว่าการป้องกันโรค

ล่าสุดวันนี้ (25 ต.ค. 65) นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นพ.ทรงคุณวุฒิ ระดับ 11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในความเป็นจริง กระทรวงสาธารณสุข ไม่เคยละเลยเรื่องการส่งเสริมสุขภาพประชาชน และมีการรณรงค์ ให้ประชาชนรู้จักดูแลตนเองอยู่เสมอ นี่คือ พันธกิจของกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว ปัจจุบัน ประชาชนตื่นตัวในการออกกำลังกาย ที่สำคัญ เรามั่นใจว่า ประชาชนมีความตระหนักรู้ ในการดูแลตัวเอง แม้จะทราบดีว่ามีสิทธิ์บัตรทองกรณีเจ็บป่วย แต่เชื่อเหลือเกินว่า ไม่มีใครต้องการเป็นคนป่วยแน่นอน

สำหรับการบริหารจัดการงบประมาณ เป็นไปตามกรอบงบประมาณ บริการประชาชนได้เป็นอย่างดี สำหรับการบริจาค เป็นจิตศรัทธาของประชาชน กระทรวง ไม่เคยเรียกร้อง หรือ บังคับใคร และเป็นสิ่งที่ดี ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับผู้บริจาค ซึ่งทำให้กระทรวงสาธารณสุขทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้เพิ่มขึ้น สถานการณ์โรคและภัยสุขภาพของประชาชนดีขึ้นชัดเจน พร้อมย้ำว่า คุณหญิงสุดารัตน์ต้องดูที่อัตรา มิใช่จำนวน

“พวกเราชาวกระทรวงสาธารณสุข พร้อมทำงานหนัก บริการประชาชน บุคลากรของกระทรวง เลือกแล้วที่จะทำงานดูแลรักษาประชาชนและคนยากจน ที่ผ่านมา เราทุ่มเต็มที่ในการรักษา จะเห็นว่า เราเพิ่มยา เพิ่มวิธีการรักษามากมายเข้ามาในสิทธิ์บัตรทอง และเราก็ทุ่มเต็มที่ในการให้ความรู้แก่ประชาชนเช่นกัน เรามีเครือข่ายผู้ปฏิบัติงาน ทั้ง รพ.สต. และ อสม. ในการปลูกฝังความรู้ ความเข้าใจ ในการดูแลสุขภาพ สร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชน”

“ข้อกล่าวหา ของคุณหญิงสุดารัตน์นั้น กระทบกระเทือนใจแก่คนทำงาน ประเด็นแรก เราไม่ได้รับใช้การเมืองจนหลงลืมพันธกิจ จนกระทบสุขภาพประชาชน กลับกัน กระทรวงสาธารณสุข ทำงานตามนโยบายของฝ่ายการเมือง อย่างมีสติ รอบคอบ โดยยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ” นพ.รุ่งเรือง

โฆษก สธ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันนี้ นอกจากพัฒนานโยบาย ให้มีตัวเลือกด้านการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น ครอบคลุมไปถึงโรคหายาก กระทรวงยังเพิ่มตัวเลือกด้านการตรวจคัดกรอง ให้ทีมลงพื้นที่ไปปลูกฝังเรื่องสำนึกรักสุขภาพแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ระบบจึงครอบคลุมทั้งการส่งเสริม และรักษา

โดยความมั่นคงด้านสุขภาพของไทย จากการจัดอันดับระดับนานาชาติ ก็ติดท็อปเท็นมาโดยตลอด เป็นอันดับ 1 ในเอเชีย และอันดับ 5 ของโลก ประเทศที่มีระบบสุขภาพมั่นคงที่สุด ตามการจัดอันดับโดย ม.จอห์น ฮอปกินส์ ของสหรัฐฯ นอกจากนั้น ไทยเคยขึ้นอันดับ 1 ประเทศที่มีการฟื้นตัวจากโควิด 19 ได้เร็วที่สุด ที่ผ่านมา เราไปประชุมในระดับโลก ในฐานะประเทศที่มีจุดแข็งด้านการสาธารณสุข นี่คือ ภาพสะท้อนของระบบสุขภาพไทย ณ ปัจจุบัน ที่ไม่เพียงนับเรื่องของการรักษา แต่ยังหมายถึงทั้งระบบ ซึ่งก็คือ การรักษา และการส่งเสริมสุขภาพนั่นเอง

Related Posts

Send this to a friend