POLITICS

‘ทักษิณ’ ขอโทษ ขออภัย เสียใจ เหตุการณ์ตากใบ

‘ทักษิณ’ ขอโทษ ขออภัย เสียใจเหตุการณ์ตากใบ ยันไม่ได้สั่งการให้เคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 80 คน ชงนักข่าวถาม พล.อ.ประวิตร ผบ.ทบ.ในตอนนั้น จะรับผิดชอบความสูญเสียอย่างไรเผยครั้งแรก “ทหารวางแผนจะล้มผมตั้งแต่วันนั้น”   

วันนี้ (25 ต.ค. 65) ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ฐปณีย์ เอียดศรีไชย The Reporters ในรายการ CareTalk X CareClubhouse ในวาระครบรอบ 18 ปีเหตุการณ์ความสูญเสียที่ อำเภอตากใบ  จังหวัดนราธิวาส ที่ในปีนี้มีการจัดงานรำลึกทั้งที่อำเภอตากใบ และที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร สะท้อนให้เห็นว่าสังคมยังคงไม่ลืมเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในวันนั้น และยังทวงถามความยุติธรรมให้กับครอบครัวของผู้สูญเสียเพราะผ่านมากว่า 18 ปี ยังไม่มีผู้ถูกดำเนินคดีจากเหตุการณ์ดังกล่าว เหลือเวลาอีกประมาณ 2 ปี คดีจะหมดอายุความ

ทักษิณ กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจอีกครั้งกับครอบครัวผู้สูญเสีย ขอชี้แจงข้อเท็จจริงให้ชัดเจน ว่าวันนั้นเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ขณะเกิดเหตุมีกลุ่มชาวบ้านที่ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น เป็นวันรอมฎอน วันนั้นได้รับรายงานขณะตีกอล์ฟย่านบางนา ได้รับรายงานว่า มีประชาชนมาล้อมสถานีตำรวจ ขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ถูกกล่าวหาว่าเอาอาวุธไปส่งให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ จึงมาล้อมขอเอาตัวออกไป ซึ่งตำรวจถามผมว่าจะทำยังไง ผมบอกว่าจะทำแบบนั้นไม่ได้ ตำรวจต้องดำเนินคดีตามกฎหมายก่อน ผมพูดแค่นี้หลังจากนั้นก็ตีกอล์ฟต่อ มารู้อีกทีก็หลังเหตุการณ์เคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมและมีผู้เสียชีวิต ซึ่งยืนยันได้ว่าไม่ได้เป็นผู้สั่งการ และเหตุการณ์ตัดตอนหลังการสลายการชุมนุมที่หน้า สภ.ตากใบ เท่านั้ย

“ซึ่งในวันนั้นมีการล้อมสถานีตำรวจอยู่นาน เจ้าหน้าที่ใช้น้ำฉีดและมีการปะทะกัน เข้าใจว่ามีผู้เสียชีวิตที่นั่นประมาณ 6 คน ซึ่ง อันนี้เป็นเรื่องของฝ่ายปกครอง ของตำรวจ รวมถึงทหารนิดหน่อย ตอนนั้นผมรู้ถึงจุดนี้ หลังจากนั้นก็มีการสลายการชุมนุมและมีการจับคนที่มาชุมนุมไป ตอนนั้นผมรู้ว่ามีการจับ แต่ผมไม่รู้เลยว่าจับยังไง ใครเอาไปไว้ที่ไหน ไม่มีใครรายงานผมแล้ว พอรู้อีกที่คือมีการตายเกิดขึ้น ผมจึงถามว่าทำไมถึงมีคนตายหล่ะมันจบไปแล้วที่นั่น ทำไมต้องตายกันอีกเยอะแยะ ปรากฎว่าลำเลียงผู้ต้องหาซึ่งอ่อนล้าจากการอดอาหารมาทั้งวันเพราะเขาถือศีลอด และแทน ที่จะเอาไปไว้บนรถบรรทุกดีๆ กลับเอาคนไปซ้อนกัน ซึ่งผมคิดว่ามนุษย์ทั่วไปไม่น่าจะคิดได้อย่างนั้น ทำให้คนขาดอากาศหายใจมีทั้งผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ผมมารับรู้รายงานที่หลัง ผมก็เสียใจว่าทำไมมันซื่อบื้อขนาดนี้ ผมเป็นคนเกลียดคนโง่อยู่แล้วพอทำอะไรพวกนี้ผมก็ด่า ผมก็ถูกเกลียดถูกโกรธจากชาวมุสลิมที่นั่น” ทักษิณ กล่าว

หลังจากนั้น ทักษิณ เล่าว่า หลังจากที่ตนออกจากประเทศไทยไปแล้ว มีโอกาสเจอตำรวจสันติบาลของมาเลเซีย ที่ประเทศเยอรมันนี เขาเล่าว่า ตอนแรกมาเลเซียก็โกรธผม คนมุสลิมก็โกรธผม นึกว่าผมเป็นคนที่รังเกียจและทำร้ายมุสลิม ตอนหลังมาเขาพบว่า เป็นการกระทำของทหารที่วางแผนจะไม่เอาผม ตอนหลังมาทางมาเลเซียจึงไม่โกรธอะไรผม ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาเล่าให้ผมฟัง เหตุการณ์ที่เอาคนไปซ้อนกัน “เป็นเรื่องที่สั่งการโดยทหาร” และพาคนเหล่านี้ไปค่ายทหาร ซึ่งผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนสั่งอะไรยังไง ตัดตอนตั้งแต่สลายการชุมนุมที่หน้าโรงพักตากใบ หลังจากนั้นเป็นเรื่องที่ทหารรับช่วงไปผมไม่รู้เรื่องแล้ว ผมรู้แค่คนจะบุกเข้าไปเอาคน 6 คนในโรงพัก มีการสลายการชุมนุม มีการใช้ปืนฉีดน้ำ มีการยิงกันนิดหน่อยหลังจากนั้นผมไม่รู้เรื่องแล้ว

“ผมถือว่า ถึงแม้ผมไม่ได้สังการ แต่ในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ผมต้องขอโทษ ขออภัย แก่บรรดาญาติพี่น้องของผู้ที่สูญเสีย และผู้ที่ได้รับความเสียหายในครั้งนั้นด้วย เพราะจริงๆที่เกิดเหตุการณ์ครั้งนั้น ถือเป็นความผิดพลาดอย่างแรงของการลำเลียงผู้ต้องหาแบบนั้น” ทักษิณ กล่าว

ฐปณีย์ ถามต่อว่า วันนี้ยังคงมี การเรียกร้องเอาผิดกับผู้กระทำผิดที่แม้จะผ่านมา 18 ปีแล้วยังไม่มีผู้ได้รับโทษและเหลือเวลาอีกเพียงแค่สองปีจะหมดอายุความรวมถึงในวันนี้ขบวนการบีอาร์เอ็น ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ดำเนินคดีในศาลอาญาระหว่างประเทศ มีการระบุถึงอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร, อดีตผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 พล.ท.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ที่ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น กล่าวหาว่าเหตุการณ์ตากใบเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

ทักษิณ ตอบว่า ล้างเผ่าพันธุ์นี่มันไม่มีใครคิดบ้าขนาดนั้นหรอก ในเหตุการณ์นี้มันเป็นเรื่องที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นการรักษาความสงบของบ้านเมืองมันต้องมี แต่ว่าความผิดพลาดก็คือการลำเลียงผู้ต้องหาไปในค่ายทหาร ที่ผิดหลักทุกอย่าง ใช้ไม่ได้ ซึ่งอันนี้อยู่นอกเหนือการควบคุมของนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีไม่สามารถสั่งข้าราชการก้าวเท้าซ้ายหรือขวาได้ เราให้ได้แค่หลักการกว้างๆ ในวันนั้นเราแค่ไม่ให้คนมาบุกยึดผู้ต้องหากลางโรงพักไป ซึ่งมันจะเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรม เป็นสิ่งที่ผมรับรู้ ผมคิดว่า BRN พูดเอาโก้ พูดเอาหล่อ กลัวว่าวันนี้จะไม่หล่อแล้ว ผมเคยพบคนพวกนี้หลายคนที่มาเลเซีย ผมไม่กลัวตายอยู่แล้ว

ฐปณีย์ถามว่า อดีตนายกรัฐมนตรีจะมีส่วนในการหาความยุติธรรมคืนให้ผู้สูญเสียได้อย่างไรหรือไม่

ทักษิณ ตอบว่า ต้องไปถามรองนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ในฐานะเป็นอดีต ผบ.ทบ.ตอนนั้น ท่านจะรู้เรื่องหาดูท่านจะชดเชยอย่างไร รัฐบาลนี้ก็กู้เงินมาเยอะนี่จะชดเชยยังไงก็ว่าไปตามนั้น เพราะผมไม่มีหน้าที่อะไรแล้ว “วันที่มันเสียหาย มันอยู่ในมือทหาร”

นอกจากนี้ ทักษิณ ยังเล่าต่อว่า นายตำรวจมาเลเซียที่ตนเจอที่เยอรมัน บอกกับตนว่า ตอนหลังมาเขาสืบทราบจนรู้ว่า “ทหารเขาวางแผนจะล้มผมตั้งแต่วันนั้นแล้ว” ซึ่งเป็นเรื่องจริง เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนการรัฐประหารปี 2549 ประมาณ 2 ปี และหลังจากนั้นก็จะมีม็อบพันธมิตรออกมา อะไรต่างๆออกมาเป็นชุด

ตอนหลังมา พอผมรู้ว่ามีคนตาย ผมโวยวายเยอะแยะ วันนั้นต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ทางใต้ เป็นเรื่องที่ต้องใช้การเมือง การพัฒนานำ ถ้ายังใช้ทหารนำแบบวันนี้ไม่มีประโยชน์ ทหารยศใหญ่ไม่เห็นไปอยู่ไปกินนอนร่วมกับทหารเล็กเลย สมัยผม ผมยังเคยไปนอนในค่ายที่สามจังหวัดด้วยซ้ำ ผมไปหมด บ้านของญาติเครือข่าย BRN ขับรถออกจากบ้านได้ 10 นาทีเจอระเบิดขู่หน้าบ้านเลย “ผมไปหมด ผมไม่เคยกลัวอะไรเลย”

Related Posts

Send this to a friend