HEALTH

มูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง จัดเสวนา สร้างความตระหนักรู้โรคมะเร็งปอด ด้วยการตรวจคัดกรองสุขภาพ

มูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง (Thai Cancer Society : TCS) จัดงานเสวนา เพื่อรณรงค์ให้สังคมตระหนักรู้ และเข้าใจ เกี่ยวกับโรคมะเร็งมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการตอกย้ำเป้าหมาย ในการให้ความรู้กับกลุ่มผู้ป่วย ญาติ และผู้ดูแล เพื่อการรับมือกับโรคที่ถูกต้อง รวมถึงสร้างความตระหนักรู้ ว่าการคัดกรองโรคมะเร็งปอด มีความสำคัญอย่างไรต่อสังคม เนื่องจากวันที่ 10 ธันวาคม เป็นวันต่อต้านโรคมะเร็งแห่งชาติ พร้อมกันนี้ได้เชิญผู้ดูแลผู้ป่วย และผู้ป่วย ร่วมแชร์ประสบการณ์ ในการรับมือกับโรคมะเร็งปอด เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ ให้ผู้ป่วยทั่วประเทศ

ดร.พญ.ประกายทิพ สุศิลปรัตน์ หรือ “คุณหมอบัว” ผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งมากกว่า 10 ปี และผู้ดูแลเพจเฟซบุ๊ก “สู้สิแม่ ก็แค่มะเร็ง” กล่าวว่า “ในฐานะผู้ดูแลที่ไม่ทันได้เตรียมใจ ก่อนทราบข่าวว่าคุณแม่เป็นโรคมะเร็งปอดระยะที่ 4 ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้คุณแม่ดูแข็งแรง และปกติดีทุกอย่าง ทั้งไม่มีอาการ ไม่มีไข้ น้ำหนักไม่ลด และไม่ได้ไอเรื้องรังแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อตรวจเจอมะเร็งปอดแล้ว คุณแม่ได้เข้าสู่ขั้นตอนการรักษา เริ่มด้วยเคมีบำบัด โดยเหตุผลที่คุณแม่วัย 70 ปี สามารถเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัดได้ เป็นเพราะร่างกายแข็งแรง”

ดร.พญ.ประกายทิพ เล่าว่า โดยตลอดทั้ง 10 ปีของการรักษา ผ่านการรักษาผสมผสาน ในการแพทย์แผนปัจจุบัน ทั้งเคมีบำบัด ยามุ่งเป้า และรังสีรักษา ได้มีการติดตามอาการ ของคุณแม่มาโดยตลอด จนถึงปัจจุบันก็ยังคงแบ่งปันเรื่องราว เส้นทางการรักษาของคุณแม่ในเพจ “สู้สิแม่ ก็แค่มะเร็ง” เพื่อเป็นการให้ความรู้และกำลังใจ แก่ผู้ป่วยและผู้ดูแลผู้ป่วย โรคมะเร็งทั่วประเทศไทย และในต่างประเทศ

“สำหรับผู้ดูแลที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย ยกตัวอย่างหมอบัวกับคุณแม่ ก้าวแรกมักจะยากที่สุดเสมอ โดยผู้ดูแลอาจมีความวิตกกังวล แต่พอตั้งสติได้จะสามารถปรับตัว ไปพร้อมกับผู้ป่วย ทั้งนี้คุณหมอให้ผู้ป่วยปฎิบัติตัวอย่างไร ผู้ดูแลจะเรียนรู้และช่วยเหลือ ให้ผู้ป่วยปฎิบัติตัว ตามคำแนะนำของแพทย์ ถ้ามีผลข้างเคียง หรืออะไรที่ต้องจัดการ ทั้งผู้ป่วยและผู้ดูแล จะช่วยกันรับมือไปด้วยกัน เพราะหน้าที่ของผู้ดูแล คือการทำให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิต ได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด”

“เช่น เรื่องของอาหารการกิน ที่ถือเป็นความชอบเฉพาะบุคคล แต่เพื่อไม่ให้กระทบกับการรักษา อาจต้องมีการปรับเปลี่ยน เช่น ในช่วงที่คุณแม่เข้ารับการเคมีบำบัด จำเป็นต้องเน้นรับประทานอาหารที่สุก ร้อน สะอาด สด ใหม่ รวมถึงหลีกเลี่ยงน้ำแข็งและผักสด หรือผลไม้ที่ปอกสำเร็จ โดยจะต้องนำกลับมาจัดการเองที่บ้าน เพื่อให้มั่นใจว่าอาหารสะอาดจริง ซึ่งผู้ดูแลจะต้องศึกษาและจัดหา สิ่งที่ผู้ป่วยสามารถรับประทานได้ และหลีกเลี่ยงผลไม้บางชนิด ที่อาจส่งผลให้ยามุ่งเป้าออกฤทธิ์ได้ไม่ดีเท่าที่ควร” ดร.พญ.ประกายทิพ กล่าว

ด้าน นส. ศุภาทร กัลยาณสุต ผู้ป่วยมะเร็งปอด หรือ “นก” เล่าว่า “เส้นทางการรักษามะเร็งปอด ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อเกือบ 9 ปีที่แล้ว โดยที่ส่วนตัวไม่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง อีกทั้งยังประกอบอาชีพผู้ช่วยแพทย์แผนไทย และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ จึงเรียกได้ว่าเป็นจุดพลิกชีวิต เมื่อตรวจพบมะเร็งปอด ผ่านการตรวจคัดกรองประจำปี ส่วนตัวนกไม่เคยมีคำถามว่า “จะหายหรือเปล่า” หรือ “เป็นระยะที่เท่าไหร่” มีแต่ถามว่า “เราจะเริ่มรักษากันยังไง”

นก บอกอีกว่า ทราบดีว่าตัวเองสามารถ ชะลอการดำเนินของโรคได้ ด้วยการเข้ารับการรักษา ด้วยยาแผนปัจจุบัน แต่สิ่งที่ผู้ป่วยควรตระหนักอยู่เสมอ คือต้องไม่ประมาทโรคมะเร็งปอด เพื่อได้รับประสิทธิภาพ จากการรักษาอย่างสูงที่สุด เห็นได้จากการที่ไม่เคยพลาดการนัด เพื่อติดตามอาการ เพราะการมีวินัยและปฏิบัติตามคำแนะนำ ของหมอมีแต่จะส่งผลดี ต่อการรักษาในระยะยาว

“เมื่อพูดถึงการรักษาโรคมะเร็งปอด หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ ความพร้อมของร่างกาย เพราะถ้าหากร่างกายแข็งแรง จะมีโอกาสรับมือกับผลข้างเคียงของยาได้ดีขึ้น ทั้งนี้ตอนที่นกได้เข้ารับการรักษาแบบเคมีบำบัด ได้รับผลกระทบจากยา คือขาอ่อนแรงจนการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การเข้าห้องน้ำ ยังเป็นเรื่องยากและใช้เวลานาน แต่ต้องสู้เพื่อไปให้ถึงจุดหมาย ดังนั้นควรมีแรงพอที่จะดูแลตัวเองได้ในระดับหนึ่ง เพื่อแบ่งเบาภาระของคนรอบข้างที่ต้องดูแลเรา”

ขณะที่ ศิรินทิพย์ ขัติยะกาญจน์ ประธานมูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง กล่าวทิ้งท้ายว่า “สิ่งที่ทางมูลนิธิเครือข่ายมะเร็งอยากรณรงค์ คือเรื่องของการตรวจคัดกรองโรค ถ้ารู้สึกว่ามีอาการผิดปกติอย่าชะล่าใจ อยากให้รีบไปโรงพยาบาล เพื่อไปตรวจจะดีที่สุด และสำหรับผู้ที่พบว่าตนเองเป็นมะเร็ง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการติดตามอาการ ไปพบแพทย์ตามนัดและหมั่นดูแลตัวเองให้ดี เพราะเราไม่อาจทราบได้เลยว่าเ ราจะเป็นอะไรหรือเมื่อไร สุดท้ายนี้อยากบอกกับทุกคนที่กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งว่า การเป็นมะเร็งไม่ได้เท่ากับตาย เพียงแค่เราใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท เราก็จะสามารถยิ้มรับวันใหม่ได้ทุกคน”

Related Posts

Send this to a friend