POLITICS

‘สมชัย’ จี้รัฐบาลเคาะข้อสรุปดิจิทัลวอลเล็ต

อย่าปล่อยประชาชนสับสน-วางแผนใช้จ่ายจนเป็นหนี้สิน คาดแจกเร็วสุดต้น พ.ค. 67 หลังทูลเกล้าฯ พ.ร.บ.งบฯ หรือหากเป็น ก.ย. 67 ตามกระแส คงรองบส่วนราชการเหลือจ่าย มองการปรับเกณฑ์ใหม่อาจกระทบความน่าเชื่อถือของพรรคการเมือง

วันนี้ (2 พ.ย. 66) รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และอดีตอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ความเห็นกับ The Reporters เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับเกณฑ์การดำเนินนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง

รศ.สมชัย กล่าวว่า ดิจิทัลวอลเล็ตถือเป็นนโยบายหลักและสำคัญของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ประชาชนจำนวนมาก อาจจะร้อยละ 70-80 ติดตามนโยบายและอยากได้เงินจำนวนดังกล่าว แต่ปัญหาคือรายละเอียดที่ไม่ชัดเจนพอให้ประชาชนเข้าใจ ทั้งแหล่งที่มาของงบประมาณ กำหนดเวลา วิธีการแจกจ่าย การใช้ในรูปแบบดิจิทัล และในพื้นที่อย่างไร สิ่งเหล่านี้รัฐบาลยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ทำให้การแถลงข่าวหรือให้ข่าวของบุคคลที่อาจไม่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่อยู่ฝั่งรัฐบาล ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนได้

รศ.สมชัย กล่าวต่อไปว่า เมื่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า ต่อจากนี้จะแถลงคนเดียว ก็ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะข้อมูลทุกอย่างจะมาจากนายกรัฐมนตรีได้โดยตรง จะได้ทราบว่าข้อสรุปเป็นอย่างไร คาดว่าจะต้องมีคำตอบในเวลาไม่นานจากนี้ไป มิฉะนั้นจะทำให้ประชาชนสับสน ร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการก็จะเกิดความลังเลและไม่แน่ใจว่าหากเข้าร่วมแล้วจะเป็นอย่างไร จึงต้องให้เวลารัฐบาลดำเนินการหาข้อสรุป ส่วนตัวคาดว่ากลาวเดือนพฤศจิกายนนี้ จะได้คำตอบจากคณะกรรมการชุดใหญ่ และนายกรัฐมนตรีจะได้แถลงอย่างเป็นทางการ

สำหรับเกณฑ์ระยะเวลาและวงเงินของนโยบายนั้น รศ.สมชัย มองว่า หากใช้งบประมาณแผ่นดิน ตามกรอบเวลาจะไม่สามารถแจกได้ก่อนวันที่ 17 เมษายน 2567 ซึ่งเป็นกำหนดทูลเกล้าฯ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตามปฏิทินงบประมาณของรัฐบาล ดังนั้น หากนโยบายนี้ใช้แต่งบประมาณแผ่นดิน โดยไม่กู้หรือใช้จ่ายเงินจากรัฐวิสาหกิจเลย คาดว่าจะมีการแจกเงินในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2567 แน่นอน

ส่วนกระแสข่าวที่จะเลื่อนไปแจกในเดือนกันยายน 2567 นั้น อาจเพราะรัฐบาลมองเห็นปัญหาว่า งบประมาณแผ่นดินไม่สามารถเจียดออกมาใช้ในนโยบายนี้ได้ถึง 5.6 แสนล้านบาท ส่วนตัวจึงคิดว่าไม่สามารถแจกเต็มได้ อาจใช้วิธีในการกรองคน แต่เมื่อกรองแล้วเหลือน้อยกว่านั้นที่ 4 แสนล้านบาทก็ยังยาก เมื่อมีโจทย์นี้ จึงอาจแจกในเดือนกันยายน 2567 ซึ่งรัฐบาลอาจทราบได้ว่าทุกส่วนราชการมีงบประมาณเหลือจ่ายในปีงบประมาณ 2567 เท่าใด

“อยากให้รัฐบาลพูดให้ประชาชนชัดเจนที่สุดโดยเร็ว อย่าตั้งความหวัง แล้วให้ประชาชนคิดวางแผนการใช้จ่ายเงินล่วงหน้า จนเป็นหนี้สินเกิดขึ้น” รศ.สมชัย กล่าว

รศ.สมชัย ยังให้ความเห็นต่อกรณีการปรับเกณฑ์การดำเนินนโยบายหลักของรัฐบาลนี้ว่า แน่นอนทำให้คนจำนวนหนึ่งไม่พอใจว่า สิ่งที่เพื่อไทยแถลงนั้นไม่เกิดขึ้นจริง สิ่งที่พรรคการเมืองพูดจะต้องสามารถทำได้จริงทั้งหมด เดิมประชาชนก็ไม่เคยคาดหวัง แต่เผอิญเรื่องนี้เป็นการตอกย้ำโดยคนของพรรคเพื่อไทย ตอกย้ำโดยนายกรัฐมนตรีเอง ซ้ำ ๆ กันว่า ให้แน่ ให้ทั้งหมด 56 ล้านคน 10,000 บาทรวดเดียว และ 1 กุมภาพันธ์

“การตอกย้ำต่าง ๆ เหล่านี้เลยทำให้ประชาชนตั้งความหวังว่าจะได้ตามนั้น ถ้าไม่เกิดขึ้นจริงก็อาจทำให้ความรู้สึกที่มีต่อประชาชนนั้นด้อยลง อาจจะรู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ ที่พูดนั้น อาจมีความน่าเชื่อถือน้อยลง ในการหาเสียงครั้งต่อไป ถ้าพรรคการเมืองเสนอนโยบายอะไรออกมา ก็จะเกิดคำพูดต่อ ๆ กันว่าเชื่อได้หรือ ? อาจจะเชื่อไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็อย่าไปเชื่อนโยบายต่าง ๆ ในช่วงการหาเสียง อันนี้สำคัญ”

รศ.สมชัย ทิ้งท้ายว่า คิดว่าพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล จึงต้องหาวิธีการจ่ายเงินได้เต็มจำนวนด้วยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วก็จำนวนกลุ่มคนให้ไม่น้อยกว่าเดิมมากเกินไปนัก อาจจะอยู่ที่ 40 ล้านคน 4 แสนล้านบาท อาจจะให้งวดเดียวหรือ 2 งวดค่อยว่าอีกทีหนึ่ง

Related Posts

Send this to a friend