HEALTH

เตือน เด็กนักเรียนแบกกระเป๋าหนัก เสี่ยงโรคกระดูกสันหลังคดเอียง ส่งผลต่อบุคลิก และการเรียนรู้

วันนี้ (26 พ.ค. 66) นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เตือน เด็กนักเรียนไม่ควรแบกกระเป๋า ที่มีน้ำหนักเกินร้อยละ 10-20 ของน้ำหนักตัว เนื่องจากหากแบกกระเป๋านักเรียน ที่มีน้ำหนักมาก อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ ต่อระบบโครงสร้างกล้ามเนื้อของร่างกาย เด็กจะมีอาการปวดบ่า ปวดต้นคอ ตลอดจนทำห้เป็นสาเหตุ ของการปวดหลังเรื้อรังได้ และยังเป็นผลให้มีลักษณะทางบุคลิกภาพที่ผิดปกติ เช่น หลังค่อม ไหล่หรือเชิงกรานดูไม่สมดุลกัน และส่งผลต่อประสิทธิภาพการเรียนรู้ของเด็ก แนะผู้ปกครองสังเกตอาการ โรคกระดูกคดเอียงเบื้องต้น หากพบควรพาเด็กมาพบแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง เพื่อทำการตรวจยืนยัน และรับการรักษาที่ถูกต้อง

นายแพทย์ณัฐพงศ์ กล่าวว่า “กระเป๋าหนังสือของนักเรียนก็ถือว่า มีผลกระทบต่อกระดูกสันหลังของเด็ก บางครั้งเด็กที่ถือกระเป๋าแบบหิ้ว หรือแบบสะพายข้างถ้ามีน้ำหนักมาก เด็กก็จะเอียงตัวไป ข้างใดข้างหนึ่งเพื่อรับน้ำหนัก ทำให้เมื่อเราเอียงตัวไปบุคลิกภาพเราก็จะเป็นท่านั้น กล้ามเนื้อก็จะพัฒนาไปในลักษณะข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งคนเราปกติถ้าใช้งานร่างกายข้างใดข้างหนึ่ง หรือซีกใดซีกหนึ่ง ข้างนั้นก็จะทำงานหนักมากกว่าปกติ ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกายของเด็ก”

ด้าน นายแพทย์อดิศักดิ์ งามขจรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลิดสิน กล่าวว่า “ผู้ปกครองสามารถสังเกตได้จากการที่เห็นลำตัวของเด็ก จะเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง หรือสังเกตพบว่ามีหัวไหล่ทั้งสองข้างหรือมีเชิงกรานไม่เท่ากัน หรือให้เด็กยืนเท้าชิดกัน และให้ก้มตัวมาทางด้านหน้าใช้มือ 2 ข้างพยายามแตะพื้น จะเห็นความนูนของหลังไม่เท่ากัน หากกระเป๋ามีน้ำหนักเกิน หรือต้องแบกเป็นเวลานานควรเปลี่ยน จากกระเป๋าแขวนหลังเป็นกระเป๋าลาก เพื่อป้องกันการปวดหลัง จึงขอแนะนำให้ผู้ปกครองควรสังเกตอาการของเด็ก หากกระดูกสันหลังผิดรูป ไหล่สูงต่ำไม่เท่ากันควรพาเด็กมาพบแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง เพื่อทำการตรวจยืนยัน และให้การรักษาที่ถูกต้องต่อไป”

ขณะที่ นายแพทย์ทินกร ปลื้มวิทยาภรณ์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านการผ่าตัดกระดูกสันหลัง ประจำหน่วยผ่าตัดกระดูกสันหลัง สถาบันออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลเลิดสิน กล่าวว่า “โรคกระดูกสันหลังคดเอียง เป็นการคดงอหรือบิดเบี้ยวของกระดูกสันหลัง ไปด้านข้างทำให้เสียสมดุล โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นกลุ่มเด็กที่มีภาวะ กระดูกสันหลังคดเอียง ที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด พบได้บ่อยถึงร้อยละ 80 แบ่งตามอายุที่เริ่มแสดงลักษณะดังกล่าว คือ 0-3 ปี 4-10 ปี และ 11-18 ปี โดยภาวะนี้พบบ่อยในเด็กผู้หญิงมากว่าเด็กผู้ชาย ส่วนกลุ่มที่สองเป็นกลุ่มภาวะกระดูกสันหลังคดเอียงที่ทราบสาเหตุ เกิดจากโรคทางระบบพันธุกรรม หรือกลุ่มโรคความผิดปกติทางระบบเส้นประสาทต่างๆ”

“ยกตัวอย่างเช่น โรคท้าวแสนปม ความผิดปกติของกล้ามเนื้อ โดยกลุ่มนี้จะทำให้มีภาวะกระดูกสันหลังคดเอียงมาก การที่เด็กแบกกระเป๋าหนัก ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะกระดูกสันหลังคดเอียงโดยตรง แต่ทำให้เกิดปัญหาในส่วนของระบบเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ สำหรับการรักษาภาวะกระดูกสันหลังคดเอียงที่เกิดขึ้น สามารถแบ่งแนวทางการรักษาออกได้เป็น 3 ข้อหลักๆ ขึ้นกับมุมความคดเอียงของกระดูกสันหลังที่เกิดขึ้น แนวทางการรักษาภาวะนี้ มีตั้งแต่การติดตามสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด การสวมชุดอุปกรณ์ป้องกันการคดเอียง ตลอดจนถึงการผ่าตัดแก้ไขภาวะดังกล่าว ดังนั้นหากผู้ปกครองสังเกตพบความผิดปกติ เกี่ยวกับความคดเอียงของกระดูกสันหลัง ควรรีบนำเด็กมาปรึกษาแพทย์เฉพาะทางทันที เพื่อวางแผนการรักษาได้อย่างถูกวิธี”

Related Posts

Send this to a friend