CRIME

DSI จับสินค้าแช่แข็ง สำแดงเท็จ-เลี่ยงภาษี ทำรัฐเสียหายกว่า 20 ล้านบาท

กรมสอบสวนคดีพิเศษ สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่การท่าเรือ และเจ้าหน้าที่ศุลกากร ตรวจค้นท่าเรือแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก พบและอายัดตู้สินค้าต้องสงสัยจำนวน 10 ตู้ หลังได้รับรายงานว่า มีเนื้อสัตว์ที่ลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เมื่อตรวจเอกสารการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พบว่าไม่ครบถ้วนตามกฎหมาย จึงสุ่มตรวจตู้สินค้าดังกล่าว ปรากฏว่า

  1. ในรายการใบขนสินค้าขาเข้า สำแดงเป็นปลาทูลังทั้งตัวแช่แข็ง ปริมาณ 84,000 กิโลกรัม ราคา 2,792,638.80 บาท แต่ผลการตรวจค้นพบเป็นสินค้าประเภทเนื้อสัตว์ ได้แก่ ขาไก่ ประเทศกำเนิด Iran อัตราอากร 40% จำนวน 3 ตู้สินค้า น้ำหนักตู้ละ 29,000 กิโลกรัม อันเป็นการสำแดงเท็จ หลีกเลี่ยงการเสียภาษี และลักลอบนำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย
  2. รายการที่ใบขนสินค้าขาเข้า สำแดงเป็นปลาเฮก ทั้งตัวแช่เข็ง (ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม) ตามประมวลรัษฎากร ปริมาณ 28,000 กิโลกรัม ราคา 1,070,511.54 บาท ผลการตรวจค้นพบเครื่องในโค (ปากหนาม) ปริมาณ 28,000 กิโลกรัม ประเทศกำเนิด Paraguay อัตราอากร 30% อันเป็นการสำแดงเท็จและหลีกเลี่ยงการเสียภาษี และลักลอบนำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย

สำหรับการนำเข้าสินค้าข้างต้น ต้องได้รับใบแจ้งอนุญาตนำซากสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักร (ร.6) จากกรมปศุสัตว์ แต่ผู้นำเข้าไม่มีใบแจ้งอนุญาตฯ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการยึดสินค้าเพื่อดำเนินการ ตามกฎหมายต่อไป กรณีดังกล่าวเบื้องต้นอาจเป็นความผิดฐานยื่น หรือยอมให้ผู้อื่นยื่นใบขนสินค้าขาเข้า เอกสารหรือข้อมูลตาม มาตรา 202 มาตรา 243 มาตรา 244 มาตรา 252 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 และ พ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่ยังได้ทำการอายัดตู้สินค้าต้องสงสัยไว้เพื่อตรวจสอบอีกจำนวน 6 ตู้สินค้า โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเร่งดำเนินการติดตามตรวจสอบและขยายผลเครือข่ายขบวนการที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต่อไป

Related Posts

Send this to a friend