CRIME

ตร.สอบสวนกลาง – อย. ทลายเครือข่ายผลิตยาแก้ไอปลอม

ตร.สอบสวนกลาง – อย. ทลายเครือข่ายผลิตยาแก้ไอปลอม พบ ทำมาแล้ว 3 ปี ส่งขายกว่า 10 จังหวัดทั่วประเทศ

วันนี้ (8 พ.ย. 65) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และ นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. แถลงผลจับกุมกวาดล้างเครือข่ายผู้ผลิตและขายยาแก้ไอปลอมรายใหญ่ เบื้องต้น มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางที่เกี่ยวข้องมากกว่า 80 รายการ มูลค่าความเสียหายประมาณ 70,000,000 บาท

สืบเนื่องจาก บริษัท เดอะเบสท์ ๒๐๑๘ ฟาร์มาซูติคัล จำกัด ผู้จัดจำหน่ายยาแก้ไอยี่ห้อ Diphenyl (ไก่แดง) และ บริษัท แกรนด์ ฟาร์ม่า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายยาแก้ไอยี่ห้อ Datissin (ฝาแดง) ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ให้ทำการสืบสวน กรณีมีผู้ผลิตยาแก้ไอปลอม ออกจำหน่ายตามร้านขายยาเป็นจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบว่า มีแหล่งผลิตยาแก้ไอปลอมยี่ห้อ Diphenyl รายใหญ่อยู่ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีจุดกระจายสินค้าอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. จึงร่วมกับ กก.5 บก.ป. และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นำหมายค้น เข้าตรวจค้นสถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและการจำหน่ายยาแก้ไอปลอม จำนวน 11 จุด แบ่งเป็นที่ จ.นครศรีธรรมราช 9 จุด และภูเก็ต 2 จุด

ผลการตรวจค้น พบว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้ต่อเติมบ้านพักอาศัยแล้วดัดแปลงเป็นโรงงานผลิตยาแก้ไอปลอม อีกทั้งยังแบ่งแยกสถานที่เป็นหลายจุด เช่น จุดเก็บขวดเปล่า จุดผสมวัตถุดิบ จุดบรรจุ จุดเก็บผลิตภัณฑ์ และจุดกระจายสินค้า เพื่อให้ยากแก่การสืบสวนติดตาม

ผลการตรวจค้น ยังสามารถจับกุมตัว นายเริงชัย (สงวนนามสกุล) ได้ที่โรงงานผลิตในพื้นที่ หมู่ 10 จ.นครศรีธรรมราช และได้ทำการตรวจยึดของกลางหลายรายการ ประกอบด้วย 1. ยาแก้ไอปลอมยี่ห้อ Diphenyl (ฝาไก่แดง) จำนวน 59,600 ขวด 2. ยาแก้ไอปลอมยี่ห้อ Datissin (ฝาแดง) จำนวน 3,950 ขวด 3. ยาแก้ไอปลอมยี่ห้อ K-cough จำนวน 1,600 ขวด 4. ยาแก้ไอปลอมยี่ห้อ A-chlordyl จำนวน 1,600 ขวด 5. ยาแก้ไอยี่ห้ออื่น ๆ (ของจริง) จำนวน 7,220 ขวด 6. ขวดยาแก้ไอเปล่าที่รอการบรรจุ จำนวน 419,720 ขวด 7. เครื่องตอกปิดฝา จำนวน 2 เครื่อง 8. เครื่องบรรจุยา ขนาด 30 ลิตร จำนวน 2 เครื่อง 9. เครื่องติดฉลาก จำนวน 3 เครื่อง 10. เครื่องปั๊มลม จำนวน 2 เครื่อง 11. ถังผสมยาแก้ไอ ขนาด 200 ลิตร จำนวน 4 ถัง และ 12. ส่วนผสมและวัตถุดิบ พร้อมทั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการผลิต จำนวนหลายรายการ

เจ้าหน้าที่ยังได้จับกุม นายอนุพงษ์ (สงวนนามสกุล) ที่โรงงานผลิตในพื้นที่ หมู่ 10 จ.นครศรีธรรมราช ในข้อหา “ครอบครอบอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ SIG SAUER ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมด้วยกระสุนปืน จำนวน 44 นัด ส่วนที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดกระจายสินค้า ผลการตรวจค้นพบ ยาแก้ไอยี่ห้อต่าง ๆ (ของจริง) จำนวน 11,400 ขวด, กล่องบรรจุภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ยาอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง

จากการซักถาม นายเริงชัย ให้การว่าตนมีหน้าที่ควบคุมดูแลการผลิตยาแก้ไอปลอม โดยมีนายภพ (สงวนนามสกุล) และ น.ส.ชญาภา (สงวนนามสกุล) สองสามีภรรยาเป็นเจ้าของโรงงาน และมีนายสุนันท์ ลูกน้องคนสนิทของนายภพ เป็นผู้ดูแลด้านการเงินและการจัดจำหน่าย

นายเริงชัย ยังให้การเพิ่มเติมว่า ตนได้ร่วมกับนายภพ , น.ส.ชญาภา และนายสุนันท์ ทำการผลิตและจำหน่ายยาไอปลอมตั้งแต่ปี 2562 โดยเริ่มต้นได้ผลิตยาแก้ไอปลอมยี่ห้อ Datissin (ฝาแดง) ต่อมาเมื่อประมาณต้นปี 2565 ได้เปลี่ยนมาผลิตยาแก้ไอปลอมยี่ห้อ Diphenyl (ไก่แดง) แทน ส่วนยาแก้ไอปลอมยี่ห้อ K-cough และยี่ห้อ A-chlordyl นายภพ ได้ซื้อมาจากบุคคลอื่น (อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลต่อไป)

เบื้องต้น การกระทำของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ฐาน “ร่วมกันผลิตและขายยาปลอม ตามมาตรา 72(1) ระวางโทษ จำคุกตั้งแต่สามปีถึงตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงห้าหมื่นบาท” และ “ร่วมกันผลิตและขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 12 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท” ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ขณะที่ นาย สุนันท์ ผู้ต้องหารายสุดท้าย ได้ติดต่อพนักงานสอบสวนเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

จากการสืบสวนเพิ่มเติม พบว่า แหล่งที่มาของวัตถุดิบในการผลิตยาและยาแก้ไอปลอม
ของนายภพ มีการสั่งซื้อน้ำเชื่อมกลูโคส (สารให้ความหวานแทนน้ำตาล) , กลิ่นราสเบอรี่ เฟเวอร์ และมีการสั่งผลิตฉลากปลอมจากบริษัทต่าง ๆ ในพื้นที่ กทม. อีกทั้งยังพบว่า ได้มีการจำหน่ายยาแก้ไอปลอมดังกล่าวไปในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เช่น กทม. , ฉะเชิงเทรา , ชลบุรี , ระยอง , นครปฐม , สมุทรสาคร , ภูเก็ต , ชุมพร , สุราษฎร์ธานี และอุบลราชธานี โดยตั้งแต่เดือน เม.ย. 64 ถึงปัจจุบัน เครือข่ายผลิตยาแก้ไอปลอม
ของนายภพ มีรายได้จากการจำหน่ายยาแก้ไอปลอมแล้ว มากกว่า 80 ล้านบาท

Related Posts

Send this to a friend