PUBLIC HEALTH

ย้ำ! ตบไหล่รักษาโรคทางตาให้หายไม่ได้ เสี่ยงสูญเสียการมองเห็นถาวร

วันนี้ (15 พ.ย. 66) แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ เผย รพ.เมตตาฯ (วัดไร่ขิง) เตือน ประชาชนอย่าหลงเชื่อ จากกรณีที่มีข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับการรักษาโรคตา ด้วยความเชื่อส่วนบุคคล เช่น การตบไหล่ ซึ่งไม่ใช่วิธีรักษาการรักษาโรคทางตา ที่สำคัญพบว่าหลังจากการรักษาด้วยวิธีดังกล่าว ไม่สามารถรักษาหายได้ และอาจจะส่งผลเสียอย่างอื่นตามมาได้ เช่น ทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ถูกต้องไม่ทันการณ์ เป็นเหตุให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้ จึงอยากเตือนประชาชน หากพบว่ามีอาการผิดปกติ เช่น ตาพร่ามัว ปวดตา จุดดำลอยไปมา คล้ายแมลงหวี่บินผ่าน อาการฟ้าแล่บ เห็นเหมือนหยากไย่ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ แต่ควรรีบพบจักษุแพทย์

แพทย์หญิงอัมพร กล่าวว่า ในด้านการรักษาเรามีแพทย์เฉพาะทางที่สามารถดูแลผู้ป่วยหลายด้าน โดยเฉพาะจักษุแพทย์ของโรงพยาบาลทุกพื้นที่ ต่างมีความสามารถในการรักษาเช่นกัน ซึ่งในปัจจุบันวิทยาการ เครื่องมือทางการแพทย์ด้านจักษุมีความก้าวหน้าให้ความแม่นยำ ในการตรวจรักษาที่ดีผู้ป่วยสามารถมั่นใจ และไว้วางใจในจักษุแพทย์ได้ หากมีอาการผิดปกติทางตาไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ อาจทำให้ลุกลามจนเกิดการสูญเสียอวัยวะได้ เพื่อลดความสูญเสียที่ป้องกันได้ เมื่อรู้สึกว่าดวงตาของเรามีภาวะไม่ปกติ ควรพบจักษุแพทย์ทันที

ด้านนายแพทย์อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์(วัดไร่ขิง) กล่าวว่า ตามที่มีกระแสข่าวออกมาว่าคุณยายท่านหนึ่ง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีอาการตามองไม่เห็นข้างหนึ่ง และอีกข้างสายตาเลือนราง มีผู้ให้ความช่วยเหลือด้วยการรักษา ตามวิธีทางความเชื่อส่วนบุคคลด้วยการตบไหล่ ซึ่งไม่ใช่วิธีรักษาการรักษาโรคทางตา โดยทั่วไปที่สามารถทำให้กลับมามองเห็นได้เหมือนปกติ และอาจจะส่งผลเสียอย่างอื่นตามมาได้

ทั้งนี้โรคทางตามีอาการผิดปกติที่สังเกตได้ เช่น ตาพร่ามัว ปวดตา จุดดำลอยไปมา คล้ายแมลงหวี่บินผ่าน อาการฟ้าแล่บ เห็นเหมือนหยากไย่ อาการเหล่านี้เป็นเพียงอาการเบื้องต้น ไม่ควรปล่อยทิ้งอาจทำให้อาการลุกลามมากขึ้น ควรพบจักษุแพทย์ที่ชำนาญการ เพื่อการรักษาที่ถูกวิธีและปลอดภัย เราสามารถการเช็คตาง่ายๆ โดยการปิดตาดูทีละข้าง หากตาสองข้างเห็นไม่เท่ากัน หรือเปลี่ยนแปลงจากเดิมควรพบจักษุแพทย์ เพื่อเป็นการป้องกันควรตรวจสุขภาพตาอย่างน้อยปีละครั้ง

นายแพทย์เอกชัย อารยางกูร รองผู้อำนวยการด้านจักษุวิทยา กล่าวว่า การรักษาด้วยวิธีตามความเชื่อส่วนบุคคล อย่างวิธีการตบไหล่พลังจิตหรืออื่นๆ ซึ่งไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยัน อาจทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษา ที่ถูกต้องไม่ทันการณ์ เป็นเหตุให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้หากท่านสังเกตพบอาการ ที่ผิดปกติทางการมองเห็น อาทิ ตาพร่ามัว ปวดตาซึ่งอาจเป็นหนึ่งในอาการของโรคต้อกระจกหรือต้อหิน จุดดำลอยไปมาคล้ายแมลงหวี่บินผ่าน อาการฟ้าแล่บ เห็นเหมือนหยากไย่ นี่เป็นอาการของโรคทางจอตา

ส่วนอาการตาแดง ตาแห้ง ระคายเคืองตาคันยุบยิบที่เปลือกตา อาจส่งสัญญาณของโรคภูมิแพ้ขึ้นตา หรือ หากชะล่าใจต่ออาการต่างๆ เหล่านี้ที่เกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจทำให้เราสูญเสีย การมองเห็นถาวรได้ เมื่อพบความผิดปกติ ให้รีบพบจักษุแพทย์ เพื่อทำการตรวจรักษาอย่างถูกวิธีและปลอดภัย ปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์ด้านจักษุ มีความก้าวหน้า และเครื่องมือทางด้านจักษุมีความทันสมัย สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ดังนั้นการพบจักษุแพทย์เฉพาะทาง ย่อมทำให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการรักษาเป็นผลที่ดีผู้สูงอายุ ผู้ที่มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นโรคต้อหิน และผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่นเบาหวาน ควรตรวจสุขภาพตาทุกปี เพื่อลดภาวะการสูญเสียการมองเห็น

Related Posts

Send this to a friend