เปลี่ยนงานบ้านเป็นการออกกำลังกาย ช่วยเผาผลาญไขมัน-กล้ามเนื้อแข็งแรงทุกส่วน
เพราะงานบ้านไม่ได้เป็นแค่งานรูทีน ที่ต้องทำเป็นประจำ เพื่อเก็บกวาดที่อยู่อาศัยให้เป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ทว่ายังเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง ที่ช่วยทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงและฝึกสมาธิได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้การทำงานบ้าน เช่น การยกของเก็บเข้าที่อย่างถูกวิธี ไม่เพียงช่วยทำให้บ้านน่าอยู่ แต่ยังเป็นการออกกำลังกายได้แทบทุกส่วน ทั้งแขนบ่าไหล่ต้นขาและคอ ตรงกันข้ามหากเราเลือกออกกำลังกาย ผ่านงานครัวที่ไม่ถูกวิธี อาจเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ที่กล้ามหลังส่วนต่างๆได้
The Reporters ได้สอบถามไปยัง “อ.ณรงค์ เทียมเมฆ” ผู้ทรงคุณวุฒิ จาก สสส.ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเอ็กเซอร์ไซส์ผ่านการทำงานบ้าน ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ ทั้งคนที่ทำงานเวิร์คฟอร์มโฮม สลับกับการเข้าออฟฟิศ หรือแม้แต่ผู้ที่ประกอบอาชีพค้าขาย ที่ต้องทำงานบ้านไปพร้อมๆกับการขายของ เพื่อให้เกิดความมีระเบียบ ของผู้อยู่อาศัยและลูกค้า ที่มาจับจ่ายสินค้านั้น รวมถึงคนที่ไม่สามารถออกกำลังกาย ผ่านการทำงานบ้าน เพราะต้องตื่นไปทำงานแต่เช้าและกลับดึกนั้น ก็สามารถมีสุขภาพที่ดี จากการเลือกขยับร่างกาย ขณะเดินทางกลับที่พักอาศัยได้เช่นกัน
อ.ณรงค์ ให้ข้อมูลว่า “การจะออกกำลังกายด้วยงานบ้านนั้น สิ่งสำคัญให้พิจารณาจากสิ่งแวดล้อม หรือบ้านของเราตั้งอยู่ในทำเลประเภทใด เช่น หากบ้านเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้นขึ้นไป ที่ประกอบอาชีพค้าขาย อันดับแรกแนะนำให้เดินขึ้นลงบันไดระหว่างชั้น 1 และชั้น 2 เพื่อทำให้กล้ามเนื้อขาแข็งแรง และหากจำเป็นต้องยกสิ่งของ เพื่อมาจัดเรียงภายในบ้าน ซึ่งเป็นร้านค้า เพื่อให้มีระเบียบและน่าซื้อนั้น หรือกรณีของคุณพ่อบ้านแม่บ้าน ที่ต้องการจัดบ้านให้ดูปลอดโปร่งปลอดภัย จากสัตว์มีพิษมาอาศัยอยู่ในช่วงหน้าฝน ด้วยการเก็บลังหรือสิ่งของชิ้นใหญ่ เช่น โต๊ะเก้าอี้ หรือชั้นวางต่างๆ หรือลังเก็บอุปกรณ์การเกษตรต่างๆ ให้เป็นระเบียบอยู่มุมใดมุมหนึ่งของบ้านนั้น”
“ทั้งนี้ท่ายกของที่ถูกต้อง คือ 1.การย่อตัวลงตรงๆเพื่อนั่งยองๆ 2.ใช้มือช้อนของ พร้อมกันนี้ให้หลังของเรายืดตรงอย่างอ 3.จากนั้นค่อยๆยืดตัวขึ้น โดยใช้โคนขาประคองเข่าและลำตัว 4.ยกของขึ้นและยืนตรง เพื่อที่จะเคลื่อนที่นำของไปวาง หรือจัดเรียงให้เป็นระเบียบ ตามหมวดหมู่ของสินค้าที่จำหน่าย ที่สำคัญสิ่งของที่ยกนั้นจะต้องไม่หนักมาก จนเกินกำลังของเราที่จะยกเพียงลำพัง ทั้งนี้เพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่กระดูกสัน จากการยกลังไปจัดเรียงสินค้าภายในร้าน”
ส่วนผู้ที่ต้องทำงานอยู่บ้าน หรือเวิร์คฟอร์มโฮม (WFH) แนะนำว่าควรหาวิธีในการมีกิจกรรม เพื่อช่วยบริหารร่างกาย โดยทุกๆ 1 ชั่วโมง หลังจากที่จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ ควรให้เวลาพักเบรคจากการทำงานประมาณ 10-15 นาที เพื่อไปเช็ดราวบันใด หรือ กวาดบ้าน ลานหน้าบ้าน รวมถึงล้างจานหลังจากรับประทานอาหารเช้า หรืออาหารกลางวัน ก็จะช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวร่างกาย จากการยก หยิบ จับสิ่งของต่างๆ และการเดินจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ทำให้เลือดลมได้ไหลเวียน ซึ่งจะลดอาการปวดเมื่อยแขนขา จากการนั่งทำงานนานๆ หรือใช้นิ้วพิมพ์งานเป็นเวลานานได้ และทำให้ร่างกายได้เผาผลาญพลังงาน
นอกจากนี้ระหว่างทำงาน ก็สามารถฝึกความแข็งแรง ให้กับกล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น นิ้วมือ ด้วยการใช้นิ้วมือทั้งสองข้าง ลูบหน้าผาก ไล่ลงมาบริเวณโหนกแก้ม ใบหู ลำคอ และบ่าไหล่ หรือแม้แต่การกำแล้วแบนิ้วมือทั้งสองข้างพร้อมๆกัน รวมถึงการตบมือและแกะมือที่ประสานกันออก ก็ช่วยป้องกันอาการนิ้วล็อค ขณะทำงานอยู่บ้านได้เช่นกัน
สำหรับคนที่เป็นพ่อบ้านแม่บ้าน แนะนำว่าอย่าอยู่นิ่ง หรือนอนดูทีวีอยู่บ้านอย่างเดียว เพราะจะทำให้เกิดพฤติกรรมเนือยนิ่ง ที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตฯลฯ แต่ระหว่างที่ดูทีวี ให้กวาดและถูบ้านไปด้วย หรือใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดถูกราวบันได ก็จะทำให้กล้ามเนื้อขาแข็งแรง จากการเดินขึ้นลงขณะทำความสะอาด ที่สำคัญทำให้บ้านสะอาดน่าอยู่ และยังช่วยลดการเจ็บป่วยจากโรคภูมิแพ้ฝุ่นละอองต่างๆได้ นอกจากนี้สามารถประยุกต์ใช้ด้ามไม้กวาด หรือ ไม้ถูพื้น เป็นอุปกรณ์ในการออกกำลังกาย แทนไม้พองขณะทำงานบ้าน ทั้งนี้เพื่อยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
“โดยการจับด้ามไม้กวาดไว้ทั้งสองมือ จากนั้นยกขึ้นลงช้าๆ หรือจับด้ามไม้กวาดด้วยสองมือ และหมุนไปทางซ้ายสลับกับการหมุนไปทางขวา เพื่อป้องกันอาการไหล่ติดในผู้สูงวัย และหนุ่มสาวออฟฟิศวัยทำงาน ที่เวิร์คฟอร์มโฮมและสลับมาทำงานบ้าน ที่สำคัญระหว่างที่เราทำงานบ้าน ไม่เพียงแค่ร่างกายได้เคลื่อนไหว แต่ยังเป็นการฝึกสมาธิได้อีกด้วย จากการจดจ่อในสิ่งที่กำลังทำ และสามารถผ่อนคลายความเครียด จากการทำงานได้”
ส่วนผู้ที่ต้องตื่นไปทำงานแต่เช้าและกลับบ้านดึก กระทั่งไม่มีเวลาออกกำลังกาย ผ่านการทำงานบ้าน ก็สามารถมีสุขภาพที่ดีได้ เช่น ระหว่างที่ต้องขึ้นรถไฟฟ้า เพื่อกลับที่พักอาศัย สามารถเลือกเดินขึ้นบันได แทนการขึ้นลิฟต์ ซึ่งตรงนี้ก็จะทำให้อย่างน้อยๆ เราได้ออกกำลังกายประมาณ 10-15 นาที หรือหากต้องการออกกำลังกายจริงๆ ก็สามารถลงก่อนถึง 1 สถานี ซึ่งคิดเป็นประมาณ 1 กิโลเมตร เพียงเท่านี้ก็ทำให้ได้เดินออกกำลังกายแล้ว โดยไม่ต้องมีข้ออ้างว่า ไม่มีเวลาทำงานบ้าน เพื่อเผาผลาญไขมันในร่างกาย หรือไม่มีเวลาว่างสำหรับออกกำลังกาย เพราะอันที่จริงทุกคนมีเวลาพอที่จะออกกำลังกายได้เสมอ โดยเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความชอบ
นอกจากการทำงานบ้าน เพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ทว่าอุปกรณ์ทำความสะอาดในบ้านอย่าง ไม้กวาด ไม้ถูพื้น รวมถึง ร่ม ขวดน้ำดื่ม (ใส่น้ำ) หรือแม้แต่หนังยางรัดถุงแกง ที่ล้างทำความสะอาด และเก็บรวบรวมไว้ ก็สามารถถักเป็นยางยืด ที่ประยุกต์ใช้เป็นอุปกรณ์ในการออกกำลังกาย เพื่อยืดเหยียดกล้ามเนื้อในผู้สูงอายุได้เช่นกัน ที่งานนี้รับรองสุขภาพดีกันถ้วนหน้า จากการทำงานบ้านที่ไม่ใช่เรื่องบ้านๆ…จริงไหมคะ