FEATURE

ทำบุญออนไลน์ ได้บุญไหม? ทำบุญอย่างไรให้ใจผ่องแผ้ว ข้อคิดดีๆ รับวันมาฆบูชา

คำถามที่เกิดขึ้นในใจของคนที่ชอบทำบุญ และ “สายบุญ” มีความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป คือคำถามที่ว่า “ฝากคนทำบุญได้บุญไหม” หรือคำถามของยุคใหม่นี้คือ “โอนเงินทำบุญออนไลน์ ได้บุญหรือเปล่า”

ผู้สูงอายุหลายท่าน ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องของพิธีการ และขนบในการทำบุญ โดยเลือกที่จะไปทำบุญที่วัด ตักบาตรด้วยตนเอง แม้จะมีข้อจำกัดทางกายภาพ หรือการเดินทางก็ยังใช้ความพยายามในการทำบุญ และปฏิเสธทางเลือกในการฝากคนไปทำบุญ หรือโอนเงินทำบุญออนไลน์ ในขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งเลือกจะทำบุญด้วยความสบายใจ และความสะดวก โดยโอนเงินทำบุญออนไลน์ เพราะรวดเร็วกว่า และสามารถทำได้ทันที ตัดข้อจำกัดเรื่องอื่นๆ ด้วยเชื่อว่าการสร้างบุญเกิดจากกุศลเจตนา และความบริสุทธิใจ

The Reporters ได้สอบถามไปยัง พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กลฺยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เกี่ยวกับเรื่องนี้ และแง่คิดการทำบุญ โดยย้ำว่าไม่ใช่เพียงทำอย่างไรจึงได้บุญ แต่ต้องละเว้นการทำบาปเช่นเดียวกัน

พระพยอม กล่าวว่า “การทำบุญนั้นขอให้มีจิตที่เป็นกุศล และมีเจตนาที่ดีก็เท่ากับว่าได้บุญแล้ว ผู้สูงอายุต้องการมาทำบุญที่วัด แต่ลูกหลานไม่พร้อมหรือไม่สามารถมาส่งได้ ผู้สูงวัยสามารถทำบุญด้วยการโอนเงินทำบุญได้ แต่สิ่งสำคัญนั้นการทำบุญในวันมาฆบูชาที่จะมาถึงนี้ ก็อยากให้นำคำสอนของหลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง ที่ท่านได้บอกไว้ว่า “การทำบุญให้ได้บุญนั้นจะต้องละบาป” ซึ่งหลวงพ่อชาได้บอกว่า มีคนกทม.นำเงินไปทำบุญที่วัดเป็นจำนวนมาก และแทนที่ท่านจะชอบ แต่หลวงพ่อชาท่านได้บอกกับผู้ทำบุญนั้นว่า ถ้าจะทำบุญให้ได้บุญนั้น ไม่จำเป็นต้องมีเงินมาก แต่สิ่งสำคัญเมื่อทำบุญแล้ว ท่านต้องละการทำบาปด้วยจึงจะได้บุญ ซึ่งก็คล้ายกับการอาบน้ำกับการแต่งตัว เพราะถ้าเราทำบุญด้วยเงินจำนวนมาก แต่เราไม่ละเว้นบาปก็ไม่ได้บุญ หรือเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า เหมือนการแต่งตัวแต่ยังไม่ได้อาบน้ำ หรือยังไม่ได้ชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากตัว ดังนั้นต่อให้ทำบุญด้วยเงินเยอะแค่ไหนก็ไม่ได้บุญ เพราะผู้ทำบุญยังไม่ละการทำบาป”

ส่วนกรณีของการโอนเงินช่วยเหลือผู้ที่ได้รับทราบเรื่องราวมาว่าเขาเดือดร้อนลำบาก แต่สุดท้ายมาพบว่าเขาไม่ได้ลำบากจริง หลวงพ่อแนะนำว่า “สิ่งสำคัญนั้นเราต้องเข้าใจก่อนว่า ในสังคมนั้นมันมีทั้งคนที่ลำบากและเดือดร้อนจริง แต่คนที่แสสร้างแกล้งจนก็มีอยู่จริง ในส่วนของคนที่ยากไร้จริง และมีคนบริจาคช่วยไป ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นการได้ทำบุญกุศล เพราะคนที่ได้รับบริจาคเดือนร้อนจริง ที่สำคัญคนดีที่ตกยากนั้น เมื่อได้รับเงินช่วยเหลือพอแล้ว เขาก็จะขอปิดบัญชีทันที ส่วนผู้ที่หลอกลวงผู้อื่นว่าจนว่าเดือนร้อนนั้น ก่อนอื่นหลวงพ่อ ขอให้ผู้ที่คิดจะบริจาคเงินออนไลน์ ควรสืบหาข้อมูลก่อนว่าเขาจน หรือเดือดร้อนจริงหรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้น ก็จะเท่ากับเราไปส่งเสริมผู้ที่หากิน กับผู้อื่นด้วยการคดโกง”

ด้าน โบว์-ณชา จึงกานต์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คันนา โกรเซอรีส์ จำกัด เซเลบริตี้สายบุญ ได้ให้มุมมองเกี่ยวกับการทำบุญออนไลน์ไว้น่าสนใจ โดยเฉพาะการทำบุญให้ได้บุญ ต้องมาพร้อมความปล่อยวาง และรู้จักเสียสละทรัพย์เพื่อผู้อื่นอย่างแท้จริง เพื่อรับวันมาฆบูชาที่จะมาถึงนี้

ณชา กล่าวว่า “การทำบุญออนไลน์ได้บุญหรือไม่นั้น ส่วนตัวโบว์มองว่าทั้งหมดนั้น มันอยู่ที่จุดประสงค์และเจตนาของการทำบุญ เพราะสุดท้ายแล้ว ถ้าเป็นการทำกุศลที่เต็มไปด้วยความสะอาด สบายใจ และเต็มไปด้วยการปล่อยวาง รวมถึงเมื่อทำบุญแล้วเราได้ทำทานด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการละวาง และเป็นการให้ผู้อื่นอย่างสูงส่งและเสียสละ ถือว่าได้บุญทั้งนั้นค่ะ ที่สำคัญโบว์มองว่าการทำบุญ ถือว่าเราทำหน้าที่ของเราในฐานะชาวพุทธแล้ว ดังนั้นทุกอย่างถ้าทำด้วยความสบายใจมันก็จบแล้ว เพราะหลักของการทำบุญให้ได้บุญ คือเมื่อเราทำบุญแล้วถ้าเราละวางได้เพียงเท่านี้ก็ได้บุญแล้วค่ะ”

Related Posts

Send this to a friend