FEATURE TECH

ตลาดคริปโตซบ ราคาร่วงหนัก – ส่งผลกระทบ 7 ข้อใหญ่

ในรอบประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา  ราคาเหรียญคริปโตฯทุกสกุลตกดิ่งร่วงหนักลงมาอย่างมาก แม้ไม่กี่เดือนหลังนี้จะชะลอการดิ่งลงแล้ว  แต่ก็กลับกลายเป็นความซึมเซา ปริมาณซื้อขายต่ำ หายไปจากกระแสความสนใจของผู้คน  ต่างจากช่วงปีที่แล้วที่ตื่นตัวนิยมเข้าลงทุนเก็งหรือกำไรกันมาก

การตกต่ำของตลาดเงินสกุลดิจิตัลนี้ มีผลกระทบไปในหลายวงการ และหลายกลุ่มคน  ซึ่ง The Reporters เราได้รวบรวมสรุปมาให้บางส่วนดังนี้

1. คนรุ่นใหม่เงินเก็บหดหาย

หลายปีมานี้ คนรุ่นใหม่ ทั้งวัยทำงานตอนต้น  ไปถึงวัยเรียน นำเงินเก็บส่วนหนึ่งหรือทั้งหมด ไปซื้อเหรียญคริปโตฯเพื่อลงทุนและเก็งกำไรกันมากมาย จากเดิมที่เน้นฝากไว้กับธนาคาร หรืออย่างมากก็ซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น

และเมื่อค่าเงินคริปโตดิ่งหนักและซบเซาอย่างทุกวันนี้ คนรุ่นใหม่เหล่านี้ย่อมมีเงินเก็บออมน้อยลงมากน้อยแล้วแต่กรณีไป  เช่นถ้าใครทุ่มไปกับเงินดิจิตัลบางสกุลที่ดิ่งแรงมากก็อาจเสียหายหนักเป็นพิเศษ

ตัวอย่างเช่นเหรียญสกุล Luna ( ลูน่า ) ที่ทาง ก.ล.ต. ประเทศไทยได้รวบรวมข้อมูลไว้ พบว่าคนไทยกว่า 2 แสนคนได้เข้าไปซื้อขายเหรียญ Luna และมีราว 96% ขาดทุนสุทธิกับเงินดิจิตัลสกุลนี้ โดยขาดทุนรวมกันทุกคนประมาณ 980 ล้านบาทหรือเกือบ 1 พันล้านบาท เฉลี่ยตกคนละราว 5 พันบาท

ส่วนเหรียญอื่นๆนอกจากนี้ ก็สร้างการขาดทุนมากกว่ากำไรให้ประชาชนที่เข้าไปเกี่ยวข้องต่างๆกันไป  โดยตัวเลข % ขาดทุนอาจจะน้อยกว่าที่ Luna ก่อไว้ แต่เมื่อรวมตัวเลขกันแล้วน่าจะเป็นเม็ดเงินมากกว่า  โดยเฉพาะกับเหรียญสกุลใหญ่ๆเช่น Bitcoin, Ethetium

2. ผู้ฝากเงิน ( คริปโตฯ )  โดนห้ามถอนชั่วคราว

เมื่อค่าเงินสกุลดิจิตัลต่างๆตกต่ำต่อเนื่อง ก็ทำให้บริการรับฝากเงินคริปโตฯกินดอกเบี้ย หรือที่เรียกกันว่า”DeFi” ( ดีฟาย ) หลายๆราย  ที่ระดมเงินประชาชนไปซื้อเหรียญคริปโตต่างๆ พากันขาดทุนจน “ล้ม” และทำให้ผู้ฝาก “ถอนเงินไม่ได้”   สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้ฝากเงินในระบบนี้หลายรายทั่วโลก

ตัวอย่างเช่นบริษัท Celsius Network ที่ได้ประกาศไม่ให้ผู้ใช้ถอนเงินตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาพร้อมกับประกาศยื่นขอล้มละลายตามกฎหมาย Chapter 11 ของสหรัฐอเมริกา เพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ

และยังมีอีกหลายบริษัทและกองทุนคริปโตที่ยื่นขอล้มละลายไปในลักษณะคล้ายกัน เช่น Three Arrows Capital, Voyager, ฯลฯ

ส่วนในไทยเองก็มีกรณีของบริษัท Zipmex ที่มีบริการฝากเงินดิจิตัล “ZipUp” และได้ประกาศระงับการถอนเงินตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ 

ซึ่งกรณี ZipUp นี้ก็มาจากการที่ทาง Zipmex ได้นำเงินทุนที่ระดมได้ ไปฝากกับบริการรับฝากเงินลักษณะคล้ายๆกันนี้ที่ต่างประเทศ  ซึ่งเมื่อบริการเหล่านั้นระงับการถอน  ก็ส่งผลต่อเนื่องมาถึง ZipUp เช่นกันนั่นเอง

3. บริษัทคริปโตฯขาดทุนหนัก – บางรายลด/เลิกจ้างพนักงาน 

บริษัทเอ็กซ์เชนจ์ซื้อขายรายใหญ่ๆก็พากันประกาศผลประกอบการขาดทุน  เช่น Coinbase ที่ขาดทุนไตรมาส 2 ปีนี้และมีตัวเลขสำคัญๆลดลงต่อเนื่อง 

ตัวอย่างเช่นปริมาณการซื้อขายลดต่ำเหลือ 217 พันล้านดอลลาร์ หรือลดลง 60% ( กว่าครึ่ง ) เทียบกับจุดสูงสุดในไตรมาส 4 ปี 2021  ส่งผลให้รายได้ของ Coinbase ลดลง 68% ตามไปด้วย และตัวเลขขาดทุนก็เพิ่มสูงขึ้นทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์

… ซึ่งนั่นทำให้ Coinbase ประกาศปลดพนักงานออก 1,100 คน คิดเป็น 18% หรือเกือบหนึ่งในห้าของพนักงานทั้งหมดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา  โดยพนักงาน Coinbase ที่ถูกปลดจะได้รับเงินชดเชยอย่างน้อย 14 สัปดาห์ และเพิ่มขึ้นตามอายุงาน

บริษัทที่สองที่ปลดพนักงาน ก็คือ Blockchain.com ซึ่งเป็นเอ็กซ์เชนจ์ซื้อขายคริปโตเช่นกัน ที่ได้ประกาศปลดพนักงานออก 150 คน หรือคิดเป็น 25% ของพนักงานทั้งบริษัท และลดเงินเดือนผู้บริหารกับซีอีโอไปด้วยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

อีกบริษัทที่ลดคนเช่นกัน ก็คือ Crypto.com ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายคริปโตอีกราย  โดยประกาศปลดพนักงาน 260 คน คิดเป็น 5% ของพนักงานทั้งหมดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และปลดเพิ่มอีกหลายร้อยคนโดยไม่ประกาศจำนวนชัดเจนเมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา

4. งบโฆษณาของบริษัทคริปโตหายไป

ปีก่อนนี้ตอนที่ตลาดเงินคริปโตยังดีและคึกคักนั้น บริษัทคริปโตต่างๆทั่วโลกพากันจ้างดาราหรือนักกีฬาชื่อดังเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณา และซื้อเวลาออกทางทางทีวีรายการใหญ่ๆเช่นในการแข่งขัน Super Bowl ที่ค่าโฆษณาแพงมากๆ

ตัวอย่างเช่นบริษัท Crypto.com จ้างดารา Matt Damon และจ้าง LeBron James นักบาสเกตบอลชื่อดัง,  ส่วนบริษัท FTX จ้างดารา Larry David และจ้าง Tom Brady ผู้เล่นอเมริกันฟุตบอลชื่อดัง, และยังมีอีกหลายรายของบริษัทอื่นๆ

แต่มากลางปีนี้จนถึงปัจจุบัน หลายๆบริษัทสายคริปโตลดงบโฆษณาลงอย่างมาก จากที่เคยพุ่งสูงถึง 85 ล้านดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ดิ่งลงเหลือ 3 ล้านดอลลาร์ฯในเดือนมิถุนายนปีเดียวกัน และเหลือแค่ 3.6 แสนดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคมปีนี้

อีกบริษัทคือ Crypto.com ที่ได้ถอนตัวจากการเป็นสปอนเซอร์การแข่งขันฟุตบอล UEFA Champions League ทั้งที่ได้เซ็นสัญญาสปอนเซอร์นาน 5 ปี มูลค่า 495 ล้านดอลลาร์ไปก่อนนี้ไม่นาน

ก่อนนี้ Crypto.com เซ็นเตรียมเป็นสปอนเซอร์มหกรรมกีฬาอย่างจริงจัง เช่น ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์, ซื้อสิทธิใช้ชื่อสนามแข่งของทีม L.A. Lakers, และสปอนเซอร์การแข่งขัน F1, ฯลฯ โดยคาดว่าทั้งหมดจะโดนทยอยยกเลิกล้มแผนต่อๆไป

5. กระแส NFT และ metaverse ดิ่งวูบทันที ทั้งที่เพิ่งแจ้งเกิด

NFT คือสินทรัพย์ดิจิตัลประเภทใหม่ ที่ไม่ใช่เงินสกุลดิจิตัล ไม่ใช่เงินคริปโต แต่เป็นไฟล์รูปภาพหรือคลิปสั้นๆ โดยส่วนใหญ่จะเป็นงานวาดเชิงศิลปะหรือกราฟฟิกดิจิตัล

ทั้งนี้ NFT ( Non-Fungible Token ) ชูจุดขายว่าเป็น “ดิจิตัลโทเคนซึ่งไม่สามารถถูกทำซ้ำปั๊มพ์เพิ่มได้” เพราะสร้างในเทคโนโลยี Blockchain ที่มีการกระจายกันตรวจสอบกันในวงกว้าง 

ภาพ NFT จะสามารถซื้อขายจ่ายโอนให้กันได้เหมือนกับ Bitcoin, Ethereum หรือสกุลเงินดิจิตัลอื่นๆ จึงถูกใช้เก็งกำไรหรือลงทุนได้เช่นกัน  โดยราคาขึ้นกับความต้องการของตลาด, ความหายาก, จำนวนที่ผลิต, ฯลฯ

… ตลาด NFT แจ้งเกิดและมาแรงมากเมื่อปีที่แล้ว   แต่เริ่มแผ่วเมื่อต้นปีนี้ และดิ่งลงช่วงกลางปี  และขณะนี้ก็ซบเซามาก  ซึ่งก็เป็นผลกระทบต่อจากการที่เหรียญคริปโตสกุลต่างๆดิ่งลดค่าลงนั่นเอง

โดยจากมูลค่าการซื้อขาย 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์เดือนมกราคมปีนี้ 2022  หลังจากนั้นก็ดิ่งลงต่อเนื่องจนล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2022 ที่ผ่านมา ก็เหลือปริมาณการซื้อขายรวมทั้งเดือนเหลือ 466 ล้านดอลลาร์เท่านั้น คือเหลือแค่ราว 3% ของเดือนมกราคม

6. เกมคริปโตกลายเป็น “แชร์ลูกโซ่” ที่ล่มสลายต่อๆกัน

ปีที่แล้วต่อเนื่องมาถึงต้นปีนี้ เกมคริปโต หรือ “Gamefi” เป็นกระแสฮิตในหมู่คนรุ่นใหม่ ต่างพากันเจียดเงินเก็บ ทุ่มเงินออม ไปลงในเกมกันอย่างคึกคัก เช่น Axie Infinity ซื้อและเลี้ยงสัตว์ประหลาดแทนเงินคริปโต, CryptoCars ซื้อและสะสมรถ (ในเกม) แทนเงินคริปโต, ฯลฯ

เกมเหล่านี้จะเล่นได้  ก็มักต้องเริ่มด้วยการจ่ายค่าซื้อ “เหรียญ” ในเกม จากนั้นก็นำเหรียญไปซื้อตัวละครหรือสิ่งของในเกม  แล้วคลิกนำตัวละครกับสิ่งของไปทำภารกิจต่างๆ พร้อมกับสะสมตัวละครและสิ่งของเพิ่มไปเรื่อยๆ

แล้วหลังจากนั้นตัวเงินเหรียญในเกมก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามระยะเวลาและภารกิจที่ทำ ใช้เวลาเป็นเดือนๆหรือๆเป็นปีจึงจะคืนทุนที่ลงไปตอนแรก

แต่ปีนี้เหรียญคริปโตทุกสกุลดิ่งหนัก  รวมถึงเหรียญเกมเหล่านี้ด้วย  จึงทำให้ผู้เล่นหลายๆเกมขาดทุน  และระบบหลายๆเกมก็พังทลาย ส่งผลวนเวียนต่อเนื่องจนหลายๆเกมต้องปิดตัวไป

และนั้นทำให้นักเล่นเกม ( นักเก็งกำไร ) เหล่านี้จำนวนมากขาดทุนกันมากมาย เงินที่ลงไปกลายเป็นศูนย์หรือเกือบเหลือศูนย์  เช่นเกม Cryptomine, Crypto Blade, Crypto City, BNB Heroes, Monster Grand Prix, … ฯลฯ

ส่วนเกมที่ยังเหลือรอด  รวมถึงโลก metaverse ต่างๆเช่น Decentraland และ Sandbox นั้น  แม้จะยังอยู่  แต่ตัวเลขจำนวนคนเล่น และจำนวนธุรกรรมซื้อขายที่ดิน(ในเกม)ก็ซบเซาลงมากเช่นกัน หากเทียบกับปีที่แล้วและต้นปีนี้ 

(อ่านเรื่องเกมคริปโตที่ The Reporters รายงานไว้เมื่อเดือนมกราคม 2022 ได้ที่thereporters.co/tech/290120222000 )

7. ราคาการ์ดจอตกแรง

หลายๆปีที่ผ่านมา มีสินค้าประเภทหนึ่ง ซึ่งฟังเผินๆเหมือนไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับเหรียญคริปโต  แต่ที่จริงแล้วเกี่ยวข้องอย่างมากมาโดยตลอด นั่นคือ “การ์ดจอ”

“การ์ดจอ” ( graphic card หรือ GPU ที่ย่อมาจาก graphic processing unit ) นี้ ปกติใช้ต่อพ่วงภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อประมวลผลภาพสามมิติเคลื่อนไหวในเกมต่างๆ ให้มีพื้นผิว สีสัน แสงเงา และการขยับที่สมจริง

แต่ด้วยลักษณะการคำนวณทางคณิตศาสตร์ภายในวงจรของการ์ดจอทั้งหลาย  บังเอิญเหมาะกับใช้ประมวลผลธุรกรรม blockchain ที่เป็นระบบหลักของเหรียญคริปโตหลายๆสกุลใหญ่ๆด้วย

ฉะนั้นเมื่อราคาเหรียญพุ่งสูงต่อเนื่องตลอดหลายปีก่อน  จึงทำให้คนแห่ซื้อการ์ดจอไป “ขุดเหรียญ” คือประมวลผลแลกเหรียญตอบแทน  ทำให้ราคาการ์ดจอพุ่งสูงจนคนที่ซื้อไปเล่นเกมอย่างเดียวก็ซื้อไม่ไหว

แต่ล่าสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 ที่ผ่านมา ราคาการ์ดจอได้ดิ่งลงต่อเนื่อง จนถึงตอนนี้ ( ตุลาคม 2022 ) ยี่ห้อต่างๆก็ลดลงไปแล้วราว 40% – 50% ซึ่งเป็นผลจากความตกต่ำของตลาดเงินคริปโตฯ ทำให้ “นักขุดเหรียญ” หรือผู้สนใจ ทยอยกันลดหรือเลิกขุดกันเป็นจำนวนมากทั่วโลก 

ในบรรดาผลกระทบทั้งหมด  ดูเหมือนข้อนี้จะเป็นข้อเดียวที่มีข้อดีอยู่ด้วย  นั่นคือนักเล่นเกมที่จะซื้อคอมฯใหม่ก็ซื้อได้ในราคาถูกลง  โดยผลลบคงกระทบแค่กับบริษัทผู้ผลิตการ์ดจอ และร้านคอมฯที่สต็อคการ์ดจอไว้มากๆเท่านั้น

นอกจาก 7 ข้อที่กล่าวไป  ยังอาจมีผลกระทบด้านอื่นๆอีกหลายอย่างที่เราไม่ได้รบรวมไว้ ซึ่งหากผู้อ่านท่านใดสนใจเสนอแนะแลกเปลี่ยน  ก็จะเป็นการดีที่จะช่วยกันบันทึกประวัติศาสตร์เศรษฐกิจหน้านี้ไว้ด้วยกัน  เพื่อเป็นการช่วยกันศึกษาเพิ่มเติมต่อๆไป

ข้อมูลข่าวจาก
coinbase.com/blog/a-message-from-coinbase-ceo-and-cofounder-brian-armstrong
coindesk.com/business/2022/07/21/blockchaincom-cuts-25-workforce-amid-crypto-bear-market
theverge.com/2022/8/18/23309439/crypto-com-layoffs-unannounced-july-august-bear-market
businesswire.com/news/home/20220713005911/en/Celsius-Network-Initiates-Financial-Restructuring-to-Stabilize-Business-and-Maximize-Value-for-All-Stakeholders
bloomberg.com/news/articles/2022-08-17/crypto-ads-starring-matt-damon-tom-brady-vanish-from-television
coindesk.com/business/2022/09/01/cryptocom-pulls-plug-on-495m-champions-league-sponsorship-deal-report
bloomberg.com/news/articles/2022-09-28/nft-volumes-tumble-97-from-2022-highs-as-frenzy-fades-chart#xj4y7vzkg
sec.or.th/TH/Template3/Articles/2565/140765.pdf

Related Posts

Send this to a friend